รีเซต

วิเคราะห์วิกฤตครูไทย เมื่องานเอกสารท่วม จนต้องลาออกก่อนเกษียณ

วิเคราะห์วิกฤตครูไทย เมื่องานเอกสารท่วม จนต้องลาออกก่อนเกษียณ
TNN ช่อง16
4 พฤศจิกายน 2567 ( 09:50 )
27

# วิกฤตครูไทย: จากแสงเรืองเรืองสู่ภาระงานท่วมท้น


"แสงเรืองเรืองที่ส่องประเทืองอยู่ทั่วเมืองไทย" เนื้อเพลงอันไพเราะที่เคยสะท้อนถึงความเสียสละของครูไทย กำลังถูกท้าทายด้วยความเปลี่ยนแปลงของยุคสมัย เมื่อครูรุ่นใหม่จำนวนมากตัดสินใจลาออกจากระบบราชการ ดังกรณีล่าสุดของครูสาววัย 24 ปี ที่ลาออกหลังบรรจุได้เพียงปีเดียว สะท้อนวิกฤตที่กำลังคุกคามวิชาชีพครูอย่างรุนแรง


ในอดีต เราเคยได้ยินว่า "เหนื่อยยากอย่างไรไม่เคยบ่นไปให้ใครเขามอง ครูนั้นยังลำพองในเกียรติของตนเสมอมา" แต่ปัจจุบัน ภาระงานที่ท่วมท้นกำลังทำลายอุดมการณ์นี้ลง หากพิจารณาจากข้อมูลการกำหนดภาระงานในระบบการศึกษาไทย ครูผู้สอนต้องรับผิดชอบการสอนไม่ต่ำกว่า 12 ชั่วโมงต่อสัปดาห์ พร้อมภาระงานขั้นต่ำอีก 20 ชั่วโมง ในขณะที่ผู้อำนวยการสถานศึกษาสอนเพียง 5 ชั่วโมง และรองผู้อำนวยการสอน 10 ชั่วโมงต่อสัปดาห์ ความไม่สมดุลนี้สะท้อนให้เห็นถึงการกระจายภาระงานที่ไม่เป็นธรรมในระบบการศึกษา


"ไม่มีเวลาที่จะได้มาหยุดพอพักผ่อน" ไม่เพียงเป็นเนื้อเพลงแต่เป็นความจริงที่ครูไทยต้องเผชิญ เมื่อต้องจัดสรรเวลา 32 ชั่วโมงต่อสัปดาห์ไปกับการสอนและงานประจำ ยังไม่รวมการเตรียมแผนการสอน ผลิตสื่อการเรียนรู้ ตรวจการบ้าน ทำวิจัยในชั้นเรียน และงานธุรการอื่นๆ อีกมากมาย บางโรงเรียนยังกำหนดให้ครูต้องมาถึงก่อน 07.00 น. เพื่อรับนักเรียนและอยู่ดูแลหลังเลิกเรียนจนถึง 17.00 น. ทำให้แทบไม่มีเวลาพักผ่อนหรือพัฒนาตนเองอย่างแท้จริง


"ฐานะของครูใครใครก็รู้ว่าด้อยหนักหนา" วลีจากบทเพลงที่ยังคงสะท้อนความจริงในปัจจุบัน เมื่อพิจารณาโครงสร้างเงินเดือนครูไทยเทียบกับภาระงานที่ต้องรับผิดชอบ พบว่ายังคงมีความไม่สมดุลอย่างมีนัยสำคัญ


ครูบรรจุใหม่ในตำแหน่งครูผู้ช่วย เริ่มต้นที่เงินเดือน 15,050 บาท สามารถเติบโตได้สูงสุดถึง 24,750 บาท ในขณะที่ครูระดับ คศ.1 มีเงินเดือนเริ่มต้นที่ 15,440 บาท และสูงสุดที่ 34,310 บาท เมื่อก้าวสู่ระดับ คศ.2 จะได้รับเงินเดือนระหว่าง 16,190-41,620 บาท พร้อมค่าวิทยฐานะเพิ่มเติมที่ทำให้รายได้รวมสูงสุดอยู่ที่ 45,120 บาท


สำหรับครูระดับสูงขึ้นไป คศ.3 มีเงินเดือนระหว่าง 19,860-58,390 บาท และอาจได้รับรวมถึง 69,590 บาทเมื่อรวมค่าวิทยฐานะและค่าตอบแทนพิเศษ ขณะที่ คศ.4 ได้รับระหว่าง 24,400-69,040 บาท อาจสูงถึง 88,840 บาทเมื่อรวมค่าตอบแทนพิเศษ และระดับสูงสุด คศ.5 มีเงินเดือนระหว่าง 29,980-76,800 บาท อาจได้รับสูงสุดถึง 108,000 บาทเมื่อรวมค่าตอบแทนทั้งหมด


อย่างไรก็ตาม การจะก้าวขึ้นสู่ระดับที่สูงขึ้นนั้นไม่ใช่เรื่องง่าย ครูต้องผ่านระบบการประเมินวิทยฐานะแบบใหม่ (DPA) ซึ่งแม้จะลดระยะเวลาพิจารณาจาก 3 ปีเหลือ 3 เดือน แต่ยังคงเน้นการประเมินผ่านเอกสารเป็นหลัก ทำให้ครูต้องแบ่งเวลาอันมีค่าไปกับการจัดทำเอกสารแทนที่จะทุ่มเทกับการพัฒนาการเรียนการสอน


เมื่อเปรียบเทียบกับภาระงานที่ครูต้องรับผิดชอบ ทั้งการสอนไม่ต่ำกว่า 12 ชั่วโมงต่อสัปดาห์ งานธุรการ การเข้าเวร การทำวิจัย และงานพิเศษอื่นๆ อีกมากมาย ค่าตอบแทนที่ได้รับถือว่ายังไม่สมดุล โดยเฉพาะครูบรรจุใหม่ที่ต้องแบกรับภาระงานเท่ากับครูอาวุโส แต่ได้รับเงินเดือนเพียง 15,050 บาท ในขณะที่ค่าครองชีพในปัจจุบันสูงขึ้นเรื่อยๆ


ความไม่สมดุลนี้เป็นหนึ่งในสาเหตุสำคัญที่ทำให้ครูรุ่นใหม่ตัดสินใจลาออกจากระบบราชการ เพราะนอกจากจะต้องทำงานหนักแล้ว ค่าตอบแทนที่ได้รับยังไม่เพียงพอต่อการดำรงชีพอย่างมีคุณภาพ โดยเฉพาะในเขตเมืองที่มีค่าครองชีพสูง การแก้ไขปัญหานี้จำเป็นต้องมีการทบทวนโครงสร้างเงินเดือนและระบบการประเมินวิทยฐานะให้สอดคล้องกับภาระงานและค่าครองชีพในปัจจุบัน เพื่อรักษาครูที่มีคุณภาพให้อยู่ในระบบและดึงดูดคนรุ่นใหม่ให้เข้ามาสู่วิชาชีพครูมากขึ้น


"หวังสิ่งเดียวคือขอให้เด็กของไทยในผืนธานี ได้มีความรู้เพื่อช่วยเชิดชูไทยให้ผ่องศรี" ความหวังนี้กำลังถูกท้าทาย เมื่อคุณภาพการศึกษาได้รับผลกระทบจากการที่ครูต้องแบ่งเวลาไปทำงานอื่นแทนการสอน การแก้ไขปัญหาต้องอาศัยการปฏิรูประบบการศึกษาอย่างจริงจัง ทั้งการปรับระบบประเมิน จัดสรรบุคลากรสนับสนุน และพัฒนาระบบดิจิทัลเพื่อลดภาระงานเอกสาร


หากต้องการให้ "แสงเรืองเรือง" ของครูไทยยังคงส่องสว่างต่อไป เราจำเป็นต้องเร่งแก้ไขปัญหาเชิงระบบอย่างจริงจัง ไม่เช่นนั้น เราอาจสูญเสียครูที่มีคุณภาพไปมากขึ้นเรื่อยๆ และส่งผลกระทบต่อการศึกษาของชาติในระยะยาว เพราะแม้ครูจะ "สู้ทนอุตส่าห์" แค่ไหน แต่หากระบบยังไม่เอื้อต่อการทำหน้าที่ครูอย่างแท้จริง การ "สร้างชาติไทยให้วัฒนา" ก็คงเป็นได้เพียงความฝันที่ห่างไกล


อ้างอิง 


สพฐ. เปิดเทอมใหม่คืนครูสู่ห้องเรียน ลดภาระครูต่อเนื่อง 3 ด้าน

สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน

เรียบเรียง : ยศไกร รัตนบรรเทิง บรรณาธิการ TNN 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง