รีเซต

RPH ไตรมาส 3 กำไร 66 ล. เพิ่ม 18% งวด 9 เดือนกำไร 148 ล้าน ลดลง 95%

RPH ไตรมาส 3 กำไร 66 ล. เพิ่ม 18%  งวด 9 เดือนกำไร 148 ล้าน ลดลง 95%
ทันหุ้น
6 พฤศจิกายน 2566 ( 10:05 )
55
RPH ไตรมาส 3 กำไร 66 ล. เพิ่ม 18%  งวด 9 เดือนกำไร 148 ล้าน ลดลง 95%

#RPH #ทันหุ้น – บริษัท โรงพยาบาลราชพฤกษ์ จำกัด (มหาชน) หรือ RPH แจ้งผลการดำเนินงานไตรมาส 3/2566 มีกำไรสุทธิ 65.89 ล้านบาท กำไรต่อหุ้น 0.12 บาท เพิ่มขึ้น 18% เทียบกับงวดเดียวกันปีก่อนที่มีกำไรสุทธิ 55.87 ล้านบาท กำไรต่อหุ้น 0.10 บาท

สำหรับผลงานงวด 9 เดือน มีกำไรสุทธิ  147.77 ล้านบาท กำไรต่อหุ้น 0.27 บาท ลดลง 95% เทียบกับงวดเดียวกันปีก่อนที่มีกำไรสุทธิ 294.42 ล้านบาท กำไรต่อหุ้น 0.54 บาท


บริษัทชี้แจงว่า ภาวะเศรษฐกิจและอุตสาหกรรมในช่วงไตรมาส 3/2566 เศรษฐกิจไทยยังอยู่ในทิศทางฟื้นตัว จากการบริโภคและการลงทุนภาคเอกชน อีกทั้งยังได้รับผลดีจากการฟื้นตัวของภาคการท่องเที่ยว ดังจะเห็นได้จากจำนวนนักท่องเที่ยวจากหลายประเทศเพิ่มขึ้น แม้นักท่องเที่ยวจากจีนยังไม่ฟื้นตัวเต็มที่ตามสภาวะเศรษฐกิจจีน นอกจากนี้ ความเชื่อมั่นผู้บริโภคของไทยได้กลับมาเพิ่มขึ้นหลังการจัดตั้งรัฐบาลมีความชัดเจนมากขึ้น แม้จะยังมีความกังวลต่อประเด็นค่าครองชีพ เศรษฐกิจโลกที่อาจชะลอตัว และสถานการณ์ภัยแล้ง


อุตสาหกรรมโรงพยาบาลในประเทศไทยในปี 2566 มีแนวโน้มชะลอลงจากฐานที่สูงในปีที่ผ่านมา เนื่องจากสถานการณ์โรคระบาดโควิด-19 ได้คลี่คลายลง จำนวนผู้ป่วยโควิด-19 ลดลงอย่างมาก และประชาชนได้รับวัคซีนป้องกันอย่างทั่วถึง คาดว่ารายได้ของโรงพยาบาลส่วนใหญ่จะทยอยปรับเข้าสู่ฐานเดิมก่อนช่วงโรคระบาดโควิด-19 ทั้งนี้ รายได้จากกลุ่มผู้ป่วยโรคทั่วไปยังมีโอกาสเติบโตได้ จากการกลับมาใช้บริการเพิ่ม และโรงพยาบาลที่รับผู้ป่วยต่างชาติยังมีแนวโน้มที่ดีเนื่องจากผู้ป่วยต่างชาติทยอยกลับมาใช้บริการตามการฟื้นตัวของภาคท่องเที่ยว และสำหรับไตรมาสที่ 3 นี้ โดยปกติจะเป็นช่วงhigh season มีผู้ป่วยมากกว่าไตรมาสอื่น ๆ เนื่องจากเป็นฤดูฝน ทำให้มีโอกาสเกิดโรคระบาดมากขึ้น เช่น โรคไข้หวัดใหญ่ โรค RSV โรคไข้เลือดออก โรคมือ เท้า ปาก เป็นต้น


สรุปผลการดำเนินงาน

ในไตรมาส 3/2566 บริษัท โรงพยาบาลราชพฤกษ์ จำกัด มหาชน ("RPH") มีรายได้เติบโตดี ถึงแม้จำนวนผู้ป่วยที่มารักษาโรคโควิด-19 ลดลงจากปีก่อน แต่ผู้ป่วยโรคทั่วไปซึ่งเป็นกลุ่มหลักมีจำนวนเพิ่มขึ้นจากปีก่อนและจากไตรมาสก่อน โดยมีทั้งจำนวนผู้ป่วยนอกเพิ่มขึ้นและอัตราการครองเตียงของผู้ป่วยในเพิ่มขึ้น ส่วนกำไรของไตรมาส 3/2566 เติบโตจากปีก่อนและไตรมาสก่อนเช่นกัน โดยมีประสิทธิภาพในการทำกำไรที่ดี มีอัตราการเติบโตของกำไรสูงกว่ารายได้ และสามารถควบคุมต้นทุนกิจการโรงพยาบาลได้ดี และมีการทำโฆษณาและการตลาดผ่านสื่อต่าง ๆ เพิ่มจากปีก่อน สอดคล้องกับกลยุทธ์ที่ต้องการสร้างแบรนด์ให้เป็นที่รู้จักเพิ่มขึ้น


แนวโน้มภาพรวมผลประกอบการปี 2566 และแผนการในอนาคต

คาดว่าภาพรวมของทั้งปี 2566 จะยังคงเติบโตได้ดีในกลุ่มของผู้ป่วยโรคทั่วไปซึ่งกลับมาใช้บริการเป็นปกติ แม้ว่าจำนวนผู้ป่วยโดวิด-19 จะลดลง ทั้งนี้ทางโรงพยาบาลได้จัดตั้งบริษัทย่อยคือ บริษัท แก่นพะงา จำกัด โดยมีแผนที่จะเปิดโรงพยาบาลศัลยกรรมความงาม ซึ่งจะทำให้มีการขยายฐานผู้รับบริการไปยังกลุ่มต่าง ๆ ที่หลากหลายมากขึ้น โดยมีแผนจะเปิดตัวและเริ่มดำเนินการโรงพยาบาลศัลยกรรมความงามนี้ในช่วงปี 2568 เป็นต้นไป


เหตุการณ์สำคัญในไตรมาส 3/2566

1. ที่ประชุมคณะกรรมการของบริษัทเมื่อวันที่ 5 สิงหาคม 2566 มีมติอนุมัติจ่ายเงินปันผลระหว่างกาลจากผลการดำเนินงานสำหรับระยะเวลาตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม 2566 ถึงวันที่ 30 มิถุนายน 2566 ในอัตราหุ้นละ 0.11 บาทรวมเป็นจำนวนเงิน 60.01 ล้านบาท

2. วันที่ 21 สิงหาคม 2566 จัดตั้งบริษัทย่อยชื่อ บริษัท แก่นพะงา จำกัด ทุนจดทะเบียนเริ่มแรก 5,000,000 บาทมีวัตถุประสงค์เพื่อประกอบกิจการโรงพยาบาลศัลยกรรมความงาม โดย RPH มีสัดส่วนการถือหุ้นร้อยละ 99.9998




รู้ทันเกม รู้ก่อนใคร ติดตาม "ทันหุ้น" ที่นี่

FACEBOOK คลิก https://www.facebook.com/Thunhoonofficial/

YOUTUBE คลิก https://www.youtube.com/channel/UCYizTVGMealUUalT6VdUdNA

Tiktok คลิก https://www.tiktok.com/@thunhoon_

LINE@ คลิก https://lin.ee/uFms4n5

TELEGRAM คลิก https://t.me/thunhoon_news

Twitter คลิก https://twitter.com/thunhoon1

ยอดนิยมในตอนนี้

แท็กยอดนิยม

ข่าวที่เกี่ยวข้อง