ไทยเสียแชมป์ข้าวโลก! “ผกาลำดวน” จากกัมพูชา เฉือนชนะ “หอมมะลิ”
ภาพประกอบข่าว
วันนี้ ( 22 พ.ย. 65 )นายชูเกียรติ โอภาสวงศ์ นายกกิตติมศักดิ์ สมาคมผู้ส่งออกข้าวไทย เปิดเผยถึงผลการประกวดข้าวที่ดีที่สุดในโลก ปี 65 (The World's Best Rice 2022) ในระหว่างการประชุมข้าวโลก ว่า ข้าวหอมมะลิผกาลำดวน จากกัมพูชา สามารถคว้ารางวัลข้าวที่ดีที่สุดในโลกไปครอง ทำให้กัมพูชาครองแชมป์เป็นครั้งที่ 5 ส่วนข้าวหอมมะลิไทย เสียแชมป์ ได้เป็นอันดับ 2 โดยการแพ้แบบสูสี ห่างกันเพียง 1 คะแนนเท่านั้น อันดับ 3 คือ ข้าวหอมจากเวียดนาม และอันดับ 4 ข้าวหอมจากลาว
โดยปีนี้สมาคมผู้ส่งออกข้าวไทย ส่งข้าวหอมมะลิจากภาคตะวันออกเฉียงเหนือ เข้าประกวดเพียง 1 ตัวอย่าง จากทั้งหมดกว่า 20 ตัวอย่างจากผู้เข้าประกวดทั้งไทย เวียดนาม กัมพูชา เมียนมา ลาว อินเดีย ปากีสถาน จีน และสหรัฐฯ
สำหรับสาเหตุที่ข้าวไทยแพ้กัมพูชา เชฟใหญ่จากสหรัฐฯระบุว่า แพ้กันที่กลิ่น หลังการหุงแล้ว ข้าวผกาลำดวน กลิ่นหอมมาก แต่ข้าวหอมมะลิไทย กลิ่นอ่อนมาก ซึ่งอาจเป็นเพราะน้ำมาก ฝนตกชุก ทำให้ข้าวไม่ได้สร้างกลิ่นที่แรงเหมือนปีก่อนที่ข้าวหอมมะลิไทยที่ชนะเลิศ
การเสียแชมป์ครั้งนี้ เป็นสัญญาณเตือนว่า ไทยควรปรับปรุงพันธุ์ข้าวเก่าให้ดีขึ้น โดยเฉพาะเพิ่มผลผลิตต่อไรให้มากขึ้น ลดการใช้สารเคมีและปุ๋ยเคมี ไม่เช่นนั้นไทยจะไม่สามารถแข่งขันกับข้าวหอมของเพื่อนบ้านได้แน่นอน เพราะในช่วงหลายปีมานี้ เพื่อนบ้านทั้งเวียดนาม เมียนมา กัมพูชา ลาว พัฒนาพันธ์ุข้าวหอม ให้มีคุณภาพดีขึ้นมาก และสามารถแข่งขันกับข้าวหอมมะลิของไทยได้แล้ว
โดยเฉพาะในตลาดสหภาพยุโรป (อียู) ที่ประเทศเพื่อนบ้านไม่ต้องเสียภาษีนำเข้า แต่ข้าวไทยต้องเสียภาษี คาดว่า ฤดูการผลิตปี 65/66 ข้าวหอมมะลิไทย และข้าวหอมผกาลำดวน จะแข่งขันกันอย่างรุนแรงด้านส่งออกแน่นอน เพราะผลผลิตเพิ่มขึ้น ล่าสุดข้าวหอมมะลิไทย ราคาส่งออกตันละ 750 เหรียญสหรัฐฯ ส่วนผกาลำดวน ตันละ 720 เหรียญฯ แต่เมื่อได้รางวัลราคาคงขยับขึ้นอีก ส่วนการส่งออกข้าวไทยปีนี้คาดว่าจะได้ถึง 7.5 ล้านตัน
ขณะเดียวกัน ภาครัฐต้องเร่งพัฒนาพันธุ์ข้าวใหม่ๆ โดยเฉพาะข้าวขาวพื้นนุ่ม เพื่อป้อนตลาดที่นิยมบริโภคข้าวนุ่มจากเวียดนามมากขึ้น ทั้งฟิลิปปินส์ มาเลเซีย และจีน
ภาพจาก : AFP