ส.อ.ท.หนุน"เที่ยวคนละครึ่ง-คนละครึ่ง"

นายเกรียงไกร เธียรนุกุล ประธาน สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.)  กล่าวว่า เครื่องยนต์ทางเศรษฐกิจที่ยังทำเงินอยู่ให้กับประเทศ ที่เห็นชัดเจน หนึ่งในนั้น คือ อุตสาหกรรมท่องเที่ยว" โดยเฉพาะช่วงฤดูกาลท่องเที่ยวหรือ ไฮซีซั่น ช่วง 4 เดือนที่เหลือของปี 

ดังนั้นเราควรมีมาตรการที่สนับสนุนภาคการท่องเที่ยวออกมา ท่ามกลางค่าเงินบาทที่แข็ง  เช่น การตลาดเชิงรุก การออกแคมเปญให้ตรงความต้องการ และปัจจุบัน นักท่องเที่ยวที่เข้ามาเที่ยวประเทศไทยนั้นมีพฤติกรรมที่เปลี่ยนไป เดิมที่เข้ามาจำนวนมาก เปลี่ยนเป็นการท่องเที่ยวที่เหมาะกับตัวเองมากขึ้น เช่น การท่องเที่ยวไลฟ์สไตล์ เป็นต้น 

และปัจจุบัน การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) มีแพ็คเกจหลายด้าน เพื่อกระตุ้นการท่องเที่ยวต่างประเทศ รวมทั้งการสร้างความเชื่อมั่นต่อนักท่องเที่ยวจีน โดยในช่วงครึ่งปีแรก นักท่องเที่ยวจีน หายไปร้อยละ 35-40 เพราะความไม่มั่นใจในความปลอดภัย และข่าวจากโซเชียลมีเดียที่โจมตีไทย 

ดังนัันเรื่องที่ควรแก้ คือ เรื่องความปลอดภัย และไม่ใช่เฉพาะประเทศจีน แต่ควรสร้างความปลอดภัยและความเชื่อมั่นให้กับนักท่องเที่ยวทุกคนที่เข้ามาประเทศไทย

ส่วนเหตุการณ์ค่าเงินบาทแข็งค่าเป็นอุปสรรค ทำให้คนไทยเตรียมตัวไปเที่ยวต่างประเทศเช่น ญี่ปุ่น จีน แทนที่มีค่าเงินอ่อนกว่า ดังนั้นไทยควรมีแพคเก็จดีๆ ในการดึงดูดให้เขาคิดว่าเที่ยวในไทยคุ้มกว่า 

ขณะที่โครงการ "คนละครึ่ง" เป็นมาตรการกระตุ้นที่รัฐบาลนำมาใช้ในช่วงนี้ เป็นโครงการที่เกิดผลและคนนิยมในสมัยที่เราใช้มาแล้ว ตอนนี้เรามีเครื่องมือพร้อมแล้ว เพียงแต่ต้องไปดูข้อผิดพลาดเดิม และปรับปรุงเกณฑ์ใหม่ให้ดีขึ้น

ส่วน "เที่ยวไทยคนละครึ่ง" ที่เจาะจงเฉพาะท่องเที่ยว ควรออกแบบให้สอดคล้องกับกำลังซื้อ  และการจ่ายคนละครึ่งช่วยได้เยอะ และตัดสินใจง่ายขึ้น 

คนไทยรุ่นใหม่ต้อง ต้องการประสบการณ์ใหม่ๆ ท่องเที่ยวใหม่ๆ จึงต้องมีการออกแบบการท่องเที่ยวร่วมกับหน่วยงาน เช่น สภาอุตสาหกรรมฯ จังหวัด ผู้ว่าราชการจังหวัด ออกแบบร่วมกัน เพื่อตอบสนองแต่ละกลุ่มอย่างตรงจุดที่สุด กระตุ้นเศรษฐกิจ และสร้างการจ้างงาน

ส่วนช่วง Golden Week หรือ ช่วงเวลาวันหยุดยาว 12 วัน ททท.คาดว่าจะมีนักท่องเที่ยวโดยเฉพาะจีน เข้าไทยไม่ต่ำกว่า 200,000 คน หรือ 20,000 คนต่อวัน ซึ่งขณะนี้เป็นช่วงนาทีทองที่เราจะต้องทำให้ได้