รีเซต

CK โบรกฯ ชี้แกร่งสุดในกลุ่ม คาด Q3/66 ทำนิวไฮปีจาก CKP

CK โบรกฯ ชี้แกร่งสุดในกลุ่ม คาด Q3/66 ทำนิวไฮปีจาก CKP
ทันหุ้น
8 พฤศจิกายน 2566 ( 12:24 )
34
CK โบรกฯ ชี้แกร่งสุดในกลุ่ม คาด Q3/66 ทำนิวไฮปีจาก CKP

#ทันหุ้น - บล.หยวนต้า ส่องหุ้น CK กำไรปกติ Q3/66 ที่ 666 ลบ. (+37.0% QoQ, +16.6% YoY) คาดเป็นระดับสูงสุดของปี คาดรายได้ที่ 9,114 ลบ. (-1.1% QoQ, +148.8% YoY) ทรงตัว QoQ (รับรู้รายได้โครงการหลวงพระบางลดลง QoQ เพราะเป็นฤดูฝน แต่ได้รับรู้โครงการอื่นๆ ชดเชย) แต่เติบโตเด่น YoY จากการรับรู้รายได้โครงการโรงไฟฟ้าหลวงพระบาง และจะรับรู้รายได้ปันผลจาก TTW ที่ 232 ลบ. ขณะที่ GPM คาดชะลอลงเล็กน้อยเป็น 7.2% จาก 7.4% ใน Q2/66 จากการรับรู้รายได้โครงการที่มีอัตราการทำไรสูงน้อยลง อย่างไรก็ดีส่วนแบ่งกำไรจากบริษัทร่วมคาดทำระดับสูงสุดของปีที่ 589 ลบ. (+130.7% QoQ, -20.0% YoY) จาก CKP 264 ลบ. ที่เป็นช่วง High Season ของโรงไฟฟ้าพลังงานน้ำ ขณะที่ส่วนแบ่งกำไรจาก BEM คาดทรงตัว QoQ ที่ 325 ลบ.

 

แนวโน้ม Q4/66 อาจชะลอลง QoQ ตามฤดกูาล แต่ธุรกิจหลับเหมาโตเด่น YoY 

ฝ่ายวิจัยประเมินแนวโน้มผลประกอบการใน Q4/66 จะชะลอลง QoQ ตามปัจจัยฤดูกาลที่จะไม่มีรายได้ปันผลรับจาก TTW (ปกติจะรับรู้ใน Q2-Q3) และรับรู้ส่วนแบ่งกำไรจาก CKP ลดลง QoQ หลังผ่านพ้นช่วง High Season ของธุรกิจโรงไฟฟ้าพลังงานน้ำ อย่างไรก็ตามธุรกิจรับเหมาก็สร้างคาดจะยังทยอยรับรู้รายได้จากโครงการต่างๆ ที่ดำเนินการอยู่อย่างต่อเนื่อง และจะยังเติบโตเด่น YoY จากปีก่อนที่ยังไม่รับรู้รายการโรงไฟฟ้าหลวงพระบาง (มูลค่าโครงการราว 9.98 หมื่นลบ.) 

 

ปรับประมาณการกำไรปี 2566-2567 ขึ้นสะท้อน Backlog ที่อยู่ในระดับสูง

มีมุมมองบวกมากขึ้นต่อธุรกิจรับเหมาฯของ CK ที่มี Backlog อยู่ในระดับสูง โดย ณ สิ้น Q2/66 อยู่ที่ 1.43 แสนลบ. (ไม่รวมโครงการรถไฟฟ้าสายสีส้มที่รอความชัดเจน) ทำให้เพียงพอต่อการรับรู้รายได้ไปอีก 4-5 ปีจากนี้ และไม่ต้องกดดันในการหางานที่มี GPM ต่ำมาเติบ Backlog และมีแนวโน้มที่จะสูงขึ้นอีกในปี 2567 จากการประมูลโครงการใหม่ของรัฐฯ ฝ่ายวิจัยจึงปรับประมาณการกำไรปกติปี 2566-2567 ขึ้น 19.4% และ 17.8% เป็น 1,522 ลบ. (+72.5% YoY) และ 2,044 ลบ. (+34.3% YoY) ตามลำดับ จากการปรับสมมติฐานรายได้ขึ้นตามปริมาณ Backlog ที่สูงขึ้น 

 

พื้นฐานแกร่งสุดในกลุ่ม ... รอติดตามการประมูลรถไฟฟ้าสายสีส้ม

ปรับไปใช้ราคาเป้าหมาย ณ สิ้นปี 2567 อิงวิธี SOTP ( มูลค่าธุรกิจรับเหมาฯ ที่ 3.50 บาท อิง PER ที่ 22 เท่า, Holding discount 50% จากสัดส่วนการถือหุ้นใน BEM ที่ 17.20 บาท, CKP 2.90 บาท และ TTW ที่ 2.40 บาท) โดยฝ่ายวิจัยลด PER ในการประเมินมูลค่า และเพิ่ม Holding discount ขึ้นเพื่อเพิ่มความระมัดระวังต่อความผันผวนของตลาด ทำให้ได้ราคาเหมาะสมใหม่ที่ 26.00 บาท คงคำแนะนำ “ซื้อ” เพื่อรองานโครงการใหม่ๆ ที่คาดจะมีการประมูลมากขึ้นในปี 2567

ยอดนิยมในตอนนี้

แท็กยอดนิยม

ข่าวที่เกี่ยวข้อง