กต.เผยไทยย้ำท่าทีสำคัญไม่เคยต้องการขัดแย้งกับกัมพูชาผ่านการประชุมอาเซียนสมัยพิเศษ

นายนิกรเดช พลางกูร อธิบดีกรมสารนิเทศและโฆษกกระทรวงการต่างประเทศ เปิดเผยถึงสถานการณ์ไทย - กัมพูชา และผลการเข้าร่วมการประชุมรัฐมนตรีต่างประเทศอาเซียน สมัยพิเศษ ว่าด้วยสถานการณ์ไทย - กัมพูชา วานนี้ (22 ธ.ค.68) ว่าไทยขอขอบคุณมาเลเซีย ที่จัดการประชุมครั้งนี้ขึ้น เพื่อขับเคลื่อนบทบาทที่สร้างสรรค์ของอาเซียน โดยอยู่บนพื้นฐานของข้อเท็จจริง และเป็นการจัดการสถานการณ์ที่เกิดขึ้นด้วยกลไกระดับภูมิภาค ภายใต้การมีอาเซียนเป็นแกนกลาง (ASEAN Centrality) พร้อมกันนี้ ไทยขอขอบคุณความหวังดีจากประเทศสมาชิกอาเซียน ที่ร่วมหารืออย่างสร้างสรรค์ เพื่อหวังให้ไทยกับกัมพูชากลับสู่กระบวนการเจรจา เพื่อนำไปสู่การยุติการสู้รบทุกรูปแบบ
โดยการประชุมครั้งนี้ เป็นโอกาสที่ไทยแสดงท่าทีที่สำคัญ 3 ประการ คือนำเสนอให้ประเทศสมาชิกอาเซียนเห็นถึงข้อเท็จจริงว่าไทยมีความหวังดีต่อกัมพูชาในฐานะประเทศเพื่อนบ้านเสมอมา ไม่ว่าจะเป็นการช่วยเหลือประชาชนกัมพูชาในภาวะที่เผชิญสงครามกลางเมือง การช่วยกัมพูชาพัฒนาเศรษฐกิจ และไทยไม่เคยมีความปรารถนาที่จะขัดแย้งกับกัมพูชา รวมทั้งเมื่อเกิดปัญหาความขัดแย้งระหว่างกัน ไทยก็พยายามแก้ปัญหาด้วยกรอบทวิภาคี ขณะที่กัมพูชา พยายามขยายประเด็นดังกล่าวไปสู่ประชาคมโลก ซึ่งท้ายที่สุด กัมพูชาก็ตระหนักดีว่าการแก้ไขปัญหาที่ยั่งยืน ต้องเกิดจากการแก้ปัญหาร่วมกันของคู่กรณีคือไทยและกัมพูชา
นอกจากนี้ ผู้นำกัมพูชายังมีพฤติกรรมบั่นทอนเสถียรภาพของไทย ส่งผลต่อความไว้เนื้อเชื่อใจระหว่างกัน และได้ยืนยันต่อที่ประชุมว่าที่ผ่านมา ไทยปฏิบัติตามข้อตกลงต่าง ๆ อย่างเคร่งครัด โดยเฉพาะแถลงการณ์ร่วม (Joint Declaration) ขณะที่กัมพูชาละเมิดข้อตกลงต่าง ๆ อย่างต่อเนื่อง จนความอดกลั้นที่ไทยมีหมดสิ้นลง และไม่อาจเพิกเฉยต่อการละเมิดข้อตกลงที่มีร่วมกันได้อีก โดยเฉพาะการวางทุ่นระเบิดใหม่ ที่ทำให้ทหารไทยบาดเจ็บและทุพพลภาพ ต่อเนื่องเป็นรายที่ 8 เมื่อวันที่ 21 ธันวาคมที่ผ่านมา
ทั้งนี้ ไทยยังได้ชี้แจงและยืนยัน จุดยืน 3 ข้อ ที่จะนำไปสู่การลดระดับความตึงเครียดระหว่างกัน คือ กัมพูชาต้องเป็นฝ่ายเสนอให้เกิดการหยุดยิงก่อน ซึ่งจะต้องเป็นการหยุดยิงที่เกิดขึ้นอย่างต่อเนื่อง มีการตรวจสอบจากทหารในพื้นที่ตามความเป็นจริง และฝ่ายกัมพูชาจะต้องร่วมเก็บกู้ทุ่นระเบิดกับไทยอย่างจริงจัง
โฆษกกระทรวงการต่างประเทศ ยังกล่าวด้วยว่า ที่ผ่านมากัมพูชาพูดถึงเรื่องการหยุดยิงกับทุกฝ่าย ยกเว้นไทย ซึ่งชวนให้ตั้งข้อสังเกตว่าท่าทีดังกล่าวสะท้อนถึงความจริงใจ ของกัมพูชาต่อการหยุดยิงหรือไม่ ขณะที่ข้อเสนอของไทย ที่ได้รับความเห็นชอบจากที่ประชุม คือการหยุดยิงจะต้องมาจากการหารือร่วมกันโดยทหารทั้งสองฝ่าย เพื่อนำไปสู่การหยุดยิงและยุติความเป็นปรปักษ์ ผ่านการหารือในที่ประชุมคณะกรรมการชายแดนทั่วไป (GBC) ที่จะจัดขึ้นในวันพรุ่งนี้ (24 ธ.ค.68) ซึ่งไทยเสนอให้จัดขึ้นที่จังหวัดชายแดนฝั่งไทย เพื่อหารือเกี่ยวกับขั้นตอนดำเนินการ และจะต้องมีการตรวจสอบการโดยคณะผู้สังเกตการณ์อาเซียน (AOT) โดยทหารของทั้งสองฝ่าย จะประสานงานกันในเรื่องนี้ต่อไป
Tag
ยอดนิยมในตอนนี้
