จีนเริ่มผ่อนคลายมาตรการป้องกันโควิด-ยังไม่เปิดเมืองเต็มรูปแบบ
วันนี้ ( 5 ธ.ค. 65 )ที่มหานครเซี่ยงไฮ้ เมืองที่ใหญ่ที่สุดของจีน เจ้าหน้าที่ระบุว่า ผู้อยู่อาศัยไม่จำเป็นต้องมีผลตรวจหาเชื้อโควิดเป็นลบ ก่อนใช้ขนส่งมวลชน หรือก่อนเข้าสถานที่กลางแจ้งอย่าง สวนสาธารณะ หรือสถานที่ท่องเที่ยวแล้ว เช่นเดียวกับที่เมืองเสิ่นเจิ้น เมืองเฉิงตู และเมืองเทียนจินที่ยกเลิกการตรวจหาเชื้อโควิดก่อนขึ้นรถสาธารณะทั้งหมด
อย่างไรก็ตามที่มหานครเซี่ยงไฮ้ผู้คนยังต้องตรวจหาเชื้อโควิดก่อนเข้ารับประทานอาหารในร้าน หรือก่อนทำงานอยู่เช่นเดิม แต่ประชาชนก็ดีใจที่มีการผ่อนคลายมาตรการบ้าง
โดยเมื่อวันที่ 4 ธันวาคม เซี่ยงไฮ้พบผู้ติดเชื้อแสดงอาการ 41 คน และติดเชื้อไม่แสดงอาการ 524 คน
ส่วนที่เมืองอุรุมชี เมืองเอกของมณฑลซินเจียง ทางตะวันตกของจีน เจ้าหน้าที่อนุญาตให้เปิดสกีรีสอร์ท และห้างสรรพสินค้าได้แล้ว รวมถึงอนุญาตให้ร้านอาหารเปิดบริการส่งอาหารถึงบ้านได้ ส่วนโรงภาพยนตร์ ฟิตเนส สวนสาธารณะก็เปิดแล้วเช่นกัน แต่จำกัดจำนวนผู้เข้าใช้
ก่อนหน้านี้เกิดการประท้วงในกว่า 20 เมืองทั่วประเทศจีน เนื่องจากมาตรการป้องกันโควิดที่เข้มงวด หลังจากมีเมืองอย่างน้อย 12 แห่งกลับมาใช้มาตรการเข้มงวดเหมือนเดิม อ้างอิงจากข้อมูลของโกลบอลไทมส์ นอกจากนี้ยังมีผู้เสียชีวิตจากการติดอยู่ภายในตึกที่เกิดเพลิงไหม้อีก 10 คนที่เมืองอุรุมชี ซึ่งทำให้เกิดการประท้วงในเดือนพฤศจิกายน
องค์การอนามัยโลก หรือ WHO มีความยินดีที่ได้เห็นจีนปรับเปลี่ยนมาตรการควบคุมโรคโควิด-19 และมุ่งเน้นไปที่ฉีดวัคซีนครอบคลุมกลุ่มที่เปราะบางที่สุดแทน
มากาเร็ต แฮร์ริส โฆษกของ WHO กล่าวว่า พวกเขามีความสุขที่ได้เห็นการปรับเปลี่ยน ซึ่งเป็นสิ่งสำคัญมากในการสร้างความสมดุลระหว่างความจำเป็นในการควบคุมการแพร่กระจายของไวรัส กับความจำเป็นทางเศรษฐกิจและสังคม ความจำเป็นของประชากร ความจำเป็นที่จะอยู่ร่วมกับสังคม และที่สำคัญที่สุดคือ ความจำเป็นที่จะได้รับการฉีดวัคซีนของกลุ่มที่เปราะบาง ซึ่งสำคัญมาก ไม่มีคำว่าสายเกินไปที่จะสร้างสมดุลระหว่างความต้องการในด้านต่างๆ
ขณะนี้ทุกประเทศต่อสู้กับเรื่องนี้ ทุกประเทศพบว่ามันเป็นส่วนที่ยาก แต่สิ่งที่สำคัญที่สุดคือ การทำให้ชีวิตดำเนินต่อไป พร้อมๆกับการป้องกันโควิด-19
ภาพจาก : รอยเตอร์