บุกบ้านเด็กชายยอดกตัญญู ขาดเรียนดูแลพ่อป่วยติดเตียง
น้องขุนเดช อายุ 11 ขวบนักเรียนชั้นป.4 โรงเรียนเทศบาลบ้านคลองภาษี อ.กันตัง จ.ตรังขาดเรียนนานกว่า 2 สัปดาห์จนคุณครูตามถึงบ้าน และพบความจริงว่าน้องขาดเรียนเพราะพ่อล้มรถจยย.หัวฟาดฟื้น ทำให้ขาดรายได้ น้องจึงต้องหยุดเรียนเพราะมาดูแลพ่อและยังร้องเพลงกล่อมเด็กให้พ่อฟังทุกวัน เพื่อหวังให้พ่อฟื้นตัวโดยเร็ว ด้านครูเผยเป็นเด็กช่างพูด กตัญญู และน่ายกย่อง
เมื่อวันที่ 11 ก.ค.65 ที่ศาลปู่เจ้ากันตัง ถนนหน้าค่าย ในเขตเทศบาลเมืองกันตัง อ.กันตัง จ.ตรัง นางอรัญญา ธนาวุฒิ ผู้อำนวยการโรงเรียนเทศบลบ้านคลองภาษี อ.กันตัง จ.ตรัง พร้อมด้วยนายชาตรี บุญมี และครูที่ปรึกษารวม 5 คน เข้าเยี่ยมอาการป่วยของนายวรพัน อายุ 32 ปี พ่อของน้องขุนเดช หลังสืบทราบว่าสาเหตุที่น้องขุนเดชรขาดเรียนมานานหลายวันแล้ว เพราะต้องหยุดดูแลคุณพ่อ เนื่องจากคุณพ่อ ล้มรถจักรยานยนต์หัวฟาดพื้น ขณะกำลังจะไปรับน้อที่โรงเรียน ทำให้กลายเป็นผู้ป่วยติดเตียง ทำได้แค่เพียงกระพริบตาตอบรับ
โดยภายหลังจากที่คุณพ่อต้องเป็นผู้ป่วยติดเตียงแล้ว ทำให้ครอบครัวขาดรายได้ เพราะคุณพ่อเป็นเสาหลัก เหลือเพียงรายได้จากเงินสงเคราะห์คนชราของคุณปู่กับคุณย่ารวมกันเดือนละ 1,200 บาท แต่ต้องหาเลี้ยงรวม 7 ชี่วิตคือ คุณปู่ คุณพ่อ คุณย่า แม่เลี้ยง น้องขุนเดชและลูกพี่ลูกน้องอีก 2 คน ในห้องเล็ก ๆ เพียง 1 ห้องภายในศาลปู่เจ้ากันตัง ไม่มีบ้านเป็นของตัวเอง เมื่อคุณพ่อของน้องขุนเดชมาล้มป่วยลง ทำให้ครอบครัวมีภาระเพิ่มขึ้น ทั้งค่าย่า ค่าหมอ ค่านมผง ค่าแพมเพิส ค่าอาหารทางสายยาง และอื่น ๆ ทำให้น้องขุนเดช นอกจากจะไม่ได้ไปเรียนหนังสือแล้ว ยังต้องอดมื้อกินมื้อ เพื่อให้เสียสละพ่อมีกินและอยู่ช่วยดูแลพ่อ ป้อนข้าวป้อนน้ำ เปลี่ยนแพมเพิส ทำกายภาพบำบัดและร้องเพลงกล่อมเด็กที่น้องมีพรสวรรค์ สามารถร้องเอง แต่งเพลงกล่อมเด็กได้เอง มานั่งร้องเพลงกล่อมคุณพ่อ หวังว่าคุณพ่อได้ยินแล้วจะหายป่วยเร็ว ๆ ทั้งยังคอยให้กำลังใจคุณพ่อด้วยการหอมแก้ม จับมือ และบอกให้พ่อสู้ ๆ ทุกวัน จนกลายเป็นภาพที่ชินตาของคนในครอบครัวและผู้พบเห็น
สำหรับน้องขุนเดชเป็นเด็กคุยเก่ง ยิ้มง่าย มีน้ำใจ และมีมนุษย์สัมพันธ์กับทุกคน ทั้งยังเป็นเด็กกตัญญูบุญคุณและความเสียสละ ผู้อำนวยการโรงเรียนและคุณครูประจำชั้น จึงพาน้องขุนเดชไปเปิดบัญชีนาคารออมสินในเช้าวันนี้(11 ก.ค) เพื่อให้น้องมีทุนการศึกษาและนำเงินมารักษาอาการป่วยของคุณพ่อให้ดีขึ้น ซึ่งใช้ชื่อของน้องขุนเดช 1 คนกับคุณครูประจำชั้น 1 คน เพื่อดูแลการใช้จ่ายเงินตามความเหมาะสม โดยผ่านระบบดูแลช่วยเหลือนักเรียนของทางโรงเรียน
โดยใช้หมายเลขบัญชีธนาคารออมสิน สาขากันตัง จ.ตรัง ชื่อ ด.ช วรวิทย์ เกื้อแก้วและนางอมรรัตน์ สังข์ทอง เลขที่บัญชี 020394017261 หรือที่หมายเลขโทรศัพท์ 092-3531908
ด้านนายชาตรี บุญมี ครูภาษาไทยที่ไปพบสภาพครอบครัวของน้องขุนเดชคนแรกกล่าวว่า ตนได้ทำโครงงานภาษาไทยเพื่อไปประกวดแข่งขัน เรื่องเพลงกล่อมเด็กที่เอาสำนวนภาษาถิ่นมาทำเพลง เพื่อให้คนร้องเพลงกล่อมเด็กได้ และได้รู้จักสำนวนโบราณ ๆ แต่พอซ้อม ๆ อยู่ดี ๆ น้องก็ไม่ได้โรงเรียนเป็นอาทิตย์ จึงไปตามสืบจนพบว่าน้องต้องมาดูแลพ่อที่ล้มรถจยย.หัวฟาดฟื้น ทำได้แค่กระพริบตาและเป็นกลายเป็นผู้ป่วยติดเตียง แต่จะให้น้องได้เรียนหนังสือ ส่วนเรื่องเวลาที่หายเรียนไปหลายวัน ก็ไม่เป็นปัญหา คุณครูทุกวิชาก็จะทำการสอนเสริมให้ และทางโรงเรียนมีระบบดูแลช่วยเหลือนักเรียนผ่านคณะกรรมการสถานศึกษาเป็นกรณีพิเศษ
นางอรัญญา ธนาวุฒิ ผู้อำนวยการ รร.เทศบาลบ้านคลองภาษีฯ กล่าวว่า สิ่งที่จะสนับสนุนได้ก็น่าจะเป็นเรื่องของทุนการศึกษาและอาจจะมีการระดมทุนกันภายในโรงเรียนเพื่อช่วยเหลือเบื้องต้น เพราะถือว่าน้องเป็นเด็กน่ารัก เป็นตัวแทนในการเข้าร่วมกิจกรรมของทางโรงเรียนด้วย จากการสอบถามคุณครูที่ปรึกษาทราบว่าน้องเป็นเด็กดี มีความกตัญญูต่อผู้ปกครอง
น้องขุนเดช กล่าวว่า ตัวเองขาดเรียนนานแล้วเพราะต้องเฝ้าพ่อกลัวว่าพ่อจะเป็นอะไรไป แต่ถ้าตัวเองไม่เฝ้าคนอื่นก็เฝ้า แต่ตนห่วงพ่อมากที่สุดกลัวคนอื่นจะเฝ้าได้ไม่ดีเท่ากับตัวเอง ยอมรับว่าเป็นห่วงการเรียน บางทีก็ไปเรียนแต่บางทีก็หยุดมาเฝ้าพ่อ ซึ่งคุณครูอนุญาต อยากให้คุณพ่อสู้ ๆ ฟื้นเร็ว ๆ ทุกวันนี้ก็ได้กล่อมพ่อด้วยเพลงกล่อมเด็ก พ่อตอบสนองด้วยการยกมือและบางครั้งก็จะร้องไห้ ซึ่งน้องอยากให้ทุกคนช่วยส่งกำลังใจให้พ่อของตนสู้ ๆ ส่วนข้าวบางทีก็ได้กิน บางทีก็ไม่ได้กินเพราะสงสารพ่อที่ได้กินแต่นม