งานวิจัยยุโรปชี้วัคซีน mRNA ปลอดภัยกับสตรีมีครรภ์
วันนี้ (19 ม.ค. 65) องค์การยาแห่งยุโรป (EMA) เปิดเผยผลการประเมินงานวิจัยในวันนี้ว่า วัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 ชนิดที่ใช้เทคโนโลยี mRNA ไม่ก่อให้เกิดภาวะแทรกซ้อนระหว่างตั้งครรภ์ทั้งกับมารดาและบุตร
องค์การยาแห่งยุโรปได้ประเมินผลวิจัยที่ศึกษาสตรีมีครรภ์ในระยะต่าง ๆ รวมกันประมาณ 65,000 ราย ซึ่งไม่พบว่าการฉีดวัคซีนชนิด mRNA ทำให้มีความเสี่ยงมากขึ้นในการเกิดภาวะแทรกซ้อน แท้งบุตร คลอดก่อนกำหนด หรือเกิดผลข้างเคียงรุนแรงต่อเด็ก
ผลการวิจัยดังกล่าวสอดคล้องกับของสหรัฐ โดยเมื่อช่วงต้นเดือนนี้ ศูนย์ควบคุมและป้องกันโรค (CDC) ของสหรัฐเผยผลการศึกษาซึ่งระบุว่า การฉีดวัคซีนโควิด-19 ระหว่างตั้งครรภ์ไม่มีความเชื่อมโยงกับการคลอดก่อนกำหนด หรือทารกแรกเกิดที่มีน้ำหนักน้อยกว่าเกณฑ์
"ประโยชน์ของการฉีดวัคซีนโควิด-19 ระหว่างตั้งครรภ์นั้นยังคงมีหลักฐานยืนยันเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง รวมถึงการตรวจพบแอนติบอดีในเลือดจากสายสะดือ" คณะนักวิจัยระบุ พร้อมตั้งข้อสังเกตว่า สตรีมีครรภ์ที่ติดเชื้อโควิด-19 มีความเสี่ยงเพิ่มขึ้นในการเข้ารับการรักษาในห้องดูแลผู้ป่วยหนัก (ICU) การต้องใช้เครื่องช่วยหายใจ และการเสียชีวิต
อนึ่ง เมื่อเดือนเม.ย. 2564 หนังสือพิมพ์เอบีซีของสเปนรายงานว่า พบทารกแรกเกิดมีแอนติบอดีต่อต้านโควิด-19 หลังจากที่มารดาของเด็กได้รับวัคซีนในช่วง 3 เดือนสุดท้ายของการตั้งครรภ์ โดยปริมาณแอนติบอดีของเด็กคนดังกล่าวเทียบเท่ากับผู้ที่ได้รับวัคซีน
ภาพจาก : AFP