สาวโวยรถขยะ เก็บของส่วนตัวไปทิ้ง นิติคอนโดโต้อีกมุม แฉพฤติกรรมสุดทน
สาวโวยรถขยะ เก็บของส่วนตัวไปทิ้ง ไม่บอกล่วงหน้า ด้านนิติคอนโดโต้อีกมุม จำเป็นต้องขนทิ้ง พร้อมแฉพฤติกรรมลูกบ้านรายดังกล่าว
จากกรณีเพจ อยากดังเดี๋ยวจัดให้ รีเทิร์น part2 โพสต์เรื่องราว รถขยะเทศบาลปากเกร็ด นำข้าวของไปทิ้งโดยไม่ได้รับอนุญาต ทั้งเสื้อผ้า หนังสือ และข้าวของอื่น ๆ หายไปหมด ทั้งนี้ได้เจ้าแจ้งความไว้แล้ว แต่ยังไม่มีความคืบหน้า เทศบาลไม่ยอมจ่ายเงินค่าเสียหายให้ เหตุการณ์เกิดที่การเคหะชุมชนนนทบุรี 2 ต.บางพูด อ.ปากเกร็ด จ.นนทบุรี
วันที่ 4 ก.พ. 65 น.ส.จิตรา เกษศรีรัตน์ อายุ 29 ปี เจ้าหน้าที่นิติบุคคล การเคหะชุมชนนนทบุรี 2 เปิดเผยว่า เหตุการณ์ในคลิปนั้นเกิดขึ้นบริเวณลานจอดรถ จยย.หน้าอาคาร 4 ซึ่งในภาพของกล้องวงจรปิดขณะนั้นเจ้าหน้าที่รถขนขยะของเทศบาลนครปากเกร็ด เข้าดำเนินการขนย้ายถุงข้าวของเครื่องใช้ที่เน่าเหม็นกีดขวางพื้นที่จอดรถ จยย.ส่วนกลางเป็นจำนวนมากไปทิ้ง หลังสร้างความเดือดร้อนให้กับผู้พักอาศัยคนอื่น ๆ โดยเหตุการณ์เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 29 ต.ค. 64 เวลา 13.30 น. ที่ผ่านมา
น.ส.จิตรา กล่าวต่อว่า จากกรณีที่ น.ส.กษิริฐา อายุ 33 ปี อดีตผู้เช่าห้องที่ชั้น 4 อาคาร 4 ร้องผ่านโซเชียลนั้น ก่อนหน้านั้นประมาณเดือน มิ.ย.64 ผู้เช่าได้ขอขนย้ายของมาวางไว้ที่หน้าอาคาร ซึ่งทางนิติได้อนุญาตให้นำมาวางไว้ให้ พร้อมแจ้งให้ทราบว่า ทางนิติจะให้เวลาในการวางข้าวของเครื่องใช้ที่ขนลงมาเพียงอาทิตย์เดียว หลังจากครบกำหนดแล้ว เมื่อถึงเวลาที่กำหนดทางผู้ร้องก็ไม่ได้มาขนย้ายข้าวของออกไปตามที่ตกลง
ต่อมาทางนิติได้พยายามติดต่อให้มาขนย้าย แต่ก็ถูกผลัดไปเรื่อยๆ จนผ่านไป 4 เดือน ซึ่งทำให้ข้าวของที่นำมากองไว้จนถูกน้ำเปียกฝนและเริ่มส่งกลิ่นเหม็นเน่า จนบางถุงขึ้นกับมีหนอนขึ้น ทำให้ลูกบ้านคนอื่นๆ มาต่อมากับทางนิติว่าจะไม่แก้ปัญหาให้คนส่วนรวมที่พักอาศัยอยู่ในนี้หรือไง ทางนิติจึงได้ประสานเจ้าหน้าที่เทศบาลให้มาดำเนินการขนย้ายข้าวของที่ไม่ได้ใช้เหล่านี้ออกไป
โดยมีเจ้าหน้าที่นิติและ รปภ.เป็นพยานยืนยันกันว่าระหว่างขนย้ายข้าวของเหล่านี้ไม่ได้มีทรัพย์สินมีค่าอะไร นอกจากเสื้อผ้าที่เน่าเหม็น กับชั้นไม้ และลิ้นชักที่ผุพังเท่านั้น ทั้งนี้ก่อนจะทำการขนย้ายทางนิติก็ได้พยายามติดต่อผู้ร้องไปหลายครั้งแล้ว แต่ไม่ติดต่อได้
น.ส.จิตรา กล่าวต่อว่า ผู้ร้องรายนี้เข้ามาเช่าตั้งแต่ปลายปี 63 จนถึงช่วงตนปี 64 โดยเช่าพักอาศัยอยู่เดือนละ 1,800 บาท กับเจ้าของห้องอีกทีหนึ่ง แต่ต่อมาเกิดติดค้างค่าเช่ามาตลอด และถูกตัดน้ำตัดไฟเนื่องจากไม่จ่ายเงิน ทำให้ผู้ร้องรายนี้ลักขโมยต่อน้ำและไฟมาแอบใช้ อีกทั้งยังเคยก่อเหตุตัดสายกล้องวงจรปิดในอาคารอีกด้วย
จนถูกทางเจ้าของห้องไล่ออกจากห้องพัก ทำให้เมื่อเดือน มิ.ย. 64 ผู้ร้องรายนี้ต้องย้ายออกและขนข้าวของที่ไม่สำคัญส่ถุงดำมาวางไว้ที่ลานจอดรถของอาคารเป็นจำนวนมาก โดยอ้างว่ากำลังจะหารถขนย้ายออกไป จนกระทั่งผ่านไป 4 เดือน ข้าวของเหล่านี้ซึ่งส่วนใหญ่เป็นเสื้อเกิดเปียกฝนและส่งกลิ่นเน่าเหม็นไปทั่ว
ด้าน น.ส.กษิริฐา อายุ 33 ปี ผู้ร้อง กล่าวว่า ตนนำข้าวของเครื่องใช้กองตรงนี้ไว้ประมาณ 4 เดือน แต่ก็เข้ามาดูตลอดว่าข้าวของเราไม่ได้เน่าเสียหาย มันแค่เปียกฝน แต่ทำไมทางนิติถึงให้ทางเทศบาลมาขนของตนไปโดยไม่ได้แจ้งตนก่อน มาทราบภายหลังจากเพื่อนบ้านที่ติดต่อมาบอกว่าข้าวของตนถูกขนไปทิ้งหมดแล้ว จึงเดินทางมาสอบถามเหตุผลกับทางนิติบุคคลตามที่เห็นในคลิปและขอดูภาพจากกล้องวงจรปิด
จึงนำหลักฐานที่ได้ไปเข้าแจ้งความดำเนินคดี เพราะต้องการเรียกร้องค่าเสียหายทั้งหมดที่เกิดขึ้น และตนไม่เข้าใจว่าทางเจ้าหน้าที่รถเก็บขยะไม่รู้หรือไงว่า กองขยะที่ทิ้งอยู่อีกที่หนึ่ง แต่ตรงนี้เป็นพื้นที่ที่ตนกองข้าวของเพื่อเตรียมขนย้ายออก
สาเหตุที่ตนยังไม่ได้ขนย้ายข้าวของทั้งหมดไปเนื่องจาก สถานการณ์ในตอนนั้นเป็นช่วงโควิดซึ่งห้ามเดินทางข้ามจังหวัดโดยไม่ได้รับอนุญาต ตนกับแฟนได้เตรียมย้ายกลับไปอยู่ที่ระยองโดยได้ว่าจ้างรถกระบะมาเตรียมขนย้ายแล้ว แต่พอเจอสถานการณ์โควิดที่ห้ามออกต่างจังหวัด จึงทำให้ไม่มีรถขนย้ายข้าวของไป
ซึ่งตนก็ได้แจ้งให้ทางนิติทราบไว้แล้ว และทุกอาทิตย์ตนจะเข้ามาดูแลข้าวของตลอดก็ยังพบว่าข้าวของตนอยู่ในสภาพดีไม่ได้เน่าเหม็นอะไร แต่ก็ไม่เข้าใจว่าทำไมต้องมาขนข้าวของตนที่รอขนย้ายไปทิ้ง ตนจึงอยากได้ความเป็นธรรมด้วยการจ่ายค่าชดเชยความเสียหายให้ตนที่อยู่ในสถานะคนยากลำบากด้วย