วิกฤตพลาสติก ทั่วโลกยังไม่เห็นทางออก หลังการเจรจาที่เจนีวาล่ม!

การประชุมของสหประชาชาติว่าด้วยการจัดทำสนธิสัญญาระดับโลกเพื่อแก้ปัญหาขยะพลาสติก ที่เมืองเจนีวา ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ ซึ่งเริ่มขึ้นตั้งแต่วันที่ 5 สิงหาคม และปิดการประชุมในวันนี้ ยังคงไร้ข้อสรุป หลังจากการเจรจาต่อเนื่องหลายวันไม่สามารถนำไปสู่ข้อตกลงร่วมกันได้ เนื่องจากตัวแทนจาก 184 ประเทศมีจุดยืนแตกต่างกันอย่างชัดเจน
ฝ่ายหนึ่งเป็นกลุ่มประเทศผู้ผลิตน้ำมัน อาทิ ซาอุดีอาระเบีย คูเวต รัสเซีย อิหร่าน อินเดีย และสหรัฐอเมริกา ซึ่งไม่เห็นด้วยกับการจำกัดปริมาณการผลิต “พลาสติกเวอร์จิน” หรือพลาสติกใหม่ที่ผลิตจากวัตถุดิบปิโตรเลียม เช่น น้ำมัน ก๊าซธรรมชาติ หรือถ่านหิน โดยให้เหตุผลว่าการเปลี่ยนแปลงควรเป็นไปแบบค่อยเป็นค่อยไป เพื่อหลีกเลี่ยงผลกระทบทางเศรษฐกิจและอุตสาหกรรม
อีกฝ่ายคือกลุ่มแนวร่วมที่ต้องการให้เกิดการเปลี่ยนแปลงอย่างเร่งด่วน ประกอบด้วยสหภาพยุโรป ประเทศในแอฟริกา อเมริกาใต้ ออสเตรเลีย อังกฤษ สวิตเซอร์แลนด์ และแคนาดา โดยผลักดันให้มีการจำกัดการผลิตพลาสติกเวอร์จิน รวมถึงพลาสติกที่ใช้สารเคมีอันตราย พร้อมเร่งดำเนินมาตรการเพื่อรับมือวิกฤตสิ่งแวดล้อมที่กำลังรุนแรงขึ้น
ท่ามกลางสองจุดยืนที่แตกต่างอย่างสิ้นเชิง ประเทศที่มีจุดยืนอยู่ตรงกลางพยายามเรียกร้องให้ทั้งสองฝ่ายยอมประนีประนอม เพื่อให้สามารถบรรลุข้อตกลงได้ในที่สุด
ขณะเดียวกัน บริเวณด้านนอกสถานที่จัดการประชุม มีกลุ่มเคลื่อนไหวด้านสิ่งแวดล้อมรวมตัวกันเพื่อแสดงพลังและกดดันให้ผู้แทนประเทศต่าง ๆ ลงนามในสนธิสัญญาที่มีมาตรการเด็ดขาดและจริงจัง โดยนักเคลื่อนไหวเตือนว่าการเจรจาครั้งนี้อาจเป็นโอกาสสุดท้ายของโลกในการหาทางออกร่วมกันเพื่อแก้ไขปัญหาขยะพลาสติก ซึ่งเป็นหนึ่งในวิกฤตสิ่งแวดล้อมที่คุกคามทั้งธรรมชาติและสุขภาพของมนุษย์
สำหรับ “พลาสติกเวอร์จิน” คือพลาสติกที่ผลิตจากวัตถุดิบปิโตรเลียมโดยตรง ไม่เคยผ่านการใช้งานหรือรีไซเคิลมาก่อน มีคุณภาพและความทนทานสูง แต่กระบวนการผลิตปล่อยก๊าซเรือนกระจกจำนวนมาก และทำให้เกิดขยะพลาสติกใหม่เข้าสู่ระบบอย่างต่อเนื่อง ปัญหาสำคัญคือพลาสติกใช้เวลาย่อยสลายนานหลายร้อยปี ส่งผลให้สะสมในสิ่งแวดล้อมและแตกตัวเป็นไมโครพลาสติก ซึ่งปนเปื้อนในน้ำ อากาศ และอาหาร องค์การอนามัยโลกเตือนว่าอาจส่งผลกระทบต่อสุขภาพในระยะยาว
การประชุมครั้งนี้ถูกจับตามองในฐานะจุดเปลี่ยนสำคัญ เนื่องจากสนธิสัญญาดังกล่าวมีเป้าหมายวางกรอบกติกาสากลเพื่อลดการผลิตและจัดการขยะพลาสติกอย่างยั่งยืน แต่ความแตกต่างด้านผลประโยชน์และความเร่งด่วนของแต่ละฝ่าย ทำให้การบรรลุข้อตกลงยังคงเป็นโจทย์ใหญ่ที่รอคำตอบจากเวทีเจรจาครั้งต่อไป
Tag
ยอดนิยมในตอนนี้
