ผู้ว่าสมุทรสาครคนใหม่ยิ้มสู้ มั่นใจองคาพยพเดิมแข็งแกร่งเอาชนะโควิดได้
ผู้ว่าสมุทรสาครคนใหม่ยิ้มสู้ มั่นใจองคาพยพเดิมแข็งแกร่งเอาชนะโควิด-ยอดผู้ป่วยรายใหม่พบ 325 ราย
เมื่อวันที่ 20 กันยายน 2564 ผู้สื่อข่าวรายงาน สถานการณ์การระบาดของโรคติดเชื้อโควิด 19 ในพื้นที่จังหวัดสมุทรสาคร จากการรายงานข้อมูลของสำนักงานสาธารณสุขจังหวัดสมุทรสาคร เมื่อเวลา 24.00 น. ของวันที่ 19 กันยายน 2564 พบผู้ติดเชื้อรายใหม่จำนวน 325 ราย จำแนกเป็นผู้ติดเชื้อจากค้นหาเชิงรุก 34 ราย และผู้ติดเชื้อที่มาจากการเข้ารับการตรวจในโรงพยาบาลอีก 291 ราย ในจำนวนนี้เป็นคนที่อยู่ในจังหวัดสมุทรสาคร 250 ราย ที่เหลือเป็นคนนอกจังหวัดอีก 41 ราย ด้านผู้ติดเชื้อสะสมทั้งหมดรวม 103,775 ราย รักษาหายเพิ่ม 397 ราย รวมมีผู้กลับบ้านได้แล้ว 93,878 ราย อยู่ระหว่างการรักษาอีก 9,108 ราย ส่วนผู้เสียชีวิตรายวันจำนวน 6 ราย รวมมีผู้เสียชีวิตสะสมอยู่ที่ 789ราย
ขณะที่บรรยากาศการเดินทางมารับตำแหน่งของผู้ว่าราชการจังหวัดสมุทรสาคร คนใหม่นั้น เมื่อเวลา 07.30 น. นายณรงค์ รักร้อย ผู้ว่าราชการจังหวัดสมุทรสาคร พร้อมด้วย นางเตือนจิตร รักร้อย นายกเหล่ากาชาดจังหวัดสมุทรสาคร ก็ได้เดินทางที่ศาลเจ้าพ่อหลักเมืองสมุทรสาคร เพื่อกราบสักการะองค์เจ้าพ่อหลักเมืองสมุทรสาคร และศาลหลักเมืองสมุทรสาคร โดยมีนายธีรพัฒน์ คัชมาตย์ รองผู้ว่าราชการจังหวัด นายสุรศักดิ์ ผลยังส่ง รองผู้ว่าราชการจังหวัด คณะผู้บริหารจังหวัดสมุทรสาคร และคณะกรรมการศาลเจ้าพ่อหลักเมืองให้การต้อนรับ โดยเมื่อทำการกราบไหว้ที่ศาลเจ้าพ่อหลักเมืองสิ่งศักดิ์สิทธิ์คู่บ้านคู่เมืองจังหวัดสมุทรสาครเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ผู้ว่าราชการจังหวัดพร้อมนายกเหล่ากาชาดก็ได้เข้ากราบสักการะพระบรมราชานุสาวรีย์ รัชกาลที่ 5 และรูปหล่อหลวงปู่แก้ว (เกจิชื่อดัง) อดีตเจ้าอาวาสวัดช่องลม และอดีตเจ้าคณะจังหวัดสมุทรสาคร ที่วัดสุทธิวาตวราราม ก่อนที่จะเดินทางเข้าสู่ศาลากลางฯ สักการะพระพุทธนวราชบพิตร ภายในห้องปฏิบัติราชการ สักการะพระพุทธสิหิงค์ องค์จำลอง สักการะพระพุทธมหาชัยสิทธิมงคล บริเวณหน้าศาลากลางจังหวัดสมุทรสาคร เมื่อเสร็จสิ้นแล้วก็ได้เดินทางเข้าสู่จวนผู้ว่าราชการจังหวัดสมุทรสาครต่อไป
นายณรงค์ รักร้อย ผู้ว่าราชการจังหวัดสมุทรสาคร กล่าวว่า ตนต้องขอบคุณทางรัฐบาลที่ได้มอบหมายภารกิจให้มาทำงานที่จังหวัดสมุทรสาคร ซึ่งโดยส่วนตัวแล้วยังไม่เคยแวะเข้ามาที่สมุทรสาคร ดังนั้นข้อมูลทุกๆด้านของจังหวัดสมุทรสาครขณะนี้ เป็นข้อมูลที่รับทราบผ่านทางสื่อต่างๆ เท่านั้นเอง ยังไม่เคยได้เข้ามาสัมผัสพื้นที่นี้จริงๆ ด้วยตนเอง ซึ่งในโอกาสนี้ก็นับเป็นโอกาสอันดีที่ได้มาทำงานที่นี่ มีความยินดีเป็นอย่างมาก ส่วนใหญ่แล้วตนเองทำงานในพื้นที่เกษตร แต่คราวนี้มาอยู่ในพื้นที่หลากหลายที่มีทั้งประมง อุตสาหกรรม และเกษตร ก็จะทำหน้าที่ให้ดีที่สุดตามที่ได้รับมอบหมาย
นายณรงค์ฯ เปิดใจอีกว่า หากถามว่าหนักใจหรือไม่กับภาระกิจการเป็นแม่ทัพแก้ไขปัญหาโควิดในพื้นที่จังหวัดสมุทรสาครนั้น ก็คงต้องยอมรับว่าเป็นเรื่องที่หนักใจอยู่บ้างเป็นปกติ เนื่องจากตนเองไม่เคยสัมผัสพื้นที่ๆ มีความหลากหลายเช่นนี้มาก่อน และการทำงานทุกอย่างย่อมต้องมีปัญหาเกิดขึ้นได้เสมอ แต่ผมเชื่อมั่นว่าทีมทำงานแก้ไขปัญหาโควิดของจังหวัดสมุทรสาครมีความแข็งแรง ทุกองคาพยพ(ทุกภาคส่วน) มีความเข้มแข็งและพร้อมที่จะเดินหน้าสู้โควิดต่อไป ซึ่งความแข็งแกร่งของทุกภาคส่วนนี้ มีส่วนทำให้ความหนักใจเบาบางลงไปได้มากกว่า 50 เปอร์เซ็นต์ แต่ทั้งนี้ก็จะต้องทำให้ดีที่สุด ส่วนประเด็นเร่งด่วนก็มีทั้งเรื่องของแก้ไขปัญหาโควิด 19 เมื่อสถานการณ์เบาบางลงแล้ว ต่อไปคือการฟื้นฟูเศรษฐกิจ และความเป็นอยู่ของพี่น้องประชาชน รวมถึงเรื่องของภูมิทัศน์ และสิ่งแวดล้อม ที่ท่านผู้ว่าราชการจังหวัดสมุทรสาครคนเก่าเคยทำไว้เป็นหลัก ซึ่งเบื้องต้นจะต้องขอศึกษาข้อมูลโดยระเอียด เพื่อการต่อยอดการปฏิบัติงานตามแผนเดิมที่มีอยู่แล้ว