สถิติโรคหลอดเลือดหัวใจ–ไหลตาย คนไทยเสี่ยงเพิ่ม โดยเฉพาะชายวัยทำงาน

โรคหลอดเลือดหัวใจ–ไหลตาย ภัยเงียบที่ตัวเลขคนไทยเริ่มชัด
ผู้เชี่ยวชาญด้านโรคหัวใจระบุว่า โรคหลอดเลือดหัวใจ (Coronary Artery Disease – CAD) ยังคงเป็นหนึ่งในปัญหาสุขภาพสำคัญของประเทศไทย ทั้งในแง่อัตราป่วยและอัตราเสียชีวิต โดยมีความเกี่ยวข้องอย่างมีนัยสำคัญกับอาการเสียชีวิตเฉียบพลันในขณะนอนหลับ หรือที่คนทั่วไปเรียกว่า “ไหลตาย”
อาการดังกล่าวสัมพันธ์กับภาวะหัวใจเต้นผิดจังหวะแบบรุนแรง โดยเฉพาะ Brugada syndrome ซึ่งพบได้ในคนไทยมากกว่าหลายภูมิภาคของโลก และเกี่ยวข้องกับความผิดปกติของการนำไฟฟ้าหัวใจและพันธุกรรมของคนเอเชียตะวันออกเฉียงใต้
ตัวเลขชี้ชัด โรคหัวใจ–หลอดเลือดคร่าชีวิตคนไทยชั่วโมงละ 5 ราย
ข้อมูลสาธารณสุขล่าสุดระบุว่า โรคหัวใจและหลอดเลือดยังคงเป็นสาเหตุการเสียชีวิตอันดับต้น ๆ ของคนไทย โดยในปี 2566 พบผู้เสียชีวิตจากกลุ่มโรคนี้ประมาณ 40,000 รายต่อปี คิดเป็น เฉลี่ยราว 5 รายต่อชั่วโมง
สำหรับ “โรคหลอดเลือดหัวใจ” โดยเฉพาะ พบว่ามีผู้ป่วยรายใหม่มากกว่า 21,700 รายต่อปี และมีผู้เสียชีวิตจากภาวะดังกล่าวเฉลี่ย ประมาณ 2–2.3 รายต่อชั่วโมง สะท้อนให้เห็นว่าปัญหาไม่ได้จำกัดอยู่แค่ผู้สูงอายุ แต่กำลังกระทบกลุ่มวัยทำงานมากขึ้น
ในด้านอัตราตายจากโรคหลอดเลือดหัวใจขาดเลือด (Ischemic Heart Disease – IHD) เมื่อนำตัวเลขช่วงปี 2012–2021 มาวิเคราะห์ พบแนวโน้มเพิ่มขึ้นชัดเจน โดยเฉพาะเพศชาย
- ปี 2021 อัตราตายจาก IHD อยู่ที่ 26.9 ต่อประชากร 100,000 คน
- เพศชาย 35.7 ต่อแสนคน
- เพศหญิง 18.3 ต่อแสนคน
นักวิชาการด้านสาธารณสุขชี้ว่า แนวโน้มดังกล่าวสะท้อนการสะสมของปัจจัยเสี่ยง ทั้งพฤติกรรมการใช้ชีวิต สังคมสูงวัย และโรคไม่ติดต่อเรื้อรัง เช่น เบาหวานและความดันโลหิตสูง
“ไหลตาย” กับ Brugada syndrome ในคนไทย
อาการ “ไหลตาย” หรือ Sudden Unexplained Nocturnal Death Syndrome (SUNDS) เป็นการเสียชีวิตเฉียบพลันในขณะนอนหลับ โดยผู้ป่วยมักดูแข็งแรงมาก่อนและไม่มีอาการเตือนชัดเจน
แพทย์โรคหัวใจอธิบายว่า กลไกสำคัญคือการนำไฟฟ้าหัวใจผิดปกติ ทำให้เกิดภาวะหัวใจห้องล่างเต้นผิดจังหวะอย่างรุนแรง เลือดไม่สามารถสูบฉีดไปเลี้ยงสมองและอวัยวะสำคัญ ส่งผลให้เสียชีวิตภายในเวลาไม่กี่นาที โดยกรณีในประเทศไทยมักสัมพันธ์กับ Brugada syndrome อย่างมีนัยสำคัญ
จากข้อมูลการศึกษาทางคลินิกในไทย พบว่า
- อัตราการเกิด “ไหลตาย” อยู่ที่ประมาณ 38–40 รายต่อประชากร 100,000 คน
ส่วนใหญ่
- เป็นเพศชาย
- ช่วงอายุ 25–50 ปี
- สุขภาพโดยรวมดูปกติ
- พบมากในกลุ่มชาติพันธุ์ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ
- ส่วน Brugada syndrome พบในคนไทยราว 0.004% หรือราว 40 รายต่อประชากร 100,000 คน ซึ่งถือว่าสูงเมื่อเทียบกับบางประเทศในยุโรปและอเมริกา
แพทย์ชี้ว่าแม้จำนวนผู้ป่วยไม่มากเมื่อเทียบกับโรคหัวใจทั้งหมด แต่ผลกระทบต่อครอบครัวและเศรษฐกิจมีค่อนข้างสูง เพราะมักเกิดในกลุ่มวัยแรงงานที่เป็นเสาหลักของครอบครัว
ปัจจัยเสี่ยง–ตัวกระตุ้น ที่ต้องจับตาเป็นพิเศษ
ข้อมูลจากโรงพยาบาลและงานวิจัยที่เกี่ยวข้องระบุปัจจัยที่เชื่อมโยงกับ “ไหลตาย” และโรคหลอดเลือดหัวใจ ดังนี้
• พันธุกรรมและประวัติครอบครัว
• มีญาติสายตรงเสียชีวิตกะทันหันขณะนอนหลับ หรือเสียชีวิตโดยไม่ทราบสาเหตุ
• พบความผิดปกติทางพันธุกรรมที่เกี่ยวกับช่องสัญญาณโซเดียมของหัวใจ
• ความผิดปกติของคลื่นไฟฟ้าหัวใจ
• คลื่นไฟฟ้าหัวใจแบบ Brugada pattern
• ภาวะหัวใจเต้นผิดจังหวะรูปแบบอื่นที่เพิ่มความเสี่ยงหัวใจหยุดเต้นเฉียบพลัน
• พฤติกรรมเสี่ยงและสิ่งแวดล้อม
• การดื่มสุราจำนวนมาก โดยเฉพาะก่อนนอน
• การรับประทานอาหารคาร์โบไฮเดรตสูงหรือมื้อดึกจัด
• ใช้แรงงานหนักหรือมีความเครียดสะสม
• ภาวะร่างกาย–ยา–สารอาหาร
• ไข้สูงจากการติดเชื้อเฉียบพลัน
• ภาวะขาดโพแทสเซียมหรือวิตามินบี 1 อย่างเฉียบพลัน
• การใช้ยาบางชนิด เช่น ยานอนหลับ ที่อาจมีผลต่อการนำไฟฟ้าหัวใจ
แพทย์เน้นว่า ปัจจัยเหล่านี้ไม่ได้ทำให้ทุกคนเกิดภาวะไหลตาย แต่หากหัวใจมีความผิดปกติแฝงอยู่ เช่น Brugada syndrome ปัจจัยกระตุ้นเพียงเล็กน้อยอาจทำให้เกิดหัวใจเต้นผิดจังหวะรุนแรงได้
มุมมองเชิงสาธารณสุข ความท้าทายของไทยในกลุ่ม “ตายเฉียบพลัน”
นักวิชาการด้านระบาดวิทยาชี้ว่า แม้กลุ่มผู้เสียชีวิตจาก “ไหลตาย” จะเป็นสัดส่วนน้อยเมื่อเทียบกับผู้เสียชีวิตจากโรคหัวใจทั้งหมด แต่มีความสำคัญเชิงนโยบายอย่างมาก เพราะ
• เกิดในกลุ่มอายุยังน้อยและอยู่ในวัยทำงาน
• ผู้ป่วยมักไม่เคยเข้ารับการตรวจหัวใจมาก่อน
• ครอบครัวมักไม่ทราบว่าในสายพันธุ์ของตนมีความเสี่ยงด้านโรคหัวใจ
ข้อเสนอเชิงระบบที่ถูกหยิบยกขึ้นมาพิจารณา เช่น
1. คัดกรองครอบครัวกลุ่มเสี่ยง
สนับสนุนการตรวจคลื่นไฟฟ้าหัวใจในกลุ่มที่มีประวัติญาติสายตรงเสียชีวิตกะทันหัน ขยายการเข้าถึงการตรวจในโรงพยาบาลชุมชนและโรงพยาบาลจังหวัด
2. สร้างความรู้ความเข้าใจในชุมชน
ให้ข้อมูลว่า “ไหลตาย” ไม่ใช่เรื่องไสยศาสตร์หรืออาถรรพ์ แต่มีสาเหตุทางการแพทย์ที่ป้องกันได้บางส่วน หากตรวจพบแต่เนิ่น ๆ
3. เข้าถึงการรักษาอย่างเหมาะสม
ส่งต่อผู้ป่วยที่ตรวจพบ Brugada pattern หรือภาวะเสี่ยงสูงไปยังศูนย์โรคหัวใจ เพื่อพิจารณาการรักษา รวมถึงการพิจารณาใส่เครื่องกระตุ้นหัวใจอัตโนมัติ (AICD) ในกลุ่มที่มีความเสี่ยงสูงต่อการตายเฉียบพลัน
สัญญาณเตือนที่ไม่ควรมองข้าม
แพทย์แนะนำว่า หากพบอาการดังต่อไปนี้ ควรรีบพบแพทย์เพื่อตรวจหัวใจ
• เจ็บแน่นหน้าอก เหนื่อยง่าย ใจสั่น หายใจลำบากผิดปกติ
• เคยวูบหรือหมดสติขณะนอนหรือใกล้ช่วงนอน โดยไม่ทราบสาเหตุ
• มีญาติสายตรงเคยนอนหลับแล้วเสียชีวิตกระทันหัน
• ตรวจสุขภาพแล้วพบคลื่นไฟฟ้าหัวใจผิดปกติ
การเข้ารับการตรวจและติดตามอย่างสม่ำเสมอจะช่วยลดโอกาสเกิด “ตายเฉียบพลัน” ได้ แม้ไม่สามารถป้องกันได้ทั้งหมดก็ตาม
ตัวเลขโรคหัวใจที่ไม่ควรถูกมองเป็นแค่สถิติ
สถิติล่าสุดตอกย้ำว่า “โรคหลอดเลือดหัวใจ” ยังเป็นสาเหตุหลักของการเสียชีวิตในประเทศไทย โดยมีความเกี่ยวข้องกับภาวะหัวใจเต้นผิดจังหวะและอาการ “ไหลตาย” ในกลุ่มชายวัยทำงานอย่างมีนัยสำคัญ
นักวิชาการย้ำว่า การรับรู้ความเสี่ยง การตรวจสุขภาพหัวใจอย่างสม่ำเสมอ และการคัดกรองครอบครัวกลุ่มเสี่ยง เป็นกุญแจสำคัญที่จะช่วยลดตัวเลขการเสียชีวิตเฉียบพลันในระยะยาว พร้อมเสนอให้หน่วยงานด้านสาธารณสุขและเครือข่ายโรงพยาบาลร่วมกันยกระดับการคัดกรองและให้ข้อมูลประชาชนอย่างจริงจัง
Tag
ยอดนิยมในตอนนี้
