TBN ขอเอี่ยวรัฐตั้ง AMC มุ่งชิงบิ๊กโปรเจ็กต์ 100 ล.

#TBN #ทันหุ้น – TBN แย้มอยู่ระหว่างพูดคุยงานภาครัฐ หลังจากทีม ครม.เศรษฐกิจ ไฟเขียวตั้ง AMC แก้หนี้ครัวเรือน มั่นจุดแข็ง มีระบบติดตามทวงหนี้แพลตฟอร์ม End-to-End Lending พร้อมให้บริการ ปรับแผนโฟกัสกลุ่มลูกค้าขนาดใหญ่ไซซ์ 50-100 ล้านบาท
นายปนายุ ศิริกระจ่างศรี ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ทีบีเอ็น คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ TBN ผู้นำด้านเทคโนโลยี Mendix Low-Code เปิดเผยกับ “ทันหุ้น” ว่า หลังจากทีม ครม.เศรษฐกิจ ได้เห็นชอบโครงการแก้ปัญหาหนี้เสียผ่านกลไกการซื้อหนี้รายย่อยผ่าน บริษัท บริหารสินทรัพย์ หรือการตั้ง “AMC” ซึ่งเป็นไปตามที่รัฐบาลได้แถลงนโยบายต่อรัฐสภา โดยกำหนดให้ “การแก้ไขปัญหาหนี้ภาคประชาชน” เป็นหนึ่งในนโยบายสำคัญที่จะต้องมีการแก้ไขโดยเร็ว
ขณะที่ทางบริษัทกำลังอยู่ระหว่างการพูดคุยหารือ เพื่อหาว่าส่วนใดที่ TBN จะสามารถเข้าร่วมได้ โดยประเด็นการจัดตั้ง AMC นี้เคยมีมาก่อนในรัฐบาลชุดที่แล้วแต่ได้ไม่เกิดขึ้น และทางบริษัทต้องการมีส่วนร่วมในโครงการนี้ ซึ่งเป็นโอกาสของการเติบโตในอนาคตและได้กำลังเตรียมแผนงานเพื่อนำเสนอแก่ทางรัฐบาลในลำดับต่อไป
@ มีระบบติดตามหนี้
โดยจุดแข็งของบริษัท คือ ความพร้อมของระบบมีความครอบคลุม ผ่านแพลตฟอร์ม End-to-End Lending หรือ ระบบติดตามทวงหนี้ (Debt Collection System) ซึ่งทางบริษัทเป็นผู้ให้บริการระบบหลังบ้านให้กับสถาบันการเงินรายใหญ่ของประเทศ โดยกว่า 50% ของรายได้มาจากกลุ่มธนาคาร เช่น ระบบ Call Center ระบบ Mobile Banking
รวมถึงระบบบริหารจัดการสินเชื่อ ซึ่งบริษัทพัฒนาในรูปแบบ Custom Solution เพื่อให้สอดคล้องกับความต้องการของแต่ละองค์กร พร้อมรับประกันมาตรฐานความปลอดภัยของข้อมูลในทุกขั้นตอน
อีกทั้งปัจจุบันบริษัทกำลังอยู่ระหว่างการพัฒนา AI ภาษาไทยสำหรับการทวงหนี้โดยเฉพาะ ซึ่งระบบจะเริ่มจากการวิเคราะห์ลักษณะพฤติกรรมของลูกหนี้แต่ละประเภท เพื่อเลือกแนวทางการสื่อสารที่เหมาะสมที่สุด เช่น โทนเสียง คำพูด หรือเวลาที่ติดต่อกลับ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการจัดเก็บหนี้
@ ลุ้นปิดดีลงานใหม่
อย่างไรก็ดีภาพรวมธุรกิจในช่วงที่เหลือของปี 2568 ยังคงโฟกัสในการผลักดันระบบ End-to-End Lending ในส่วนของแพลตฟอร์ม Mendix ซึ่งเป็นแพลตฟอร์ม Low-Code สำหรับการพัฒนาแอปพลิเคชันที่รวดเร็ว ซึ่งยังคงมีงานอยู่และเข้ามาเรื่อยๆ แต่อาจมีการยอดขายลดลงบ้าง เนื่องจากได้มีการตัดสินใจในการลดงบประมาณลง
ทั้งนี้บริษัทพยายามจะเปลี่ยนมาโฟกัสกลุ่มธุรกิจขนาดใหญ่มากขึ้น มีขนาดโครงการประมาณ 50-100 ล้านบาท ถึงแม้ว่าจะมีงานขนาดเล็กจะมีเข้ามาเรื่อยๆ โดยปัจจุบันบริษัทกำลังอยู่ระหว่างเจรจากับลูกค้ารายใหญ่ เป็นงานในกลุ่มสถาบันการเงินและประกัน คาดว่าจะเริ่มเห็นความคืบหน้าในไตรมาส 1/2569 ขณะเดียวกันกำลังอยู่ระหว่างเจรจางานโครงการขนาดเล็ก คาดว่าจะทราบผลภายในไตรมาส 4/2568
Tag
ยอดนิยมในตอนนี้
