คลังชี้ปัญหา”ภูมิรัฐศาสตร์-ทรัมป์2.0”กระทบตลาดหุ้นระยะสั้น
คลังชี้ปัญหา”ภูมิรัฐศาสตร์-ทรัมป์2.0”กระทบตลาดหุ้นระยะสั้น รับปีนี้เศรษฐกิจไทยเผชิญกับความผันผวน จี้ธปท.ลดดอกเบี้ย-บริหารเสถียรภาพค่าเงิน ด้านคลังพร้อมออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจต่อเนื่อง
#ทันหุ้น นายเผ่าภูมิ โรจนสกุล รัฐนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลังระบุ การปรับลดลงของดัชนีตลาดหุ้นไทยในขณะนี้ ได้รับผลกระทบจากปัญหาภูมิรัฐศาสตร์และนโยบายทรัมป์ 2.0 ซึ่งแน่นอนว่า จะทำให้ราคาหุ้นในระยะสั้นฉวัดเฉวียน แต่เชื่อว่า ระยะยาวจะปรับเข้าสู่ทิศทางของประเทศ โดยตัวเลขทางเศรษฐกิจได้บ่งบอกเป็นทิศทางขาขึ้น
“เรื่องตลาดหุ้น เราต้องไม่ดูเรื่องการแปรผันในช่วงสั้น ซึ่งไม่สะท้อนอะไร เราต้องดูทิศทางระยะยาวว่า พื้นฐานประเทศเป็นอย่างไร แน่นอนว่า ราคาหุ้นในระยะสั้นฉวัดเฉวียน แต่ระยะยาวจะปรับเข้าสู่ทิศทางของประเทศ โดยตัวเลขทางเศรษฐกิจบ่งบอกเป็นทิศทางขาขึ้น”
ทั้งนี้ กรณีการรับมือนโยบายทรัมป์ 2.0 นั้น รัฐบาลโดยกระทรวงต่างๆ จะมีมาตรการออกมา เพื่อเตรียมรับมือกับความไม่แน่นอน ซึ่งตนมองว่า อาจเป็นโอกาสถ้าเราเตรียมตัวที่ดี แต่ยอมรับปีนี้ เราจะเผชิญกับความไม่แน่นอน
สำหรับเงินบาทเทียบดอลลาร์สหรัฐที่ปรับค่าอ่อนลงนั้น เขากล่าวว่า เรื่องค่าเงินสะท้อนจากดอกเบี้ยนโยบายและปัจจัยอื่นมากมาย ซึ่งที่จริงแล้ว เราไม่มีหน้าที่ดูแลค่าเงินโดยตรง แต่เราก็ได้หารือกับธนาคารแห่งประเทศไทยอยู่ตลอด ที่เราอยากเห็น คือ ไม่ผันผวนเกินไป และมีระดับเหมาะสมกับเศรษฐกิจและการแข่งขันของประเทศ
“เรื่องดอกบี้ยต้องหารือต่อไปเพื่อให้สอดคล้องกับประเทศไทยและตามศักยภาพการแข่งขันและส่งออก เราอยากเห็นการลดดอกเบี้ยนโยบายให้สอดคล้องกับเศรษฐกิจต้องช่วยกันผลักดันเศรษฐกิจคนะลนิดละหน่อย จะเป็นความร่วมมือที่ดี”
เขากล่าวด้วยว่า ในช่วงที่ผ่านมา รัฐบาลพยายามรักษาโมเมนตั้มทางเศรษฐกิจ โดยได้ออกมาตรการมาดูแลการใช้จ่ายในประเทศอย่างต่อเนื่อง และในช่วงโลว์ซีชั่นเราก็จะออกมาตรการมาดูแลทั้งการผลิตและการบริโภค โดยในส่วนของภาคการผลิตนั้น จะต้องดูแลอย่างใกล้ชิด โดยเฉพาะในภาคอุตสาหกรรมยานยนต์ หลังอัตราการปล่อยสินเชื่อขยายตัวลดลง
“เรื่องของสินเชื่อรถยนต์นั้น ได้รับผลกระทบจากเรื่องของปัญหากำลังซื้อ ซึ่งเรื่องนี้ เรากำลังหารือกับธปท.ว่า จะเข้าไปช่วยเหลือได้อย่างไร เพราะรถกระบะเป็นส่วนสำคัญในการประกอบอาชีพ”