ชาติแรกของโลก! อังกฤษ อนุมัติ วัคซีนโควิด-19 ของ ไฟเซอร์ พร้อมฉีดให้ปชช. 20 ล้านคน
บีบีซี รายงานเมื่อวันที่ 2 ธันวาคมที่ผ่านมาว่าประเทศอังกฤษเป็นประเทศแรกในโลกที่อนุมัติให้ใช้วัคซีนโควิด-19 เพื่อใช้กับประชาชนโดยทั่วไปได้แล้ว โดยวัคซีนดังกล่าวเป็นวัคซีนที่พัฒนาโดยบริษัท “ไฟเซอร์ร่วมกับไบโอเอ็นเทค” (Pfizer/BioNTech) โดยรัฐบาลสั่งซื้อเอาไว้แล้ว 40 ล้านโดส เพื่อใช้กับประชาชน 20 ล้านคน
หน่วยงานกำกับดูแลยาและผลิตภัณฑ์สุขภาพของประเทศอังกฤษ หรือเอ็มเอชอาร์เอ ระบุว่าวัคซีนโควิด-19 ของบริษัท “ไฟเซอร์ร่วมกับไบโอเอ็นเทค” สามารถป้องกันโควิด-19 ได้ 95 เปอร์เซ็นต์ และมีความปลอดภัยที่จะนำไปฉีดให้กับประชาชน
รายงานระบุว่ารัฐบาลอังกฤษสั่งซื้อวัคซีนดังกล่าวเอาไว้แล้ว 40 ล้านโดส เพียงพอสำหรับประชาชน 20 ล้านคน โดยแต่ละคนจะต้องฉีดคนละ 2 เข็ม โดยวัคซีนจะผลิตพร้อมใช้จำนวน 10 ล้านโดสในเร็วๆนี้ และโดสแรกจะนำออกฉีดได้ในอีกไม่กี่วันข้างหน้า โดยมีเป้าหมายที่กลุ่มคนที่มีความเสี่ยงสูงอย่างเจ้าหน้าที่บ้านพักคนชรา เจ้าหน้าที่ทางการแพทย์เป็นต้น
วัคซีนดังกล่าวนับเป็นวัคซีนชนิดแรกในโลกที่นำออกใช้ได้จริงเร็วที่สุดในโลกด้วยเวลาเพียง 10 เดือนเท่านั้นโดยผ่านขั้นตอนซึ่งตามปกติใช้เวลานานนับสิบปีแล้วทั้งหมด
ทั้งนี้วัคซีนดังกล่าวเป็นวัคซีนที่พัฒนาขึ้นด้วยวิธีการที่เรียกว่า mRNA โดยใช้รหัสพันธุกรรมของไวรัสโควิด-19 บางส่วนมาฉีดเข้าสู่ร่างกายให้ได้เรียนรู้ในการสร้างภูมิคุ้มกันเพื่อต่อสู้กับเชื้อไวรัสจริงๆได้
วัคซีนที่พัฒนาด้วย mRNA ไม่เคยได้รับอนุมัติให้ใช้ในมนุษย์มาก่อนแต่มีการผ่านการทดลองเชิงคลินิคกับมนุษย์มาแล้วก่อนหน้านี้
อย่างไรก็ตามวัคซีนชนิดนี้มีความท้าทายในการเก็บรักษาที่ต้องเก็บในอุณหภูมิต่ำถึง -70 องศาเซลเซียส ต้องขนส่งด้วยกล่องใส่น้ำแข็งแห้งและสามารถเก็บไว้ในตู้เย็นได้เพียง 5 วันเท่านั้น