รีเซต

BANPU มุมมอง 'เอเซีย พลัส' หลัง BKV เสนอขาย IPO ในตลาด NYSE

BANPU มุมมอง 'เอเซีย พลัส'  หลัง BKV เสนอขาย IPO ในตลาด NYSE
ทันหุ้น
17 กันยายน 2567 ( 10:25 )
20
BANPU มุมมอง 'เอเซีย พลัส'  หลัง BKV เสนอขาย IPO ในตลาด NYSE

#ทันหุ้น -  หุ้นบริษัท บ้านปู จำกัด (มหาชน) หรือ BANPU ราคาปรับตัวขึ้น บวก 4.80% หลัง BKV Corporation (“BKV”) ซึ่งเป็นบริษัทย่อย ได้ประกาศเสนอขายหุ้น IPO จำนวน 15 ล้านหุ้น ช่วงราคาเสนอขายเบื้องต้นที่ 19-21 เหรียญสหรัฐต่อหุ้น ซึ่งได้รับการอนุมัติให้นำหุ้นสามัญทั้งหมดของ BKV เพื่อเตรียมเข้าจดทะเบียนใน New York Stock Exchange (NYSE) 

 

บล.เอเซีย พลัส มองการนำ BKV เข้าจดทะเบียนในตลท. NYSE ไม่ได้ส่งผลกระทบต่อประมาณการทางด้านปัจจัยพื้นฐาน เพราะเป็นไปตามกระบวนการได้เงินจาก IPO มาคืนหนี้ ส่วนของ BANPU ก็ลดสัดส่วนการถือหุ้นลงไป แต่อาจถือเป็นสีสันในช่วงสั้นที่จะเข้ามาช่วยกระตุ้นให้ราคาหุ้นบริษัทแม่เช่น BANPU มีการตื่นตัวตามบริษัทลูกที่เข้าจดทะเบียนได้

 

ความเคลื่อนไหวราคาหุ้น BANPU อยู่ที่ 6.55 บาท บวก 0.30 บาท หรือ 4.80% ระหว่างวันราคาได้ปรับขึ้นมาสูงสุดที่ 6.90 บาท โดยมีมูลค่าการซื้อขาย 1,364.65 ล้านบาท

 

 

ทั้งนี้ BKV บริษัทย่อยของ BANPU ได้ประกาศเสนอขายหุ้นสามัญที่ออกใหม่ให้แก่ประชาชนทั่วไปเป็นครั้งแรก (IPO) เพื่อเตรียมเข้าจดทะเบียนในตลาด NYSE จำนวน 15 ล้านหุ้น (หากรวมสิทธิที่ underwriters จะซื้อเพิ่มได้อีก 2.25 ล้านบาท จะอยู่ที่ 17.25 ล้านหุ้น) ช่วงราคาเสนอขายเบื้องต้นอยู่ที่ 19-21 เหรียญฯ ต่อหุ้น โดยมีเป้าหมายที่จะนำเงินที่ได้จากการระดมทุนครั้งนี้ในการคืนหนี้เงินกู้ที่มีอยู่เป็นหลัก ส่วนที่เหลือเน้นการลงทุนใน CCUS (Carbon Capture)

 

การนำเสนอขายหุ้น IPO ของ BKV Corporation (BKV-BANPU ถือหุ้น 96.38%) เพื่อเตรียมเข้าจดทะเบียนใน New York Stock Exchange (NYSE) ถือเป็นไปตามแผนที่ BANPU ได้นำเสนอไว้ก่อนหน้านี้แล้ว ซึ่ง BKV ได้มีการยื่นไฟล์ลิ่งไปตั้งแต่เดือน พ.ย. 2565 ซึ่งเบื้องต้นบริษัทฯ มีแผนที่จะนำเงินที่ได้จาก IPO ในครั้งนี้ราว 285-315 ล้านเหรียญฯ ไปคืนหนี้เงินกู้เป็นหลัก โดยคาดราว 50 ล้านเหรียญฯ จะคืนเงินกู้ยืมจาก BANPU และอีกราว 180 ล้านเหรียญฯ จะคืนเงินกู้ยืมจากสถาบันการเงิน ส่วนที่เหลือจะไว้ใช้ในการขยายการลงทุนเพื่อการเติบโตต่อไป

 

โดยรวมถึงการขยายโครงการ CCUS (carbon capture, utilization and sequestration ทั้งนี้หลังจากการเสนอขาย IPO เรียบร้อย BANPU จะถือหุ้นใน BKV ลดลงเหลืออยู่ราว 74-76%

 

ปัจจุบัน BKV มีสินทรัพย์หลัก ได้แก่ ธุรกิจก๊าซฯธรรมชาติ, โรงไฟฟ้า (BKV ถือหุ้น 50%), CCUS และอื่นๆ ดังสรุปในตาราง

 

สำหรับผลประกอบการงวด 6M67 ของ BKV เผชิญกับผลขาดทุนสุทธิที่ 98.3 ล้านเหรียญฯ ส่วนผลการดำเนินงานปี 2566 เป็นกำไรสุทธิที่ 116.9 ล้านเหรียญฯ ลดลงจาก 410.1 ล้านเหรียญฯ ในปี 2565 ขณะที่ ณ สิ้นงวด Q2/67 มูลค่าสินทรัพย์อยู่ที่ 2.2 พันล้านเหรียญฯ ถึงแม้ปัจจุบันราคาก๊าซธรรมชาติ Henry Hub Natural Gas Spot Price จะอยู่ราว 2.0 เหรียญฯต่อล้านบีทียู ซึ่งใกล้เคียงจุด breakeven แต่คาดว่าภาพในระยะยาว น่าจะเห็นการปรับตัวเพิ่มขึ้นได้จากทั้งช่วงฤดูกาลฤดูหนาว รวมถึงภาพรวมเศรษฐกิจในประเทศสหรัฐฯ ที่จะค่อยๆ ฟื้นตัวกลับมาได้ ซึ่งจะช่วยหนุนทั้งธุรกิจก๊าซฯ และโรงไฟฟ้า ให้ผลการดำเนินงานรวมของ BKV กลับมามีกำไรได้

 

ทั้งนี้ การนำ BKV เข้าจดทะเบียนในตลท. NYSE ไม่ได้ส่งผลกระทบต่อประมาณการทางด้านปัจจัยพื้นฐาน เพราะเป็นไปตามกระบวนการได้เงินจาก IPO มาคืนหนี้ ส่วนของ BANPU ก็ลดสัดส่วนการถือหุ้นลงไป แต่อาจถือเป็นสีสันในช่วงสั้นที่จะเข้ามาช่วยกระตุ้นให้ราคาหุ้นบริษัทแม่เช่น BANPU มีการตื่นตัวตามบริษัทลูกที่เข้าจดทะเบียนได้

 

 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง