รีเซต

จีนจับมือบริษัทเอกชน 112 แห่งสร้างโลกเสมือนจริง Metaverse แห่งชาติ

จีนจับมือบริษัทเอกชน 112 แห่งสร้างโลกเสมือนจริง Metaverse แห่งชาติ
TNN ช่อง16
20 กุมภาพันธ์ 2565 ( 15:04 )
107
จีนจับมือบริษัทเอกชน 112 แห่งสร้างโลกเสมือนจริง Metaverse แห่งชาติ

ปัจจุบันประเทศจีนกลายเป็นหนึ่งในประเทศที่มีความก้าวหน้าทางด้านเทคโนโลยีมากที่สุด ล่าสุดคณะกรรมการด้านเมตาเวิร์สของสมาคมการสื่อสารของรัฐบาลจีน หรือ China Mobile Communication Association Metaverse Committee ประกาศจับมือกับบริษัทเอกชนอีก 17 แห่งเพื่อพัฒนาโลกเสมือนจริง Metaverse แห่งชาติ โดยหากรวมบริษัทต่าง ๆ ที่ประกาศเข้าร่วมแล้วในตอนนี้มีกว่า 112 แห่ง


คณะกรรมการด้านเมตาเวิร์สของรัฐบาลจีนถูกจัดตั้งขึ้นในช่วงเดือนตุลาคมปี 2021 ที่ผ่านมาและได้รับการสนับสนุนเป็นอย่างดีจากบริษัทยักษ์ใหญ่ด้านเทคโนโลยีในประเทศจีน เช่น Huawei และ China Mobile โดยมีภารกิจสำคัญในการศึกษาทำความเข้าใจเทคโนโลยีโลกเสมือนจริง Metaverse และร่วมกันออกแบบพัฒนาโลกเสมือนจริง Metaverse แห่งชาติ 


สำหรับรูปแบบการพัฒนาโลกเสมือนจริง Metaverse อาจมีความแตกต่างจากการเติบโตของธุรกิจอินเทอร์เน็ตในประเทศจีนก่อนหน้านี้ที่ใช้รูปแบบปล่อยให้บริษัทเอกชนพัฒนาก่อนภาครัฐเข้าไปทำการตรวจสอบควบคุม ในขณะที่โลกเสมือนจริง Metaverse ใช้รูปแบบการพัฒนาและการตรวจสอบควบคุมไปพร้อมกัน ซึ่งวิธีการดังกล่าวอาจทำให้กระบวนการพัฒนาอยู่ในกรอบของกฎหมายของประเทศได้มากกว่า


โลกเสมือนจริง Metaverse การผสมผสานเทคโนโลยีแสดงภาพในรูปแบบ 3 มิติ ผ่านอุปกรณ์แสดงผลแว่นตา VR แว่นตา AR รวมไปถึงการแสดงผลผ่านอุปกรณ์สมาร์ตโฟนได้รับการพูดถึงมากขึ้นนับจากช่วงปลายปี 2021 ที่ผ่านมา เทคโนโลยีใหม่ที่อาจเข้ามามีบทบาทในการทำธุรกิจ การศึกษา การทำงานและรูปแบบการใช้ชีวิตของผู้คนในอนาคต


รูปแบบบริการในลักษณะโลกเสมือนจริง Metaverse กำลังถูกพัฒนาและใช้งานในหลายประเทศ เช่น Horizon Worlds ที่บริษัท Meta หรือชื่อเดิม Facebook กำลังพยายามผลักดันและมีผู้ใช้งานเพิ่มขึ้นประมาณ 10 เท่าในช่วงเวลา 3 เดือนที่ผ่านมา รวมไปถึงโลกเสมือนจริง Decentraland ที่มีความพยายามใช้เทคโนโลยีบล็อกเชนเข้ามามีส่วนในการพัฒนา อย่างไรก็ตามในกรณีของโลกเสมือนจริง Metaverse ของประเทศจีนอาจอยู่ในรูปแบบที่แตกต่างออกไป เนื่องจากข้อกฎหมายในประเทศที่มีความเข้มงวดในการเปิดให้บริการออนไลน์ที่มีผู้ใช้งานจำนวนมาก 


ข้อมูลจาก cnbc.com

ภาพจาก unsplash.com

ยอดนิยมในตอนนี้

แท็กยอดนิยม

ข่าวที่เกี่ยวข้อง