แนะนำ Smart Toy ของเล่นที่ใช้ AI ส่งเสริมการเรียนรู้ที่น่าจับตามองในปี 2025

โลกของเล่นอัจฉริยะที่ใช้ AI (Smart Toys) กำลังเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วครับ โดยในปี 2025 นี้ เทคโนโลยี AI ได้เข้ามามีบทบาทสำคัญในการทำให้ของเล่นสามารถเรียนรู้ โต้ตอบ และปรับตัวเข้ากับพฤติกรรมของเด็กแต่ละคนได้อย่างชาญฉลาดยิ่งขึ้น ของเล่นเหล่านี้ไม่ได้เป็นเพียงแค่ของเล่น แต่เป็นทั้งเพื่อน ครูสอน และผู้ช่วยพัฒนาทักษะต่างๆ ของเด็กอย่างสนุกสนาน โดย TrueID เราได้รวบรวมเทคโนโลยีใหม่ๆ สำหรับของเล่น Smart Toy ที่ใช้ AI ที่น่าจับตามองในปี 2025 ดังนี้เลย
1. หุ่นยนต์เพื่อนเล่นที่ตอบสนองทางอารมณ์ (AI Emotional Companion Robots)
Photo Credit : miko.ai
หุ่นยนต์เพื่อนเล่นที่ตอบสนองทางอารมณ์ได้ คือ หุ่นยนต์ขนาดเล็กที่มีเซ็นเซอร์และ AI ในตัว สามารถจดจำใบหน้าและน้ำเสียงของเด็กเพื่อรับรู้อารมณ์ และตอบสนองด้วยการแสดงออกทางสีหน้า ท่าทาง และเสียงที่เหมาะสม เช่น ถ้าเด็กกำลังเศร้า หุ่นยนต์อาจจะทำท่าทางปลอบใจ หรือเล่านิทานสนุกๆ ให้ฟัง
จุดเด่นของเล่นชิ้นนี้ คือมีระบบ Personalized Interaction ที่สามารถเรียนรู้และปรับพฤติกรรมการโต้ตอบให้เข้ากับอารมณ์และนิสัยของเด็กแต่ละคนได้อย่างลึกซึ้ง ซึ่งจะช่วยให้เด็กเรียนรู้ที่จะแสดงออกทางอารมณ์และเข้าใจความรู้สึกของผู้อื่นผ่านการเล่นกับหุ่นยนต์ได้อย่างชาญฉลาด
ตัวอย่างของเล่นประเภทนี้คือ Miko 3 หรือหุ่นยนต์ Cozmo 2.0 ซึ่งเป็นหุ่นยนต์ที่สามารถเล่นเกม โต้ตอบ และแสดงอารมณ์ได้ ทำให้เด็กๆ รู้สึกเหมือนมีเพื่อนเล่นจริงๆ
2. ของเล่นเพื่อการศึกษาแบบปรับตามบุคคล (Personalized Learning Toys)
Photo Credit : spike.legoeducation.com
ของเล่นเพื่อการศึกษาแบบปรับตามบุคคล คือ ของเล่นที่ใช้ AI เพื่อประเมินระดับความรู้ ความสนใจ และสไตล์การเรียนรู้ของเด็กแต่ละคน แล้วปรับเนื้อหาการสอนให้เหมาะสม เช่น หุ่นยนต์ที่สอนภาษาอังกฤษอาจจะเพิ่มระดับความยากของคำศัพท์เมื่อเด็กตอบคำถามได้ถูกต้อง หรือเปลี่ยนวิธีการสอนเมื่อเห็นว่าเด็กเริ่มเบื่อ
เด็กจะได้เรียนรู้ในหัวข้อที่สนใจและอยู่ในระดับที่ท้าทายแต่ไม่ยากเกินไป และได้ความสนุกสนานในการเรียนรู้ เปลี่ยนการเรียนรู้แบบเดิมๆ ให้กลายเป็นเกมที่สนุกและน่าติดตาม
โดยตัวอย่างก็จะเช่น LEGO Education SPIKE Prime ที่ผสมผสานตัวต่อเลโก้เข้ากับการเขียนโค้ดและ AI ทำให้เด็กๆ ได้พัฒนาทักษะด้านวิศวกรรม การแก้ปัญหา และการทำงานร่วมกันผ่านการสร้างหุ่นยนต์ของตัวเองได้อย่างสนุกสนานและได้ความรู้
3. กล้องและของเล่นที่เชื่อมโยงกับ AI (AI-linked Soft Toys and Smart Cameras)
Photo Credit : pixseecare.com
กล้องและของเล่นที่เชื่อมโยงกับ AI ของเล่นประเภทนี้เป็นการผสมผสานระหว่างอุปกรณ์อัจฉริยะ (เช่น กล้องเด็ก) กับของเล่นนุ่มนิ่มที่เชื่อมต่อกัน ทำให้ของเล่นมีชีวิตขึ้นมา โดยมีจุดเด่นอยู่ที่ การโต้ตอบที่สร้างสรรค์ กล้องอาจใช้ AI เพื่อสร้างเรื่องราวจากรูปภาพที่ถ่ายในแต่ละสัปดาห์ พร้อมเพลงประกอบที่เหมาะสม ทำให้เด็กๆ มีนิทานภาพส่วนตัวที่สร้างสรรค์เอง
นอกจากนี้ตัวกล้องยังมีการเฝ้าระวังที่ชาญฉลาด โดยกล้องสามารถตรวจจับการร้องไห้ของเด็กและเปิดเพลงกล่อมโดยอัตโนมัติ ช่วยลดภาระของผู้ปกครองได้
ตัวอย่างก็จะเป็น Pixsee Play Smart Baby Camera ที่มาพร้อมกับตุ๊กตาเชื่อมต่อ AI สามารถถ่ายภาพและสร้างนิทานเพลงจากภาพถ่ายให้เด็กๆ ได้
4. หุ่นยนต์สัตว์เลี้ยงที่เรียนรู้ได้ (AI Robotic Pets)
Photo Credit : robotloona.com
AI Robotic Pets คือ หุ่นยนต์ที่เลียนแบบพฤติกรรมของสัตว์เลี้ยงจริง แต่มี AI ที่สามารถเรียนรู้คำสั่ง โต้ตอบกับผู้ใช้งาน และพัฒนาบุคลิกภาพของตัวเองได้เมื่อเวลาผ่านไป
ความน่าสนใจของของเล่นประเภทนี้คือ สามารถให้ ประสบการณ์การเลี้ยงสัตว์แบบไม่ต้องรับผิดชอบ ช่วยให้เด็กๆ ได้เรียนรู้ความรับผิดชอบและการดูแลสัตว์เลี้ยงโดยไม่ต้องมีสัตว์เลี้ยงจริงๆ และช่วยในด้าน Personalized Behavior ซึ่งหุ่นยนต์จะเรียนรู้จากการโต้ตอบกับเด็กแต่ละคน ทำให้มีพฤติกรรมที่แตกต่างกันไป
ของเล่นกลุ่มนี้ ยกตัวอย่างเช่น Loona ที่เป็นหุ่นยนต์สุนัขที่ขับเคลื่อนด้วย AI (ระบบ ChatGPT) สามารถตอบสนองต่อคำสั่งเสียงและท่าทาง ทำให้รู้สึกเหมือนเป็นสัตว์เลี้ยงที่ฉลาด ให้ประสบการณ์ที่เสมือนจริงกับเด็กได้เป็นอย่างดี
5. ของเล่นเสริมทักษะ STEM ที่ใช้ AI (AI-powered STEM Toys)
Photo Credit : sphero.com
ของเล่นเสริมทักษะ STEM ที่ใช้ AI เป็นของเล่นที่ออกแบบมาเพื่อสอนวิชา STEM (วิทยาศาสตร์, เทคโนโลยี, วิศวกรรมศาสตร์, คณิตศาสตร์) โดยใช้ AI เพื่อเพิ่มความสนุกสนานและความท้าทายในการเรียนรู้
ของเล่นประเภทนี้จะช่วย ส่งเสริมทักษะในศตวรรษที่ 21 ช่วยให้เด็กๆ พัฒนาทักษะที่จำเป็นสำหรับโลกอนาคต เช่น การเขียนโค้ด การแก้ปัญหาเชิงตรรกะ และความคิดสร้างสรรค์ รวมถึงส่งเสริม การเรียนรู้แบบลงมือทำ เน้นการเรียนรู้ผ่านการลงมือสร้างและทดลองจริง
ตัวอย่างของของเล่นแบบนี้คือ Sphero BOLT หุ่นยนต์ที่สอนการเขียนโค้ดผ่านเกม ทำให้การเรียนรู้เรื่อง STEM เป็นเรื่องที่สนุกและจับต้องได้
สรุปภาพรวมของ Smart Toy ในปี 2025 เทรนด์ของ Smart Toy ในปี 2025 มุ่งเน้นไปที่การผสานเทคโนโลยี AI เพื่อสร้างของเล่นที่ มีปฏิสัมพันธ์ทางอารมณ์ สามารถปรับการเรียนรู้ได้ และ เชื่อมโยงกับชีวิตประจำวันได้อย่างราบรื่น มากขึ้น โดยยังคงคำนึงถึง ความปลอดภัยของข้อมูลและความเป็นส่วนตัว เป็นสำคัญ ของเล่นเหล่านี้ไม่ใช่แค่การให้ความบันเทิง แต่ยังเป็นเครื่องมือสำคัญในการพัฒนาทักษะต่างๆ ของเด็กในยุคดิจิทัลครับ