รีเซต

โพลนักธุรกิจวิตกโควิดรอบ2ทุบเศรษฐกิจ

โพลนักธุรกิจวิตกโควิดรอบ2ทุบเศรษฐกิจ
TNN ช่อง16
31 ธันวาคม 2563 ( 16:49 )
50
โพลนักธุรกิจวิตกโควิดรอบ2ทุบเศรษฐกิจ

นายวิรัตน์ เอื้อนฤมิต รองประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) เปิดเผยผลการสำรวจ FTI Poll  ในหัวข้อ การรับมือเชื้อไวรัสโควิด-19 รอบที่ 2 ในประเทศไทย โดยผู้บริหาร ส.อ.ท. ส่วนใหญ่ยังคงมีความกังวลมากเกี่ยวกับการระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 รอบที่ 2 และมองว่าการลักลอบเดินทางเข้า-ออกประเทศไทยผ่านด่านชายแดนหรือด่านธรรมชาติของทั้งคนไทยและแรงงานต่างด้าว ยังเป็นปัจจัยเสี่ยงที่ทำให้เกิดการแพร่ระบาดระลอกใหม่ ดังในกรณีการแพร่ระบาดของเชื้อโควิด-19 ในพื้นที่จังหวัดสมุทรสาคร

นอกจากนี้ ผู้บริหาร ส.อ.ท. ยังเห็นว่า มาตรการกระตุ้นการบริโภคในประเทศ อาทิ คนละครึ่ง, ช็อปดีมีคืน, เที่ยวด้วยกัน, เติมเงินในบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ เป็นต้น ยังคงเป็นมาตรการที่มีประสิทธิภาพในการช่วยฟื้นฟูเศรษฐกิจจากผลกระทบของการระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19

จากการสำรวจผู้บริหาร ส.อ.ท. (CEO Survey) จำนวน 163 คน ครอบคลุมผู้บริหารจาก 45 กลุ่มอุตสาหกรรม และ 74 สภาอุตสาหกรรมจังหวัด พบว่า ในเรื่องความกังวลต่อการ
ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 รอบที่ 2 ในประเทศไทย ผู้บริหารส่วนใหญ่  54.6% มีความกังวลมาก, ค่อนข้างกังวล สัดส่วน 31.9 % ไม่ค่อยกังวล  10.4% และไม่กังวลเลย 3.1% 

สำหรับสาเหตุความเสี่ยงที่คาดว่าจะทำให้เกิดการระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 รอบที่ 2 นั้น   96.3%  มองว่า เกิดจากการลักลอบเดินทางเข้า-ออกประเทศไทยผ่าน ด่านชายแดนหรือด่านธรรมชาติ รองลงมา  51.5 % เกิดจากการที่ประชาชนไม่ปฏิบัติตามคำแนะนำด้านสาธารณสุขหรือการจัดกิจกรรมที่มีการรวมตัวกันจำนวนมาก และ 15.3%  เกิดจากการเปิดให้ชาวต่างชาติและคนไทยเดินทางเข้าประเทศผ่านสนามบิน

ในส่วนความพร้อมของภาคอุตสาหกรรมในการรับมือการระบาดโควิด-19 รอบที่ 2 พบว่า ผู้บริหาร ส.อ.ท. ส่วนใหญ่มีความพร้อมรับมือสถานการณ์อยู่ในระดับมาก  47.2 %และปานกลาง 47.2 %เนื่องจากมีการนำประสบการณ์การรับมือกับการระบาดโควิด-19 ที่ผ่านมา มาปรับใช้ในการดำเนินธุรกิจในช่วงที่ผ่านมา 

อย่างไรก็ตาม  ปัจจัยที่ทำให้ธุรกิจไม่สามารถรับมือกับการระบาดโควิด-19 รอบที่ 2 พบว่า  64.4% มองว่าปัญหาเรื่องคำสั่งซื้อและยอดขายลดลงเป็นปัญหา ที่สำคัญของภาคอุตสาหกรรม, รองลงมา 46.6 %ปัญหาในการขนส่งสินค้า และ 43.6 %เป็นปัญหาสภาพคล่องทางการเงิน

นอกจากนี้ ในมุมมองของผู้บริหาร ส.อ.ท. ในเรื่อง มาตรการฟื้นฟูเศรษฐกิจของภาครัฐ มาตรการใดที่มีประสิทธิภาพ พบว่า  67.5% มาตรการกระตุ้นการบริโภคในประเทศ (คนละครึ่ง, ช็อปดีมีคืน, เติมเงินในบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ) เป็นมาตการที่มีประสิทธิภาพสูงสุด, รองลงมา  58.9 %มาตรการชำระหนี้, และ  54 % เป็น มาตรการลดหย่อนทางภาษี/เลื่อนชำระภาษี สำหรับความคาดหวังของวัคซีนป้องกันโควิด-19 ที่จะมาใช้ในประเทศไทยฟื้นตัวในปีหน้า พบว่า ส่วนใหญ่ยังคงมีความเชื่อมั่นอยู่ในระดับมากถึงมากที่สุด
 
ทั้งนี้ ผู้บริหาร ส.อ.ท. เน้นย้ำขอให้ภาครัฐดำเนินมาตรการที่เข้มงวด รัดกุม จริงจัง รวมถึง สื่อสารให้ประชาชนรับทราบสถานการณ์และแผนรับมือที่ชัดเจน ตลอดจนขอให้พิจารณาถึงความสมดุลย์ระหว่างการป้องกันและการกระตุ้นเศรษฐกิจ รวมทั้ง การดูแลผู้ประกอบการในเรื่อง  สภาพคล่องทางการเงิน และการรักษาสภาพการจ้างงาน


เกาะติดข่าวที่นี่

website: www.TNNTHAILAND.com
facebook : TNNONLINE
facebook live : TNN Live
twitter : TNNONLINE
Line : @TNNONLINE
Youtube Official : TNNONLINE
Instagram : TNN_ONLINE
TIKTOK : @TNNONLINE

ยอดนิยมในตอนนี้

แท็กยอดนิยม

ข่าวที่เกี่ยวข้อง