คิม จอง อึน เสนอฟื้นฮอตไลน์ 2 โสม ฟาดมะกันมุ่งร้าย
นายคิม จอง อึน ผู้นำเกาหลีเหนือระบุว่าเขาตั้งใจจะกลับมาเปิดสายด่วนติดต่อระหว่างเกาหลีเหนือและเกาหลีใต้อีกครั้งในเดือนตุลาคมนี้ พร้อมกับกล่าวหาสหรัฐอเมริกาที่เสนอให้มีการเจรจาหารือระหว่างกัน โดยไม่ได้มีการเปลี่ยนแปลงนโยบายอันมุ่งร้ายและเป็นปรปักษ์ต่อเกาหลีเหนือ
สำนักข่าวกลางเกาหลีเหนือรายงานว่าผู้นำคิมได้กล่าวเรื่องดังกล่าวระหว่างการประชุมสภาประชาชนสูงสุด ที่เป็นองค์กรนิติบัญญัติที่สูงที่สุดของเกาหลีเหนือในวันที่ 2 ซึ่งมีการหารือเกี่ยวกับประเด็นทั้งทางด้านการเมือง เศรษฐกิจ และสังคมของประเทศ
ผู้นำคิมกล่าวว่า การตัดสินใจที่จะกลับมาฟื้นสายด่วนระหว่างกันอีกครั้งก็เพื่อช่วยให้เข้าใจถึงความคาดหวังและความปรารถนาของสองเกาหลี และเพื่อฟื้นฟูสันติภาพรวมถึงความสัมพันธ์ระหว่างกันตลอดพรมแดนให้ยั่งยืน
ผู้นำคิมยังวิพากษ์วิจารณ์เกาหลีใต้ว่าหลงผิดต่อสิ่งที่ระบุว่าเป็นการยั่วยุทางการทหารจากเกาหลีเหนือ เพราะเกาหลีเหนือไม่ได้ตั้งใจหรือมีเหตุผลใดที่จะยั่วยุเกาหลีใต้ และเราไม่มีความคิดที่จะทำอันตรายเกาหลีใต้เช่นกัน เป็นความจำเป็นที่เกาหลีใต้จะต้องขจัดความหลงผิดของตนเองให้ทันท่วงที
ขณะเดียวกันผู้นำเกาหลีเหนือยังได้แสดงท่าทีที่แข็งกร้าวต่อรัฐบาลสหรัฐ โดยกล่าวหารัฐบาลภายใต้การนำของประธานาธิบดีโจ ไบเดน ว่าใช้นโยบายและวิธีที่เจ้าเล่ห์มากขึ้นในการเพิ่มภัยคุกคามทางทหารและดำเนินนโยบายที่เป็นปรปักษ์ต่อเกาหลีเหนือ แต่กลับเสนอให้มีการเจรจาระหว่างกัน
“สหรัฐอ้างว่าจะใช้การมีปฏิสัมพันธ์ทางการทูตและการเจรจาโดยปราศจากเงื่อนไข ใช้กลลวงเช่นนี้เพื่อหลอกประชาคมระหว่างประเทศ และปิดบังการกระทำอันไม่เป็นมิตรรวมถึงการขยายนโยบายอันเป็นปรปักษ์อย่างต่อเนื่องของตนเอง”คิม จอง อึน กล่าว
คำประกาศฟื้นสายด่วนระหว่างสองเกาหลีมีขึ้นหลังจากที่เกาหลีเหนือเพิ่งอ้างว่าประสบความสำเร็จในการทดลองขีปนาวุธความเร็วเหนือเสียงเพียงหนึ่งวัน ทำให้นักวิเคราะห์มองว่าท่าทีล่าสุดของเกาหลีเหนือเป็นเพียงความพยายามที่จะให้ได้รับการยอมรับจากประชาคมระหว่างประเทศในฐานะประเทศที่ครอบครองอาวุธนิวเคลียร์ และ พยายามที่จะตอกลิ่มให้เกิดความแตกแยกระหว่างเกาหลีใต้และสหรัฐ โดยคำนึงจากความปรารถนาของประธานาธิบดีมุน แจ อิน ต้องการสร้างผลงานทางการทูตก่อนที่จะครบวาระการดำรงตำแหน่งในปีหน้า
ผู้นำเกาหลีเหนือกล่าวด้วยว่าเพื่อที่จะมีการประกาศยุติสงครามเกาหลีอย่างเป็นทางการ ซึ่งเป็นสิ่งที่ประธานาธิบดีมุนได้กล่าวต่อที่ประชุมสมัชชาสหประชาชาติ ประการแรกทั้งสองเกาหลีจะต้องยุติทัศนคติที่ไม่ยุติธรรมและสองมาตรฐาน รวมถึงมุมมองและนโยบายที่เป็นปรปักษ์ต่อกันเสียก่อน