เปรียบเทียบ 2 มหาเศรษฐีชื่อดัง อีลอน มัสก์และเจฟฟ์ เบโซส์
อีลอน มัสก์และเจฟฟ์ เบโซส์ 2 มหาเศรษฐีชื่อดังที่มักตกเป็นข่าวอยู่บ่อยครั้ง หากดูอันดับมหาเศรษฐีในปัจจุบันพบว่าอีลอน มัสก์เป็นมหาเศรษฐีอันดับ 1 ของโลกคนปัจจุบันส่วนทางเจฟฟ์ เบโซส์มหาเศรษฐีอันดับ 2 ของโลก คาดว่าอีลอน มัสก์มีทรัพย์สิน 287.6 พันล้านดอลลาร์ หรือ 9.6 ล้านล้านบาท ส่วนทางเจฟฟ์ เบโซส์มีทรัพย์สิน 189.3 พันล้านดอลลาร์ หรือ 6.3 ล้านล้านบาท
ทั้ง 2 คนนี้นอกจากความรวยและมีมูลค่าทรัพย์สินมหาศาลยังมีแนวคิดบางอย่างที่คล้ายกัน จุดเริ่มต้นธุรกิจของทั้ง 2 คน นี้มาจากการเขียนโปรแกรมและเปิดเว็บไซต์แต่เป็นในรูปแบบบริการที่แตกต่างกัน
อีลอน มัสก์ เกิดในปี 1971 ในประเทศแอฟริกาใต้ ก่อนย้ายไปแคนาดาและสหรัฐอเมริกา สำเร็จการศึกษาจากมหาวิทยาลัยเพนซิลวาเนีย ปริญญาศิลปศาสตรบัณฑิตสาขาเศรษฐศาสตร์และปริญญาวิทยาศาสตรบัณฑิตสาขาฟิสิกส์
ในปี 1995 อีลอน มัสก์ ก่อตั้งบริษัทซอฟต์แวร์ Zip2 โดยเขาเป็นแกนหลักสำคัญในการเขียนโปรแกรม จุดเปลี่ยนสำคัญของอีลอน มัสก์เกิดขึ้นในปี 1999 ช่วงที่เริ่มก่อตั้งบริษัท X.com ธุรกิจด้านการเงินออนไลน์ ก่อนควบรวมกิจการกับ Paypal ภายหลังออกจาก Paypal อีลอน มัสก์นำเงินไปลงทุนในบริษัทใหม่ของตัวเองที่เกี่ยวกับธุรกิจขนส่งอวกาศ SpaceX ในช่วงปี 2017 อีลอน มัสก์กลับไปซื้อโดเมนของเว็บไซต์ X.com กลับคืนมาโดยให้เหตุผลว่ามันมีคุณค่าทางจิตใจ
บริษัท SpaceX เป็นการลงทุนครั้งใหญ่ของอีลอน มัสก์ ในช่วงแรกเขาต้องการนำจรวดรัสเซียมาใช้งานในภารกิจขนส่งอวกาศแต่สุดท้ายค้นพบว่าผลิตจรวดขึ้นมาใช้เองคุ้มค่ากว่าในระยะยาว อย่างไรก็ตามการทดสอบจรวด Falcon 1 ประสบความล้มเหลวถึง 3 ครั้งในช่วงปี 2006-2008 จนเกือบทำให้อีลอน มัสก์ล้มละลาย อย่างไรก็ตามการทดสอบในครั้งที่ 4 ประสบความสำเร็จและบริษัทก็พัฒนาจรวดอย่างรวดเร็วโดยได้รับสัญญาและการสนับสนุนจากนาซา
ปัจจุบันบริษัท SpaceX กำลังอยู่ในช่วงของการพัฒนาจรวด Super Heavy และยานอวกาศ Starship ซึ่งกลายเป็นการเปลี่ยนโฉมหน้าของวงการอวกาศครั้งสำคัญ เพื่อเป้าหมายการส่งมนุษย์กลับไปยังดวงจันทร์และดาวอังคารในอนาคต
บริษัท Tesla ความจริงแล้วไม่ได้ก่อตั้งโดยอีลอน มัสก์แต่ก่อตั้งโดยมาร์ติน เอเบอร์ฮาร์ด (Martin Eberhard) และ มาร์ค ทาร์เพนนิง (Marc Tarpenning) อย่างไรก็ตามการเข้ามาลงทุนและบริหารของอีลอน มัสก์มีส่วนสำคัญที่ทำให้ Tesla กลายเป็นบริษัทรถยนต์พลังงานไฟฟ้าอันดับต้น ๆ ของโลก นอกจากนี้ยังประกอบธุรกิจอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้องกับเทคโนโลยีพลังงานไฟฟ้า
นอกจากบริษัท SpaceX และ Tesla อีลอน มัสก์ยังอยู่เบื้องหลังบริษัทสำคัญและโครงการใหม่ ๆ ที่น่าสนใจอีกหลายแห่ง เช่น การพัฒนาเทคโนโลยีเชื่อมต่อสมองมนุษย์เข้ากับคอมพิวเตอร์ Neuralink ระบบขนส่งมวลชนผ่านทางอุโมงค์ใต้ดิน The Boring Company การนำเสนอแนวคิด Hyperloop แนวคิดการพัฒนาเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ OpenAI และอินเทอร์เน็ตผ่านดาวเทียม Starlink รวมไปถึงล่าสุดที่อีลอน มัสก์เข้าถือหุ้นใหญ่ในบริษัท Twitter
เจฟฟ์ เบโซส์ เกิดในปี 1964 ในประเทศสหรัฐอเมริกา สำเร็จการศึกษาจากมหาวิทยาลัยพรินซ์ตันปริญญาด้านวิศวกรรมไฟฟ้าและวิทยาศาสตร์คอมพิวเตอร์ เจฟฟ์ เบโซส์ประสบความสำเร็จจากการก่อตั้งธุรกิจขายหนังสือออนไลน์ Amazon ก่อนขยายเป็นธุรกิจอีคอมเมิร์ซชั้นนำของโลก ด้วยธุรกิจค้าขายออนไลน์ขนาดใหญ่เคยทำให้เจฟฟ์ เบโซส์กลายเป็นมหาเศรษฐีอันดับ 1 ของโลก
ในช่วงปี 2000 เจฟฟ์ เบโซส์เริ่มหันเหความสนใจไปในธุรกิจอวกาศและเริ่มก่อตั้งบริษัท Blue Origin แม้ว่าโครงการพัฒนาจรวดของบริษัทจะเป็นไปอย่างล่าช้าเมื่อเทียบกับบริษัท SpaceX แต่ด้วยความมุ่งมั่นและเงินทุนมหาศาลที่สนับสนุนทำให้เทคโนโลยีอวกาศของบริษัทพัฒนาอย่างต่อเนื่อง
ในช่วงปี 2021 บริษัท Blue Origin ประสบความสำเร็จในการนำนักท่องเที่ยวอวกาศกลุ่มแรกขึ้นสู่อวกาศแต่เป็นระดับขอบอวกาศนักท่องเที่ยวสัมผัสอวกาศเป็นเวลาสั้น ๆ ก่อนเดินทางกลับโลก นอกจากนี้บริษัทยังเตรียมพัฒนาและทดสอบจรวด New Glenn ซึ่งเป็นจรวดรุ่นใหม่ของบริษัทซึ่งจะถูกใช้งานในภารกิจขนส่งอวกาศในอนาคต รวมไปถึงโครงการอินเทอร์เน็ตผ่านดาวเทียม Project Kuiper
นอกจากความสนใจด้านของเทคโนโลยีอวกาศ เจฟฟ์ เบโซส์ยังเป็นบุคคลหนึ่งที่สนใจด้านของเทคโนโลยีหุ่นยนต์ รถยนต์พลังงานไฟฟ้าโดยการเข้าซื้อหุ้นของบริษัทรถยนต์พลังงานไฟฟ้า รวมไปถึงเทคโนโลยีชีวภาพเพื่อรักษาโรคต่าง ๆ ของมนุษย์รวมไปถึงการรักษาสภาพร่างกายลดการชราภาพของมนุษย์
อีลอน มัสก์และเจฟฟ์ เบโซส์ถูกนำมาเปรียบเทียบบ่อยครั้งเนื่องจากทั้ง 2 คน มีแนวคิดหลายอย่างที่คล้ายจนดูราวกับว่ากำลังแข่งขันกันเพื่อให้ภารกิจของตัวเองสำเร็จก่อน อาจกล่าวได้ว่าความสำเร็จและร่ำรวยของมหาเศรษฐีทั้ง 2 คนนี้เป็นตัวแทนความสำเร็จของคนยุค .com และตัวแทนของบุคคลที่มีความฝันและทำงานโลดแล่นอยู่ในวงการสายเทคโนโลยี
ที่มาของข้อมูล forbes.com businessinsider.com cnbc.com