ภาพรวมน้ำทั่วประเทศ 15 พ.ย. 68 อ่างเก็บน้ำน้ำเต็ม 90% อากาศเย็น–ใต้ฝนเพิ่ม

ภาพรวมสถานการณ์น้ำทั่วประเทศ 15 พฤศจิกายน 2568 อากาศเย็นปกคลุมภาคบน อ่างเก็บน้ำมีน้ำ 90% พร้อมเร่งแก้ปัญหาน้ำท่วม–แล้งซ้ำซาก
กรมทรัพยากรน้ำและหน่วยงานด้านน้ำรายงานภาพรวมสถานการณ์น้ำทั่วประเทศ ณ เวลา 07.00 น. วันที่ 15 พฤศจิกายน 2568 พบว่าประเทศไทยกำลังอยู่ภายใต้มวลอากาศเย็นจากจีน ส่งผลให้หลายจังหวัดตอนบนมีอากาศเย็นในช่วงเช้า ขณะที่ภาคใต้ยังมีฝนจากมรสุมตะวันออกเฉียงเหนือ และมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นในช่วงวันที่ 16–20 พฤศจิกายน จากการเสริมตัวของความกดอากาศสูงลูกใหม่
อากาศเย็นกลับมาปกคลุมภาคเหนือ–อีสาน–กลาง–ตะวันออก ใต้ยังมีฝนหนักบางพื้นที่
มวลอากาศเย็นกำลังปานกลางจากจีนปกคลุมภาคบน ส่งผลให้หลายพื้นที่มีอากาศเย็นในตอนเช้า ส่วนภาคใต้ยังมีฝนฟ้าคะนองจากมรสุมตะวันออกเฉียงเหนือที่พัดปกคลุมอ่าวไทยและทะเลอันดามัน
ช่วงวันที่ 16–20 พฤศจิกายน มวลอากาศเย็นกำลังแรงจะแผ่ลงมาทำให้ภาคบนมีฝนฟ้าคะนองและลมกระโชกแรงในระยะแรก ก่อนที่อุณหภูมิจะลดลงอีก ขณะที่ภาคใต้ตอนบนและตอนล่างจะมีฝนเพิ่มขึ้น และอาจมีฝนหนักถึงหนักมากบางแห่ง
อ่างเก็บน้ำทั่วประเทศมีน้ำรวม 90% ของความจุ
สถานการณ์น้ำในอ่างเก็บน้ำหลักทั่วประเทศมีปริมาณน้ำรวม 72,112 ล้านลูกบาศก์เมตร คิดเป็น 90% ของความจุเก็บกัก และมีปริมาณน้ำใช้การ 47,989 ล้านลูกบาศก์เมตร หรือ 83% ซึ่งถือว่าอยู่ในระดับที่สามารถสนับสนุนการใช้น้ำในช่วงฤดูแล้งที่จะมาถึงได้ แต่ยังต้องวางแผนใช้น้ำอย่างรอบคอบในพื้นที่ฝนตกน้อย
คุณภาพน้ำในแม่น้ำสายหลักยังอยู่ในเกณฑ์มาตรฐาน
การตรวจคุณภาพน้ำในแม่น้ำสำคัญพบว่า
- น้ำเพื่ออุปโภค–บริโภคที่สถานีสูบน้ำสำแล (แม่น้ำเจ้าพระยา จ.ปทุมธานี) อยู่ในเกณฑ์ปกติ
- น้ำเพื่อการเกษตรในแม่น้ำท่าจีน แม่กลอง และบางปะกงอยู่ในระดับมาตรฐาน สามารถใช้ทำการเกษตรได้ตามปกติ
รองนายกฯ ลงพื้นที่ร้อยเอ็ด ตรวจความคืบหน้าโครงการแก้น้ำท่วม–แล้ง
เมื่อวันที่ 14 พฤศจิกายน นายโสภณ ซารัมย์ รองนายกรัฐมนตรี ลงพื้นที่จังหวัดร้อยเอ็ดเพื่อติดตามสถานการณ์น้ำลุ่มน้ำชี ทั้งปัญหาน้ำท่วมซ้ำซากและความเสี่ยงภัยแล้ง พร้อมประชุมร่วมกับผู้ว่าราชการจังหวัดและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อตรวจความก้าวหน้าโครงการระบบระบายน้ำหลักระยะที่ 1
รองนายกรัฐมนตรีเน้นย้ำว่า การแก้ไขปัญหาน้ำท่วมและแล้งเป็นวาระสำคัญของรัฐบาล โดยมอบหมายให้ทุกหน่วยงานด้านน้ำจัดทำ “แผนแม่บทน้ำจังหวัดร้อยเอ็ด” เพื่อบูรณาการแก้ปัญหาระยะยาว ลดความเดือดร้อนของประชาชนอย่างยั่งยืน พร้อมเร่งรัดดำเนินโครงการเร่งด่วน เช่น การปรับปรุงประตูระบายน้ำฝายท่าลาดและฝายบ้านใหม่ชุมพร รวมถึงการขยายระบบประปาและจัดหาน้ำดิบในพื้นที่เสี่ยงขาดแคลนน้ำ
รัฐบาลยังสั่งให้ทุกโครงการต้องเห็นผลเป็นรูปธรรม พร้อมรายงานความคืบหน้าต่อเนื่อง เพื่อให้ร้อยเอ็ดเป็นต้นแบบของการบริหารจัดการทรัพยากรน้ำระดับจังหวัด
Tag
ยอดนิยมในตอนนี้
