รีเซต

เปิดพื้นที่น้ำท่วมสูงสุด 5 อันดับ อยุธยาฯ อ่วมสุด

เปิดพื้นที่น้ำท่วมสูงสุด 5 อันดับ อยุธยาฯ อ่วมสุด
TNN ช่อง16
15 พฤศจิกายน 2568 ( 10:08 )
8

Gistda เผยข้อมูล พื้นที่ที่ได้รับผลกระทบจากน้ำท่วมในช่วงระหว่างวันที่ 9-15 พฤศจิกายน พ.ศ. 2568 พบว่าจังหวัดที่มี พื้นที่น้ำท่วมสูงสุด ได้แก่

  1. พระนครศรีอยุธยา 438,346 ไร่
  2. นครสวรรค์ 415,089 ไร่
  3. สุพรรณบุรี 391,485 ไร่
  4. สุโขทัย 308,815 ไร่
  5. พิจิตร 278,786 ไร่

พื้นที่ที่ได้รับผลกระทบจากน้ำท่วมทั้งหมด 2,816,340 ไร่ ส่งผลกระทบต่อ 25,857 หลังคาเรือน และประชาชนกว่า 793,362 คน และพื้นที่นาข้าวเสียหาย 438,614 ไร่ ภาพรวมลดลงจากเมื่อวันที่ 14 พ.ย.68 โดยพื้นที่น้ำท่วมรวม 16 จังหวัด กระจายตัวตามลุ่มน้ำและพื้นที่ราบลุ่มต่ำ ได้แก่ จังหวัดกำแพงเพชร เพชรบุรี ตาก นครราชสีมา สระบุรี ชัยนาท สุโขทัย สุพรรณบุรี สิงห์บุรี อุทัยธานี นครปฐม พิษณุโลก อ่างทอง นครสวรรค์ พิจิตร และพระนครศรีอยุธยา ซึ่งเป็นผลกระทบจากอิทธิพลของพายุ “คัลแมกี” ส่งผลให้เกิดฝนตกหนักต่อเนื่องในช่วงต้นเดือน พ.ย.ที่ผ่านมา 

ในปีนี้ จังหวัดพระนครศรีอยุธยา เผชิญน้ำท่วมหนัก เนื่องจากแผนการระบายน้ำแนวดิ่งผ่านเขื่อนเจ้าพระยาเพื่อระบายน้ำลงสู่อ่าวไทย มวลน้ำจึงต้องไหลผ่านพื้นที่กรุงเทพมหานครและปริมณฑล แต่ไม่สามารถระบายน้ำเข้าสู่พื้นที่ดังกล่าวได้มาก จึงต้องกักน้ำไว้ในพื้นที่จังหวัดพระนครศรีอยุธยา ซึ่งมีพื้นที่ลุ่มเป็นแก้มลิง 6 แห่ง เพื่อป้องกันความเสียหาย แต่เนื่องจากปริมาณน้ำมากกว่าพื้นที่แก้มลิงที่จะรับน้ำเอาไว้ทั้งหมดได้ ทำให้แม่น้ำและคลองสาขาต่างๆ เพิ่มสูงขึ้นอย่างรวดเร็ว

ปัจจุบันอัตราการระบายน้ำจากเขื่อนเจ้าพระยาในวันที่ 15 พ.ย.68 ปรับลดลงมาอยู่ที่ 2,880 ลบ.ม./วินาที จากเดิม 2,900 ลบ.ม./วินาที โดยสถานการณ์น้ำเหนือเขื่อนเจ้าพระยามีแนวโน้มทรงตัวและลดลงเล็กน้อย และหากปริมาณน้ำยังลดลงต่อเนื่อง กรมชลประทานมีแผนปรับลดการระบายท้ายเขื่อนลงอีกเพื่อให้สอดคล้องกับปริมาณน้ำเหนือในระยะต่อไป นอกจากนี้ยังได้จัดเตรียมเครื่องสูบน้ำและเครื่องผลักดันน้ำเร่งระบายน้ำตอนปลายลุ่มเจ้าพระยาออกสู่อ่าวไทยที่จังหวัดสมุทรปราการและจังหวัดฉะเชิงเทรา ตลอดจนจะระบายน้ำเข้าคลองบางสายของกทม.ในอัตราเล็กน้อย เพื่อไม่ให้ส่งผลกระทบต่อพื้นที่กรุงเทพฯ และปริมณฑล

ด้านนายชัชชาติ สิทธิพันธุ์  กล่าวว่า สถานการณ์น้ำหนุนในช่วงเดือนนี้ไม่น่าเป็นกังวล เนื่องจากได้ผ่านวันที่มีน้ำหนุนสูงสุดคือ 8 พ.ย.68 ไปแล้ว ซึ่งจะมีน้ำหนุนขึ้นสูงสุดอีกครั้งในวันที่ 20 ธ.ค.68 แต่ไม่สูงมาก ซึ่งสอดคล้องกับสถานการณ์น้ำเหนือที่น่าจะบรรเทาลง ประกอบกับถ้าไม่มีพายุลูกใหม่เข้ามาสถานการณ์ก็จะคลี่คลายขึ้น รวมถึงที่ผ่านมา กทม.มีการปรับปรุงโครงสร้างประตูระบายน้ำที่เคยมีปัญหาในปี 54 ให้แข็งแรงยิ่งขึ้น จึงทำให้ปัญหาน้ำท่วมกรุงเทพฯ จึงไม่น่าเกิดขึ้นแบบปี 54 แต่ที่น่าเป็นห่วงคือชุมชนที่อยู่นอกแนวคันกั้นน้ำ 11 ชุมชน ประมาณ 300 หลังคาเรือน โดย กทม.เข้าไปดำเนินการสร้างสะพานไม้และแก้ไขปัญหาต่างๆ ให้แล้ว 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง