รีเซต

ฝนตกบ่อยแบบนี้ ควรล้างรถหรือไม่ และควรเพิ่มการดูแลรถอย่างไร

ฝนตกบ่อยแบบนี้ ควรล้างรถหรือไม่ และควรเพิ่มการดูแลรถอย่างไร
EntertainmentReport1
17 สิงหาคม 2568 ( 23:54 )
41

เชื่อว่าคนรักรถทุกคนอาจมีข้อสงสัยว่า ช่วงที่ฝนตกแบบนี้ เราจำเป็นต้องล้างรถหรือไม่ เพราะล้างไป เดี๋ยวขึ้นรถตอนฝนตก รถของเราก็เลอะอยู่ดี ซึ่งจริงๆ แล้วในประเทศไทยช่วงฤดูฝนที่มีฝนตกบ่อย การล้างรถยังคงเป็นสิ่งสำคัญครับ และควรเพิ่มการดูแลรถเป็นพิเศษเพื่อป้องกันความเสียหายในระยะยาว โดยมีรายละเอียดตามนี้เลย

 

 

ควรล้างรถในช่วงฝนตกบ่อยหรือไม่?

คำตอบคือ: ควรล้างครับ

ถึงแม้ว่าฝนจะช่วยชะล้างฝุ่นออกไปบ้าง แต่ในน้ำฝนก็มีสิ่งสกปรกและมลภาวะที่มองไม่เห็น เช่น ฝุ่นละออง กรดอ่อนๆ และสิ่งปนเปื้อนต่างๆ ซึ่งหากปล่อยทิ้งไว้โดยไม่ล้างออก อาจทำให้เกิดคราบน้ำฝังแน่น ทำลายชั้นสีเคลือบรถ และในระยะยาวอาจทำให้เกิดสนิมได้

ซึ่งคำแนะนำคือ ถ้าเป็นไปได้ ควรล้างรถทันทีที่รถเปียกฝนเป็นเวลานาน หรืออย่างน้อยสัปดาห์ละ 1 ครั้ง และหากเป็นไปได้ ควรล้างหลังจากที่ฝนหยุดตกแล้ว เพื่อป้องกันคราบน้ำเกาะ หลังจากการล้างรถแต่ละครั้ง ควรเช็ดรถให้แห้งสนิท เพื่อไม่ให้เกิดคราบน้ำสะสม

 

 

ควรเพิ่มการดูแลรถอย่างไรในช่วงหน้าฝน?

นอกจากการล้างรถเป็นประจำแล้ว การดูแลส่วนอื่นๆ ของรถยนต์ก็มีความสำคัญไม่แพ้กันครับ

1. เคลือบสีรถเป็นประจำ

การเคลือบสีรถ (Waxing) หรือการทำ Ceramic Coating จะช่วยสร้างชั้นฟิล์มป้องกันที่ช่วยให้น้ำฝนไม่เกาะผิวรถ และทำให้สิ่งสกปรกต่างๆ ไม่สามารถฝังแน่นได้ง่าย การทำเช่นนี้จะช่วยให้รถของคุณดูใหม่และทำความสะอาดได้ง่ายขึ้น

2. ดูแลและทำความสะอาดใต้ท้องรถ

บริเวณใต้ท้องรถเป็นจุดที่สิ่งสกปรกและโคลนสะสมได้มากที่สุด ซึ่งหากปล่อยทิ้งไว้นานๆ อาจทำให้เกิดสนิมได้ง่าย ดังนั้น หลังจากขับรถลุยน้ำหรือโคลน ควรนำรถไปล้างใต้ท้องรถเป็นพิเศษ เพื่อชะล้างสิ่งสกปรกออกให้หมดจด

 

 

3. ตรวจสอบยางปัดน้ำฝนและระดับน้ำฉีดกระจก

ยางปัดน้ำฝนที่เสื่อมสภาพจะทำงานได้ไม่เต็มที่ ทำให้ทัศนวิสัยในการขับขี่ลดลง ดังนั้นควรเปลี่ยนยางปัดน้ำฝนอย่างน้อยทุกๆ 1 ปี หรือเมื่อพบว่าปัดน้ำไม่เกลี้ยง และควรตรวจสอบระดับน้ำในกระปุกฉีดน้ำล้างกระจกให้มีปริมาณที่เหมาะสมอยู่เสมอ

4. ตรวจเช็กระบบเบรกและยางรถยนต์

ในสภาพถนนเปียก การเบรกจะทำงานได้ไม่เต็มที่ ดังนั้นจึงควรตรวจสอบผ้าเบรกและระบบเบรกว่ายังอยู่ในสภาพดี รวมถึงควรตรวจสอบความลึกของดอกยางและแรงดันลมยาง เพื่อให้รถมีการยึดเกาะถนนที่ดีที่สุดในสภาพเปียก

 

 

5. ทำความสะอาดภายในรถ

นอกจากนี้ หากมีน้ำเข้ามาในห้องโดยสาร ควรเช็ดและทำให้แห้งทันที เพื่อป้องกันการอับชื้นและกลิ่นไม่พึงประสงค์ ซึ่งอาจส่งผลให้เกิดเชื้อราและทำลายวัสดุภายในรถได้ รวมถึงอาจส่งผลต่อสุขภาพคนในรถของเราอีกด้วย

 

 

การดูแลรถอย่างถูกวิธีในช่วงหน้าฝน ไม่เพียงแต่ช่วยให้รถของคุณดูสะอาดและสวยงามเท่านั้น แต่ยังช่วยยืดอายุการใช้งานและช่วยเพิ่มความปลอดภัยในการขับขี่ได้อีกด้วยครับ ดังนั้นแม้ว่าฝนจะตกทุกวัน อย่างน้อยก็ควรล้างรถอยู่เสมอดังเหตุผลด้านบนจ้า

Photo Credit : AI Generated

 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง