องค์การยาแห่งสหภาพยุโรป (อีเอ็มเอ) เปิดเผยเมื่อวันที่ 14 กรกฎาคมนี้ว่า กำลังติดตามตรวจสอบใกล้ชิดต่อการเกิดอาการของ โรคเลือดออกง่ายจากภาวะเกล็ดเลือดต่ำหรือ โรคไอทีพี (Immune thrombocytopenia -ITP) ขึ้นในบรรดาผู้ที่ได้รับวัคซีนป้องกันโควิด-19 ที่พัฒนาโดยบริษัทโมเดอร์นาแห่งสหรัฐอเมริกา โดยสงสัยว่า การเกิดโรคดังกล่าวขึ้นอาจเชื่อมโยงกับการได้รับวัคซีน โมเดอร์นา แม้จะยอมรับว่า ไม่สามารถบ่งชี้ว่ามีการเชื่อมโยงระหว่างโรคกับวัคซีนได้ชัดเจนในเวลานี้ก็ตาม

ทั้งนี้ อีเอ็มเอ เตือนกรณีดังกล่าวไว้ในรายงานอัพเดตว่าด้วยความปลอดภัยประจำเดือน ที่เกี่ยวกับวัคซีนของบริษัทโมเดอร์นาซึ่งรู้จักกันในชื่อ “สไปค์แวกซ์” ในยุโรป โดยตั้งข้อสังเกตุเอาไว้ว่า พบ ผู้ที่เกิดอาการ ไอทีพี ขึ้น 9 รายที่ “ได้รับการพิจารณาว่าเป็นไปได้ที่จะเชื่อมโยงกับวัคซีนนี้”

อย่างไรก็ตามอีเอ็มเอระบุว่า คณะกรรมการเพื่อการประเมินความเสี่ยงทางเวชภัณฑ์ (พีอาร์เอซี) ได้รายงานผลการประเมินเอาวัคซีนโมเดอร์นาเอาไว้ว่า “ยังไม่สามารถชี้ชัดความเชื่อมโยงที่เป็นเหตุเป็นผลได้ชัดเจนจากกรณีของผู้ที่เกิดอาการไอทีพี ทั้ง 9 รายนี้” แต่ในเวลาเดียวกัน พีอาร์เอซี ก็สรุปเรื่องทั้งหมดไว้ว่า “เมื่อพิจารณาจากพื้นฐานของหลักฐานเท่าที่มีอยู่ ก็ทำให้ยังไม่สามารถตัด การเชื่อมโยงเชิงเหตุผลระหว่างไอทีพีกับสไปค์แวกซ์ ออกไปได้เช่นกัน ดังนั้นกรณีนี้จึงจะยังคงอยู่ภายใต้การติดตามตรวจสอบใกล้ชิดต่อไป” รายงานของอีเอ็มเอระบุ

ก่อนหน้านี้ในสัปดาห์เดียวกันนี้ อีเอ็มเอ เพิ่งออกคำเตือนให้ระวังว่า วัคซีนป้องกันโควิด-19 ของบริษัทจอห์นสันแอนด์จอห์นสัน อาจก่อให้เกิดโรคระบบประสาทและกล้ามเนื้อที่ทำให้กล้ามเนื้อ อัมพาตอ่อนแรงอย่างเฉียบพลัน หรือ กิลแลง-บาร์เร ซินโดรม (จีบีเอส) ขึ้นได้ในกลุ่มผู้ได้รับวัคซีน