รีเซต

แคลิฟอร์เนียสั่งห้ามวิ่งรถยนต์ไร้คนขับของ “Cruise” ในเมืองซานฟรานซิสโก

แคลิฟอร์เนียสั่งห้ามวิ่งรถยนต์ไร้คนขับของ “Cruise” ในเมืองซานฟรานซิสโก
TNN ช่อง16
26 ตุลาคม 2566 ( 11:19 )
32
แคลิฟอร์เนียสั่งห้ามวิ่งรถยนต์ไร้คนขับของ “Cruise” ในเมืองซานฟรานซิสโก

หน่วยงานรัฐแคลิฟอร์เนีย สั่งระงับใบอนุญาตบริการแท็กซี่ไร้คนขับ “ครูซ” ของบริษัทเจนเนอรัล มอเตอร์ โดยห้ามให้บริการบนถนนสาธารณะในเมืองซานฟรานซิสโก รัฐแคลิฟอร์เนีย ซึ่งคำสั่งนี้มีผลบังคับใช้ทันที


ภาพจาก ครูซ

กรมยานยนต์แห่งแคลิฟอร์เนีย (DMV - Department of Motor Vehicles) ระบุว่าแท็กซี่ไร้คนขับของบริษัทครูซ ไม่ปลอดภัยต่อการใช้งานสาธารณะ และบริษัทได้บิดเบือนข้อเท็จจริงเกี่ยวกับเทคโนโลยี เมื่อต้องติดต่อกับหน่วยงานกำกับดูแลด้านความปลอดภัยของรัฐอีกด้วย แต่ทั้งนี้ ครูซ ยังสามารถให้บริการแท็กซี่สาธารณะของตนแบบมีคนขับได้ และอนุญาตให้ครูซสามารถขอร้องเรียน คัดค้านการระงับใบอนุญาตได้ภายในเวลา 5 วัน อย่างไรก็ตาม มีรายงานจากสำนักข่าวรอยเตอร์ที่ระบุว่าทางบริษัทก็ยังไม่ได้ออกมาชี้แจงว่ามีแผนที่จะคัดค้านคำสั่งระงับนี้หรือไม่


โดยคำสั่งนี้ ออกมาหลังจากกรณีอุบัติเหตุที่เกี่ยวข้องกับบริการแท็กซี่ไร้คนขับของครูซ ซึ่งเป็นกรณีที่รถยนต์ไร้คนขับของบริษัท ชนเข้ากับหญิงคนหนึ่งซึ่งโดนรถยนต์คันอื่นชนแล้วหนี จนกระเด็นมาขวางทางวิ่งของครูซ อย่างไรก็ตามแท็กซี่ของครูซไม่สามารถเบรกได้ทัน จนขับทับร่างของเธอไป แต่เคราะห์ยังดีที่หญิงคนนี้รอดชีวิต


ภาพจาก ครูซ

 

สำหรับบริการแท็กซี่ไร้คนขับของครูซ ได้รับใบอนุญาตให้บริการเชิงพาณิชย์ในเมืองซานฟรานซิสโก รัฐแคลิฟอร์เนียเป็นครั้งแรกในเดือนมิถุนายนปี 2022 ที่ผ่านมา และในเดือนสิงหาคมปีนี้ คณะกรรมการสาธารณูปโภคแห่งแคลิฟอร์เนีย ก็พึ่งอนุมัติการขยายการให้บริการเชิงพาณิชย์เพิ่มเติม ก่อนจะโดนคำสั่งระงับการให้บริการแบบไร้คนขับในเดือนตุลาคม


โดยก่อนหน้านี้ ครูซ ได้เริ่มทดสอบบริการแท็กซี่ไร้คนขับในเมืองต่าง ๆ ทั่วประเทศสหรัฐอเมริกา เช่น เมืองแนชวิลล์ รัฐเทนเนสซี, เมืองไมอามี่ ฟลอริดา แต่สำหรับซานฟรานซิสโก ถือเป็นตลาดที่ใหญ่ที่สุดของบริษัท คำสั่งระงับครั้งนี้จึงเป็นเหมือนการปิดประตูโอกาสของบริษัทครั้งใหญ่ โดยเฉพาะเมื่อคู่แข่งคนสำคัญอย่าง เวย์โม (Waymo) ของบริษัทกูเกิล (Google) ยังคงได้รับอนุญาตให้ทดสอบบริการแท็กซี่ไร้คนขับบนท้องถนนในซานฟรานซิสโกตามปกติ



ข้อมูลจาก reuterstheguardian

ยอดนิยมในตอนนี้

แท็กยอดนิยม

ข่าวที่เกี่ยวข้อง