วัตสันช่วยสิ่งแวดล้อม ตั้งเป้าชดเชยการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ 2,250 ตัน
วัตสัน ร้านค้าปลีกด้านสุขภาพและความงามภายใต้ เอ.เอส.วัตสัน กรุ๊ป (A.S. Watson Group) ตอกย้ำความมุ่งมั่นในการ
ช่วยลดปัญหาความเปลี่ยนแปลงด้านภูมิอากาศ ด้วยการตั้งเป้าหมายชดเชยการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์กว่า 2,250
ตัน เพื่อให้ลูกค้าของวัตสัน Look Good. Do Good. Feel Great โดยวัตสันจะมอบรายได้ส่วนหนึ่งจากทุกยอดการซื้อ
สินค้าในหมวด Sustainable Choices ที่จำหน่ายเฉพาะในร้านวัตสันเท่านั้น ให้กับโครงการชดเชยคาร์บอน (CO2 Offset
projects) ภายใต้เครือข่ายความร่วมมือของ ClimatePartner
คุณมาลีนา ไหง , CEO of A.S. Watson (Asia & Europe), กล่าวว่า “ที่เอ.เอส. วัตสัน กรุ๊ป เราตระหนักถึงความสำคัญ
ในการสร้างความยั่งยืนเป็นอันดับต้นๆ โดยเราได้ใช้งบประมาณลงทุนไปกว่า 97 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ เพื่อริเริ่มโครงการที่
เกี่ยวข้องกับความยั่งยืนมาตั้งแต่ปี 2018 ในฐานะแบรนด์ด้านสุขภาพและความงามชั้นนำ วัตสันมีความภาคภูมิใจที่ได้
เป็นผู้นำในด้านการสร้างความยั่งยืน เรามุ่งมั่นดูแลสภาพแวดล้อมเพื่อโลกที่ดีกว่าร่วมกับลูกค้าของเราอย่างแข็งขันมาโดย
ตลอด ส่งผลให้สินค้าในกลุ่ม Sustainable Choices หรือสินค้าเพื่อความยั่งยืนในร้านวัตสัน มาพร้อมกับพันธกิจพิเศษ คือ
การช่วยชดเชยการปล่อยคาร์บอนไดออกไซด์ด้วยผลิตภัณฑ์ที่ดีต่อลูกค้า และโลกของเรา”
การดำเนินการเพื่อต่อสู้กับการเปลี่ยนแปลงด้านภูมิอากาศ
ClimatePartner เป็นผู้บุกเบิกในการร่วมมือกับองค์กรและบริษัทต่างๆ ในการรับมือกับภาวะโลกร้อนทั่วโลก
โดย ClimatePartner มีโครงการเพื่อสนับสนุนกิจกรรมชดเชยคาร์บอนมากมาย โดยนอกจากการรณรงค์ลดการปล่อย
ก๊าซเรือนกระจกแล้ว โครงการเหล่านี้ยังช่วยสนับสนุนให้ผู้คนทั่วโลกมีความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น ปัจจุบัน วัตสันได้ร่วมเป็น
ส่วนหนึ่งในการสนับสนุนโครงการคุ้มครองป่า (Forest Protection) และโครงการมหาสมุทรสะอาด (Clean Ocean)
ของ ClimatePartner
เนื่องจากป่าไม้ไม่ได้เป็นเพียงแค่แหล่งกักเก็บคาร์บอนที่สำคัญที่สุดแห่งหนึ่งของโลก
เท่านั้น แต่ยังเป็นบ้านของสิ่งมีชีวิตหลากหลายสายพันธุ์อีกด้วย และป่ายังเป็นพื้นที่
ประกอบอาชีพเพื่อการดำรงชีวิตของผู้คนจำนวนไม่น้อย ดังนั้นโครงการคุ้มครองป่า
จึงไม่เพียงตั้งเป้ารับมือกับการเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศเท่านั้น แต่ยังมุ่ง
รักษาป่าอันเป็นแหล่งที่อยู่อาศัยของสัตว์ป่าอีกด้วย
นอกจากนี้ วัตสันยังมีความมุ่งมั่นที่จะลดผลกระทบโดยรวมจากบรรจุภัณฑ์
พลาสติกของแบรนด์เพื่อร่วมปกป้องมหาสมุทร เพราะเราตระหนักว่ามหาสมุทร
เป็นแหล่งเก็บกักก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ที่มนุษย์ปล่อยสู่ชั้นบรรยากาศไว้ถึงหนึ่ง
ในสี่ส่วน รวมถึงดูดซับความร้อนที่เกิดจากปรากฏการณ์เรือนกระจกไว้ถึง 93.4
เปอร์เซ็นต์ การมีมหาสมุทรที่สะอาดขึ้นจะสามารถบรรเทาผลกระทบจากการ
เปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศได้
บรรจุภัณฑ์ที่ยั่งยืนเพื่อโลกสีเขียว
เพื่อช่วยลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม วัตสันนำเสนอทางเลือกที่ยั่งยืนแก่ลูกค้าด้วยตัว
เลือกบรรจุภัณฑ์ที่ดีกว่า
เมื่อเร็วๆ นี้ในมาเลเซีย วัตสันได้เปิดตัว ‘Naturals by Watsons Refill Station’ แห่ง
แรกในร้าน Sunway Pyramid ซึ่งเป็นสถานีที่ให้ลูกค้าสามารถมาเติมผลิตภัณฑ์อีโค
รีฟิลซึ่งเป็นสินค้าที่ขายดีที่สุดได้ถึง 6 ชนิด โดยผลิตภัณฑ์อีโครีฟิลนี้ใช้พลาสติกในการ
ผลิตบรรณจุภัณฑ์น้อยกว่าขวดธรรมดาถึง 58 เปอร์เซ็นต์ และจะมีการเปิดตัวสถานี
เติมผลิตภัณฑ์แห่งใหม่ต่อไปที่ฮ่องกงในช่วงเดือนสิงหาคม เพื่อกระตุ้นให้ลูกค้าหันมา
ร่วมเป็นส่วนหนึ่งของความพยายามในการสร้างโลกที่ยั่งยืนมากขึ้น
มอบความรู้เกี่ยวกับความยั่งยืนให้แก่ลูกค้า
วัตสันเข้าใจดีว่าความรับผิดชอบนี้มีขอบเขตมากไปกว่าการจำหน่ายสินค้าปลีกด้านสุขภาพและความงาม จึงได้ประกาศ
เป้าหมายด้านสังคม “Look good. Do good. Feel great.” เมื่อเดือนมีนาคมที่ผ่านมา โดยมุ่งมั่นที่จะสร้างแรงบันดาลใจ
ให้ลูกค้าปรับเปลี่ยนพฤติกรรมผ่านการเรียนรู้ด้านความยั่งยืนอย่างต่อเนื่อง (bit.ly/WatsonsSocialPurpose)
นอกจากการนำเสนอผลิตภัณฑ์ต่างๆ เพื่อความยั่งยืนแล้ว วัตสันยังเปิดตัว Good Academy ซึ่งเผยแพร่ทุกวันจันทร์ผ่าน
ช่องทางโซเชียลมีเดีย โดยเราพยายามสร้างความตระหนักเรื่องความยั่งยืน และสร้างแรงบันดาลใจให้ลูกค้าของเราในการ
ดำเนินชีวิตตามวิถีการสร้างความยั่งยืน ด้วยการนำเสนอคอนเท้นต์ที่ทันสมัยที่สุดเกี่ยวกับการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิ
อากาศและความยั่งยืน วัตสันสามารถดึงดูดลูกค้าให้มีส่วนร่วมและช่วยให้ลูกค้าของเรา “Look good. Do good. Feel
great.” ได้อีกด้วย
คุณมาลีนา ไหง กล่าวเสริมว่า “วัตสันมุ่งมั่นก้าวสู่การเป็นแบรนด์ที่มีจุดมุ่งหมาย และเป็นแบรนด์ที่ลูกค้าสามารถไว้
วางใจได้ เราทำงานอย่างไม่รู้จักเหน็ดเหนื่อยเพื่อปกป้องโลกของเรา ในขณะเดียวกันก็สนับสนุนให้ทุกคนรอบตัวเราดำเนิน
ชีวิตตามวิถีแห่งความยั่งยืน เราทำความดีร่วมกับลูกค้าของเรา เพราะเราเชื่อว่าทุกความพยายามเล็กๆ ของเราแต่ละคน
จะสามารถสร้างความแตกต่างที่ยิ่งใหญ่ให้กับโลกได้”