รีเซต

โควิดยังแรง! ยอดติดเชื้อในจีน ทำสถิติสูงสุดครั้งใหม่

โควิดยังแรง!  ยอดติดเชื้อในจีน ทำสถิติสูงสุดครั้งใหม่
TNN ช่อง16
26 พฤศจิกายน 2565 ( 08:59 )
77
โควิดยังแรง!  ยอดติดเชื้อในจีน ทำสถิติสูงสุดครั้งใหม่

สถานการณ์การระบาดของไวรัสโควิด-19 ระลอกใหม่ในจีน ตัวเลขผู้ติดเชื้อรายวันพุ่งสูงสุดเป็นประวัติการณ์อีกครั้งจากการรายงานของทางการจีนในวันศุกร์ ขณะที่ความไม่พอใจและความหงุดหงิดทั้งในหมู่ประชาชนและกลุ่มธุรกิจ ต่อมาตรการควบคุมการระบาดของโควิดที่เข้มงวดก็เพิ่มสูงขึ้นด้วย เพียงไม่กี่สัปดาห์หลังมีความหวังที่จะเห็นการผ่อนคลายมาตรการคุมเข้มดังกล่าว


การระบาดของไวรัสโควิดกลับมารุนแรงอีกครั้งในจีน โดยทางการจีนรายงานเมื่อวานนี้(25พ.ย.) มีผู้ติดเชื้อรายใหม่ในท้องถิ่น พุ่งสูงทำสถิติใหม่จำนวน 32,695 รายในวันพฤหัสบดี นับเป็นสถิติสูงสุดรายวันเป็นวันที่สองติดต่อกัน ทำลายสถิติในช่วงกลางเดือนเมษายนที่ผ่านมา ขณะที่หลายเมืองมีรายงานพบการระบาดรุนแรง กระตุ้นให้รัฐบาลประกาศใช้มาตรการจำกัดพื้นที่เป็นวงกว้าง และใช้มาตรการควบคุมการเคลื่อนไหวของประชาชนและธุรกิจ 


เมืองกว่างโจว ทางตอนใต้ และฉงชิ่ง ทางตะวันตกเฉียงใต้ของประเทศ รายงานผู้ติดเชื้อรายใหม่สูงเป็นสถิติ ขณะที่อีกหลายเมืองทั้งเฉิงตู, จี่หนาน, หลานโจว, ซีอาน และอู่ฮั่น ได้รายงานการตรวจพบผู้ติดเชื้อโควิดรายวันหลายร้อยราย ส่วนกรุงปักกิ่ง มีผู้ติดเชื้อ 1,860 รายในวันพฤหัสบดี โดย 424 ราย แสดงอาการ  และไม่แสดงอาการ 1,436 ราย 


ขณะที่ท้องถนนหลายสายในกรุงปักกิ่ง แทบจะว่างเปล่า หลังมีการใช้มาตรการจำกัดพื้นที่ในหลายเขต และปิดร้านค้า รวมทั้งธุรกิจอื่น ๆ ชั่วคราวเพื่อลดความเสี่ยงการติดเชื้อโควิด


ส่วนภาคตะวันออก ที่เมืองหนานจิง ในมณฑลเจียงซู ระบุว่า จะทำการตรวจหาเชื้อครั้งใหญ่เป็นเวลา 5 วันติดต่อกัน นับจากวันเสาร์นี้ นับเป็นเมืองล่าสุดที่มีการประกาศแผนการดังกล่าว 


มาตรการควบคุมโควิด กำลังส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจของจีน ประเทศเศรษฐกิจใหญ่อันดับสองของโลก และในวันศุกร์ ธนาคารกลางของจีนได้ออกมาให้การสนับสนุนอย่างที่มีการคาดการณ์กันไว้อย่างกว้างขวาง ด้วยการลดปริมาณเงินสดที่ธนาคารกลางต้องถือไว้เป็นทุนสำรอง ปล่อยเงินหยวนจำนวน 500,000 ล้านหยวน หรือ 69,800 ล้านดอลลาร์สหรัฐ เสริมสภาพคล่องระยะยาว 


ขณะที่นักวิเคราะห์หลายคนคาดการณ์ว่าจีนจะผ่อนคลายมาตรการควบคุมโควิดครั้งสำคัญอย่างเร็วสุด โดยคาดว่า จะเริ่มในเดือนมีนาคมปีหน้า หรืออาจเป็นเดือนเมษายน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง