วิจัยพบ 'งีบกลางวัน' มากขึ้น อาจเพิ่มเสี่ยง 'ความดันเลือดสูง-หลอดเลือดสมอง'
![วิจัยพบ 'งีบกลางวัน' มากขึ้น อาจเพิ่มเสี่ยง 'ความดันเลือดสูง-หลอดเลือดสมอง'](https://cms.dmpcdn.com/contentowner/2021/12/07/a881a180-570a-11ec-af29-fbb59635f406_original.png)
![วิจัยพบ 'งีบกลางวัน' มากขึ้น อาจเพิ่มเสี่ยง 'ความดันเลือดสูง-หลอดเลือดสมอง'](https://cms.dmpcdn.com/news/2022/08/16/e92bab80-1d17-11ed-8d97-e7f031e6cd0f_original.jpg)
ปักกิ่ง, 15 ส.ค. (ซินหัว) -- คณะนักวิจัยจีนพบว่าการงีบหลับตอนกลางวันมากขึ้น อาจเป็นปัจจัยเสี่ยงการเกิดโรคความดันโลหิตสูงชนิดไม่ทราบสาเหตุ หรือโรคหลอดเลือดสมองตีบ
สำหรับกลุ่มวัยกลางคนและผู้สูงอายุทั่วโลก โรคความดันโลหิตสูงเป็นหนึ่งในสาเหตุการเสียชีวิตหลักที่มีต้นตอจากโรคหัวใจและหลอดเลือด ขณะโรคหลอดเลือดสมองเป็นหนึ่งในสาเหตุหลักของภาวะพิการ โดยการศึกษาช่วงต้นพบว่าผู้คนจะมีความดันโลหิตสูงขึ้นหลังจากงีบหลับผลการศึกษาที่เผยแพร่ในวารสารไฮเปอร์เทนชัน (Hypertension) ระบุว่ายูเค ไบโอแบงก์ (UK Biobank) ฐานข้อมูลชีวการแพทย์ขนาดใหญ่ของสหราชอาณาจักร ได้รวบรวมข้อมูลพันธุกรรม วิถีชีวิต และสุขภาพจากอาสาสมัครชาวสหราชอาณาจักรกว่า 500,000 คน ที่มีอายุระหว่าง 40-69 ปีทีมวิจัยจากโรงพยาบาลเซียงหย่า สังกัดมหาวิทยาลัยเซ็นทรัลเซาธ์ (CSU) ทำการวิเคราะห์การถดถอยค็อกซ์ (Cox regression) ซึ่งเป็นหนึ่งในรูปแบบการวิเคราะห์อัตราการมีชีวิตรอด ในกลุ่มผู้เข้าร่วม 358,451 คนจากฐานข้อมูล ที่ไม่เป็นโรคความดันโลหิตสูงหรือโรคหลอดเลือดสมองบรรดาผู้เชี่ยวชาญดำเนินการศึกษาที่เกี่ยวข้องผ่านการสุ่มแบบเมนเดล (Mendelian randomization) และพบว่าผู้ที่งีบหลับบ่อยเสี่ยงเผชิญโรคความดันโลหิตสูงและโรคหลอดเลือดสมองตีบมากกว่าผู้ที่ไม่เคยงีบหลับ ร้อยละ 12 และร้อยละ 24 ตามลำดับ ซึ่งบ่งชี้ถึงความเชื่อมโยงระหว่างความถี่ในการงีบหลับตอนกลางวัน กับโอกาสการเกิดโรคความดันโลหิตสูงหรือโรคหลอดเลือดสมองหวังเอ้อ หัวหน้าทีมวิจัยดังกล่าว เผยว่าแม้การศึกษานี้จะมุ่งเป้าไปที่กลุ่มวัยกลางคนและผู้สูงอายุในยุโรป ทว่ามันอ้างอิงฐานข้อมูลขนาดใหญ่ของการศึกษาทางคลินิก จึงถือเป็นภาพสะท้อนกลุ่มประชากรโดยทั่วไป อีกทั้งเสริมว่ากลไกภายในของความเชื่อมโยงระหว่างการงีบหลับกับโรคความดันโลหิตสูง โรคหลอดเลือดสมอง และโรคอื่นๆ นั้นยังไม่เป็นที่ทราบชัดเจนและจำเป็นต้องมีการศึกษาเพิ่มเติม