เจ้าพระยาน้ำขึ้นสูง ปภ. เตือน 10 จังหวัด กรุงเทพฯ เสี่ยงน้ำท่วม
สถานการณ์น้ำท่วมในประเทศไทยยังคงเป็นปัญหาสำคัญที่ส่งผลกระทบต่อประชาชนในหลายพื้นที่ จากรายงานล่าสุดของกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) เมื่อวันที่ 5 ตุลาคม 2567 พบว่ามีสถานการณ์อุทกภัยในพื้นที่ 20 จังหวัด ครอบคลุมทั้งภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคกลาง และภาคใต้ ส่งผลกระทบต่อประชาชนกว่า 33,475 ครัวเรือน
ในภาคเหนือ มีพื้นที่ประสบภัยมากถึง 10 จังหวัด โดยจังหวัดที่ได้รับผลกระทบรุนแรงที่สุดคือลำพูน มีประชาชนได้รับผลกระทบถึง 3,875 ครัวเรือน รองลงมาคือตาก และสุโขทัย ที่มีผู้ได้รับผลกระทบ 2,389 และ 1,940 ครัวเรือนตามลำดับ สถานการณ์ในพื้นที่เหล่านี้มีทั้งระดับน้ำที่เพิ่มขึ้นและลดลง แสดงให้เห็นถึงความไม่แน่นอนของสภาพอากาศและปริมาณน้ำ
ส่วนในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ มี 7 จังหวัดที่ประสบปัญหา โดยจังหวัดเลยได้รับผลกระทบมากที่สุด มีประชาชนได้รับความเดือดร้อน 701 ครัวเรือน และระดับน้ำยังคงเพิ่มขึ้น ตามมาด้วยอุดรธานีและอุบลราชธานี ที่มีผู้ได้รับผลกระทบ 428 และ 273 ครัวเรือนตามลำดับ
ภาคกลางแม้จะมีเพียง 2 จังหวัดที่ประสบปัญหา แต่กลับเป็นพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบรุนแรงที่สุด โดยเฉพาะจังหวัดพระนครศรีอยุธยา ที่มีประชาชนได้รับผลกระทบถึง 21,140 ครัวเรือน และระดับน้ำยังคงเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง สะท้อนให้เห็นถึงความเสี่ยงที่สูงขึ้นในพื้นที่ราบลุ่มภาคกลาง
นอกจากนี้ ปภ. ยังได้แจ้งเตือน 10 จังหวัดในภาคกลางและกรุงเทพมหานคร ให้เฝ้าระวังระดับน้ำในแม่น้ำเจ้าพระยาที่จะเพิ่มสูงขึ้นตั้งแต่วันที่ 6 ตุลาคม 2567 เป็นต้นไป เนื่องจากการคาดการณ์ว่าจะต้องมีการระบายน้ำผ่านเขื่อนเจ้าพระยาในอัตราที่สูงขึ้น ซึ่งอาจส่งผลให้พื้นที่ริมน้ำมีระดับน้ำเพิ่มสูงขึ้นอีกประมาณ 0.60 - 0.70 เมตร
ในการรับมือกับสถานการณ์ดังกล่าว ปภ. ได้ระดมสรรพกำลังทั้งบุคลากรและเครื่องมือต่างๆ เพื่อให้ความช่วยเหลือและบรรเทาความเดือดร้อนของประชาชน รวมถึงเร่งฟื้นฟูพื้นที่ที่สถานการณ์คลี่คลายแล้วให้กลับสู่สภาพปกติโดยเร็ว พร้อมทั้งได้ประสานงานกับหน่วยงานท้องถิ่นให้เตรียมพร้อมรับมือกับสถานการณ์ที่อาจเกิดขึ้น
สรุปได้ว่า สถานการณ์น้ำท่วมในประเทศไทย ณ วันที่ 5 ตุลาคม 2567 ยังคงมีความรุนแรงและส่งผลกระทบต่อประชาชนในวงกว้าง โดยเฉพาะในพื้นที่ภาคกลางที่ต้องเฝ้าระวังอย่างใกล้ชิด การบูรณาการความร่วมมือระหว่างหน่วยงานภาครัฐ ท้องถิ่น และประชาชน จะเป็นกุญแจสำคัญในการรับมือและบรรเทาผลกระทบจากสถานการณ์น้ำท่วมที่กำลังเผชิญอยู่นี้