โจ ไบเดน ประกาศภาวะภัยพิบัติร้ายแรงในเท็กซัส ที่เผชิญอากาศหนาวเหน็บที่สุดในรอบกว่า 30 ปี
ประธานาธิบดีโจ ไบเดน ของสหรัฐฯ ประกาศภาวะภัยพิบัติร้ายแรงในรัฐเท็กซัส ที่กำลังเผชิญอากาศหนาวเหน็บที่สุดในรอบกว่า 30 ปี เพื่อเปิดทางให้จัดสรรงบประมาณจากรัฐบาลกลางไปใช้บรรเทาทุกข์ให้แก่ประชาชนผู้ประสบภัยในพื้นที่
ทำเนียบขาวออกแถลงการณ์เมื่อวันที่ 20 ก.พ. ว่า ประธานาธิบดีไบเดนได้ออกคำสั่งรัฐบาลกลางเพื่อช่วยเสริมความพยายามของทางการท้องถิ่นในการบรรเทาทุกข์และฟื้นฟูพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบจากพายุฤดูหนาวรุนแรง โดยมีอุณหภูมิต่ำสุดแตะ -18 องศาเซลเซียล เมื่อช่วงต้นสัปดาห์ที่ผ่านมา
สำหรับความช่วยเหลือจากรัฐบาลกลางดังกล่าว รวมถึงการอนุมัติเงินช่วยเหลือสำหรับการจัดหาที่พักชั่วคราว การซ่อมแซมบ้านเรือน และการให้เงินกู้ดอกเบี้ยต่ำเพื่อใช้ซ่อมแซมความเสียหายแก่ทรัพย์สินที่ไม่มีประกันภัย รวมทั้งโครงการอื่น ๆ ที่ช่วยบุคคลและเจ้าของธุรกิจฟื้นตัวจากภัยพิบัติที่เกิดขึ้น
นอกจากนี้ นายไบเดน ระบุว่าเขามีความประสงค์จะเดินทางไปยังรัฐเท็กซัส หากการลงพื้นที่ของเขาจะไม่เป็นภาระขัดขวางการปฏิบัติภารกิจบรรเทาทุกข์ของที่นั่น
เกิดอะไรขึ้นในเท็กซัส
สำนักงานอุตุนิยมวิทยาของสหรัฐฯ ระบุว่า สภาพอากาศหนาวเย็นผิดปกติในรัฐเท็กซัส ซึ่งมีภูมิประเทศบางส่วนเป็นทะเลทราย และมักเผชิญกับคลื่นความร้อนนั้น เป็นผลมาจากมวลอากาศหนาวจากขั้วโลก (Arctic outbreak) ซึ่งมักเกิดขึ้นบริเวณเหนือพรมแดนแคนาดา-สหรัฐฯ ได้ทะลักเข้าสู่สหรัฐฯ เมื่อสัปดาห์ก่อน แล้วหอบเอาพายุหิมะเข้าถล่มพื้นที่รัฐเท็กซัสซึ่งอยู่ทางภาคใต้ทั้งหมด 254 เขตเป็นครั้งแรก
ภัยพิบัติครั้งนี้ส่งผลให้ประธานาธิบดีไบเดน ประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินในรัฐเท็กซัสเมื่อคืนวันอาทิตย์ที่ 14 ก.พ. หลังจากบางพื้นที่ของรัฐมีอุณหภูมิแตะ -18 องศาเซลเซียล ขณะที่เมื่อวันที่ 15 ก.พ. เมืองดัลลัส มีอุณหภูมิแตะ -10 องศาเซลเซียล ทั้งที่ช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อน ๆ จะมีอุณหภูมิอยู่ที่ประมาณ 15 องศาเซลเซียล
อันตรายแค่ไหน
สภาพอากาศหนาวจัดผิดปกติครั้งนี้ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิตทั่วสหรัฐฯ แล้วเกือบ 60 ราย ซึ่งมีทั้งผู้เสียชีวิตเนื่องจากภาวะอุณหภูมิร่างกายต่ำกว่าปกติ ผู้เสียชีวิตเพราะสูดหายใจก๊าซคาร์บอนมอนอกไซด์จากการติดเครื่องยนต์รถและเครื่องปั่นไฟในบ้านเพื่อสร้างความอบอุ่น ผู้เสียชีวิตจากเหตุไฟไหม้ และอุบัติเหตุทางรถยนต์บนถนนที่ลื่น เป็นต้น
สภาพอากาศที่รุนแรงยังทำให้เมื่อวันศุกร์ (19 ก.พ.) มีบ้านเรือนและธุรกิจราว 180,000 แห่งในรัฐเท็กซัสไม่มีกระแสไฟฟ้าใช้ ขณะที่จำนวนประชาชนทั่วสหรัฐฯ ที่ไม่มีไฟฟ้าใช้จากภัยพิบัติครั้งนี้อยู่ที่ 3.3 ล้านคน
แม้ล่าสุดกระแสไฟฟ้าจะกลับเข้าสู่ภาวะปกติทั่วรัฐเท็กซัสแล้ว แต่ยังมีประชาชนอีกราว 13 ล้านคน หรือราวครึ่งหนึ่งของประชากรในรัฐ ประสบปัญหาไม่มีน้ำสะอาดใช้ เนื่องจากระบบประปาได้รับความเสียหายจากน้ำที่กลายเป็นน้ำแข็งและทำให้ท่อประปาบางส่วนเกิดระเบิด
ทางการเมืองฮิวสตัน เมืองใหญ่ที่สุดของรัฐเท็กซัส ประกาศให้ประชาชนนำน้ำที่จะใช้บริโภคไปต้มให้เดือดเพื่อฆ่าเชื้อเสียก่อน เนื่องจากน้ำอาจมีการปนเปื้อน