TTB แสงเล็กๆ แห่งความหวัง 'กสิกรไทย' อัพเป้าใหม่ที่ 1.89 บ.
#ทันหุ้น - บล.กสิกรไทย ส่องหุ้น ธนาคารทหารไทยธนชาต หรือ "TTB" เปิดเผยเป้าหมายปี 2568 ซึ่งส่วนใหญ่สอดคล้องกับที่ฝ่ายวิจัยคาดการณ์ไว้ ยกเว้นอัตราส่วนต้นทุนต่อรายได้ที่ดูต่ำกว่าที่ฝ่ายวิจัยคาดการณ์ไว้ ปรับเพิ่มประมาณการกำไรปี 2568-69 ขึ้น 9.6%/6.6% สาเหตุหลักมาจากแนวโน้มอัตราส่วนต้นทุนต่อรายได้ที่ลดลงในปี 2568-69 และคาดว่ากำไรปี 2568 จะเติบโต 7.6% YoY โดย TTB กำลังพิจารณาโครงการซื้อหุ้นคืนด้วย ปรับเพิ่มคำแนะนำเป็น "ซื้อ" พร้อมปรับราคาเป้าหมายเพิ่มขึ้นเป็น 1.98 บาท
เป้าหมายทางการเงินในปี 2568 ฝ่ายวิจัยกลับมาจากการประชุมนักวิเคราะห์ของ TTB เมื่อวานนี้ พร้อมกับมุมมองเชิงบวกเล็กน้อย เนื่องจากคาดว่าคุณภาพสินทรัพย์จะสามารถควบคุมได้และมีการควบคุมต้นทุนที่มีประสิทธิภาพในปี 2568 TTB เปิดเผยเป้าหมายทางการเงินปี 2568 ได้แก่ 1) การเติบโตของสินเชื่อ 0-2% 2) อัตราส่วนต่างดอกเบี้ยย (NIM) ที่ 3.1-3.25% เทียบกับ 3.26% ในปี 2567 3) การเติบโตของรายได้ที่ไม่ใช่ดอกเบี้ย (non-NII) ในเลขหลักเดียว 4) อัตราส่วนต้นทุนต่อรายได้ในระดับต่ำ 40% 5) อัตราหนี้สินที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ (NPL ratio) ไม่เกิน 2.9% และ 6) ค่าใช้จ่ายสํารองหนี้สูญ (credit cost) ที่ 125-135bps ผู้ฝ่ายบริหารคาดว่าการก่อตัวของ NPL (NPL formation) จะลดลงอย่างต่อเนื่องในปี 2568 และ credit cost จะต่ำกว่าปี 2567 ขณะเดียวกัน ยังมีมุมมองที่ระมัดระวังต่อการเติบโตของสินเชื่อในปี 2568 เนื่องจากการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจที่ยังคงอ่อนแอและแนวโน้มหนี้ครัวเรือนที่สูงในปี 2568 TTB ตั้งป้าเติบโตสินเชื่อ จากการขายต่อผลิตภัณฑ์สินเชื่อให้กับฐานลูกค้าเดิม เช่น สินเชื่อบ้านแลกเงิน และคาดว่าจะได้รับประโยชน์จากสินเชื่อธุรกิจเนื่องจากสภาพค่องที่ตึงตัวในตลาดหุ้นกู้
ปรับเพิ่มประมาณการกําไรปี 2568-69 จากเป้าหมายทางการเงินปี2568 ของ TTB ฝ่ายวิจัยเชื่อว่า TTB จะสามารถรักษาอัตราส่วนต้นทุนต่อรายได้ให้อยู่ในระดับที่มันคงในปี 2568 ได้ผ่านการปรับเปลี่ยนลูกค้าไปสู่ระบบดิจิทัลและการลดจํานวนสาขา ส่งผลให้ฝ่ายวิจัยปรับเพิ่มประมาณการกําไรปี 2568-69 ขึ้น 9.6%/6.6% เป็น 2.26/2.46 หมืนลบ. เนื่องจากฝ่ายวิจัยได้ปรับลดอัตราส่วนต้นทุนต่อรายได้ใน ปี 2568-69 ลง เหลือ 42.5%/42.3% จากเดิม 45.0%/44.3% โดยคาดว่ากําไรปี 2568 จะเติบโตในระดับปานกลางที่ 7.6%
แนวโน้มราคารถยนต์มือสองทรงตัวมากขึ้น ผู้บริหารคาดว่ามาตรการช่วยเหลือลูกหนี้ ล่าสุดของธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ที่เชื่อว่า “คุณสู้เราช่วย” จะช่วยบรรเทาผลกระทบต่อราคารถยนต์มือสอง เนื่องจากจะยืดระยะเวลาความจําเป็นที่สถาบันการเงินต้องยึดทรัพย์สินค้ำประกัน โดยยังมีโอกาสที่จะได้รับเงินต้นคืนจากลูกหนี้ผู้บริหารคาดว่าราคารถยนต์มือสองจะทรงตัวในปี 2568 ซึ่งจะช่วยจํากัดผลขาดทุนจากการขายรถยนต์ยึดคืน ฝ่ายวิจัยเชื่อว่าโครงการนี้จะช่วยรักษาเสถียรภาพของราคารถยนต์มือสองในปี2568 อย่างไรก็ตาม ความเสี่ยงยังคงอยู่ในปี 2569-70 เนื่องจากยอดผ่อนชําระจะเพิ่มขึ้นตามลําดับ
การบริหารจัดการเงินทุนอย่างต่อเนื่อง TTB ระบุว่าจะยังคงบริหารจัดการเงินทุนอย่างมีประสิทธิภาพ TTB กําลังพิจารณาโครงการซื้อหุ้นคืน และการเติบโตจากภายนอกเพื่อรักษาขนาดธุรกิจและเสรมิความแข็งแกร่งให้กับระบบนิเวศและความสามารถในการแข่งขันผู้บริหาร มองว่าอัตราการจ่ายเงินปันผลที่ 60-70% เป็นระดับที่ระดับหมาะสม ปัจจุบันเราสมมติอัราการจ่ายเงินปันผลที่ 60% สำหรับปี 2568-69 แต่หากอัตราการจ่ายเพิ่มขึ้นเป็น 70% อัตราตอบแทนจากเงินปันผลจะอยู่ที่ 8.88%/9.63% ในปี 2568-69
ฝ่ายวิจัยปรับเพิ่มคําแนะนําสําหรับ TTB เป็น “ซื้อ” จาก “ถือ” และเพิ่มราคาเป้าหมายเป็น 1.98 บาท จาก 1.90 บาท เนื่องจากการปรับเพิ่มประมาณการกําไรปี 2568-69 และปรับฐานราคาเป้าหมายของเราเป็นสิ้นปี 2568 จากกลางปี 2568