รีเซต

DELTA ลดลง 4.62% โบรกปรับลดเป้าราคา

DELTA ลดลง 4.62% โบรกปรับลดเป้าราคา
ทันหุ้น
18 กุมภาพันธ์ 2568 ( 12:51 )
32

 

#DELTA #ทันหุ้น - การซื้อขายหุ้น DELTA ครึ่งวันเช้าวันที่ 18 ก.พ. ราคาหุ้นยังลดลงต่อเนื่องจากวันก่อน ราคาหุ้นเคลื่อนไหวในช่วง 81.50-87.00 บาท ก่อนจะปิดการซื้อขายช่วงเช้าที่ 82.50 บาท ลดลง 4.00 บาท (-4.62%) มูลค่าการซื้อขาย 1,715 ล้านบาท

โบรกเกอร์มีมุมมองเชิงลบหลังจากการประชุมนักวิเคราะห์เมื่อวันที่ 17 ก.พ. ส่วนใหญ่ปรับลดราคาเหมาะสมของหุ้นลง โบรกเกอร์ให้ราคาเหมาะสมหุ้น DELTA ในช่วง 60.00-133.00 บาท มีราคากลาง (Median) ที่ 77.50 บาท ซึ่งต่ำกว่าราคาซื้อขายในปัจจุบัน IAA Consensus โบรกเกอร์ให้คำแนะนำ “ขาย” 14 ราย ให้คำแนะนำ “ถือ” 1 ราย และ “ซื้อ” 1 ราย

.

บล.กสิกรไทย : เกิดความเสี่ยงจากข้อพิพาททางกฎหมายมากขึ้น

บล.กสิกรไทยมีมุมมองเชิงลบต่อการประชุมนักวิเคราะห์ไตรมาส 4/67 แม้ว่าบริษัทฯ จะสามารถรักษาเป้าการเติบโตของรายได้ แต่เราเชื่อว่าต้นทุนการดำเนินงานจะเพิ่มขึ้นจากค่าสิทธิและค่าใช้จ่ายด้านการวิจัยและพัฒนาที่สูงขึ้น

เราปรับประมาณการกำไรปี 68-69 ลง 15% ในแต่ละปี เพื่อสะท้อนต้นทุนที่สูงขึ้นและสมมติฐาน GPM ที่ลดลง เราคาดว่าอาจเกิดความเสี่ยงจากข้อพิพาททางกฎหมาย

ปรับลดคำแนะนำเป็น "ขาย" และลดราคาเหมาะสมเป็น 70 บาท จากการปรับลดประมาณการกำไรและการลดตัวคูณมูลค่าหุ้น

.

บล.ดีบีเอสวิคเคอร์สปรับลดประมาณการกำไรปี 2568-2569 ลง 11-12% เพื่อสะท้อนสมมติฐานค่าใช้จ่าย SG&A ที่สูงขึ้น จากประมาณการใหม่กำไรสุทธิคาดว่าจะลดลง -2% ในปี 2568 ก่อนจะเพิ่มขึ้น +13% ในปี 2569

ปรับลดคำแนะนำเป็นขาย (เดิม Fully Valued) ปรับลดราคาพื้นฐานเป็น 84 บาท โดยอิงกับ P/E ปีนี้ที่ 56 เท่า (Mean) ซึ่งประมาณการและราคาพื้นฐานสะท้อนอัตราภาษีรายได้ฯที่เพิ่มขึ้นเป็น 15% ตาม Global minimum tax แล้ว

.

บล.กรุงศรี : เติบโตได้เพียงเล็กน้อยในปี 2568

ผลกระทบจาก GMT และค่าลิขสิทธิ์ที่สูงขึ้นที่ต้องจ่ายให้กับบริษัทแม่ ทำให้เราปรับลดประมาณการกำไร 2568 ลง 22% สู่ระดับ 18.7 พันล้านบาท (+4%yoy)

คงคำแนะนำ "ขาย" (Reduce) ที่ราคาเป้าหมายใหม่ 74 บาท เนื่องจากมูลค่าปัจจุบันที่ P/E 55 เท่า ถือว่าสูงเกินไปสำหรับการเติบโตของกำไรเพียง 4% ในปีนี้ นอกจากนี้ ยังมีความเสี่ยงด้านลบจากข้อพิพาททางกฎหมาย ซึ่งอาจส่งผลให้ต้นทุนเพิ่มสูงขึ้นอย่างน้อยอีกหนึ่งไตรมาส

.

บล.ฟิลลิป : แนวโน้มปี 68 เติบโตจากสินค้า AI

ไตรมาส 4/67 แนวโน้มยอดขายยังเติบโต y-y แต่อ่อนตัว q-q จากส่วนธุรกิจยานยนต์ไฟฟ้า แต่มีกำไรสุทธิอ่อนตัวมาก จากค่าเงินที่แข็งค่าและมีการตั้งค่าใช้จ่ายหลายรายการส่วนใหญ่เป็น 1 Time แนวโน้มกำไรไตรมาส 1/68 ฟื้นตัวดีขึ้นจากการอิงค่าเงินที่อ่อนค่าลง และยังไม่เห็นรายการพิเศษที่กระทบต่อ GPM ส่วนแนวโน้มธุรกิจ Data center & AI ยังมีดีมานด์ที่ดีเป็นปัจจัยหลักของการเติบโตในปี 68 (จากฐานต่ำในปี 67)

.

บล.อินโนเวสท์เอกซ์ : ไตรมาส 4/67 กำไรต่ำกว่าที่ INVX และ consensus คาดมาก

DELTA รายงานกำไรสุทธิไตรมาส 4/67 ที่ 2.2 พันลบ. ลดลง 78% YoY และ 64% QoQ ต่ำกว่า INVX คาด 52% และต่ำกว่า consensus คาด 60%หลักๆ เกิดจากอัตรากำไรขั้นต้นที่ต่ำกว่าคาด (ความต้องการ EV ชะลอตัว) และค่าใช้จ่าย SG&A ที่สูงกว่าคาด (ค่าลิขสิทธิ์จากผลิตภัณฑ์ non-AI สูงขึ้น) เราคาดว่าปี 2568 จะเผชิญกับความท้าทายจากความกังวลว่า AI ตัวใหม่ "DeepSeek" อาจทำให้ความต้องการ high-end GPU ปรับตัวลดลง ความต้องการ EV ที่ชะลอตัว และผลกระทบจากการน่า GMT มาใช้ เราปรับประมาณการกำไรปกติปี 2568 ลดลง 3.8% และปี 2569 ลดลง 3.9%เพื่อสะท้อนค่าลิขสิทธิ์ที่สูงขึ้น ซึ่งทำให้อัตราส่วนค่าใช้จ่าย SG&A ต่อยอดขายเพิ่มขึ้นเป็น 13% จากเดิม 12.5% เราคงคำแนะนำ Underperform สำหรับ DELTA โดยปรับราคาเป้าหมายใหม่เป็น 80 บาท (จาก 103 บาท) อ้างอิง PE เฉลี่ยย้อนหลัง 5 ปี

 

ยอดนิยมในตอนนี้

แท็กยอดนิยม

ข่าวที่เกี่ยวข้อง