ทีดับบลิวแซด ระดมทุนกว่า660 ล้าน ลุยรถยนต์ไฟฟ้า-รุกปล่อยสินเชื่อ
นายพุทธชาติ รังคสิริ ประธานกรรมการ บริษัท ทีดับบลิวแซด คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ TWZ เปิดเผยว่า จากที่ประชุมคณะกรรมการบริษัทฯในการประชุม เมื่อวันที่ 28 ธันวาคม 2563 มีมติให้บริษัทเพิ่มทุนจดทะเบียนจาก 990.66 ล้านบาท เป็น 1,651.11 ล้านบาท โดยออกหุ้นสามัญเพิ่มทุนจำนวน 6,604.45 ล้านหุ้น มูลค่าที่ตราไว้ (พาร์) หุ้นละ 0.10 บาท รวมเป็นมูลค่า 660.45 ล้านบาท จัดสรรให้กับผู้ถือหุ้นสามัญเดิมในสัดส่วน 3 หุ้นเดิมต่อ 2 หุ้นใหม่ ราคาเสนอขายหุ้นละ 0.10 บาท กำหนดรายชื่อผู้ถือหุ้นที่มีสิทธิได้รับการเสนอขายหุ้นเพิ่มทุน (Record Date) ในวันที่ 11 กุมภาพันธ์ 2564 และกำหนดวันจองซื้อหุ้นใหม่ ระหว่างวันที่ 1-5 มีนาคม 2564 โดยจะขอมติจากที่ประชุมวิสามัญผู้ถือหุ้นที่กำหนดประชุมในวันที่ 4 กุมภาพันธ์ 2564
ทั้งนี้ เงินที่ได้รับจากการเพิ่มทุนครั้งนี้ จะนำไปใช้ในโครงการที่อยู่ในแผนของบริษัท ประกอบด้วย โครงการพัฒนาธุรกิจยานยนต์พลังงานไฟฟ้า โครงการพัฒนาธุรกิจสถาบันการเงินที่ไม่ใช่ธนาคาร (Non-Bank) ซึ่งประกอบด้วย การให้สินเชื่อประเภทลีสซิ่ง สินเชื่อนาโนไฟแนนซ์ และสินเชื่อเช่าซื้อ นอกจากนี้ จะนำไปใช้เป็นเงินทุนสำรองสำหรับการขยายธุรกิจของบริษัทฯในอนาคต โดยเน้นธุรกิจที่สามารถสร้างผลตอบแทนที่น่าพอใจให้แก่บริษัท ซึ่งหมายถึงธุรกิจอื่นๆที่มีอัตราการเติบโตสูงในช่วงการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 เช่น ธุรกิจที่เกี่ยวกับอุปกรณ์การแพทย์ เป็นต้น ขณะที่เงินจากการเพิ่มทุนบางส่วน จะถูกนำไปชำระหนี้ธุรกิจเดิม ได้แก่ ธุรกิจการเป็นผู้จัดจำหน่ายซื้อขายโทรศัพท์เคลื่อนที่และอุปกรณ์เสริมต่างๆ รวมถึง นำไปชำระคืนเงินกู้ยืมระยะสั้น เพื่อลดภาระดอกเบี้ยสำหรับธุรกิจเดิม เพื่อให้ธุรกิจสามารถฝ่าวิกฤติการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ไปได้ภายใต้ต้นทุนทางการเงินที่เหมาะสม
“ ทีดับบลิวแซด มองหาโอกาสใหม่ในการลงทุน เพื่อสร้างผลตอบแทนที่คุ้มค่าอยู่ตลอดเวลา ที่ผ่านมาได้เปิดตัวโครงการรถยนต์ไฟฟ้าให้เช่าระยะยาว ผ่านการถือหุ้นในบริษัท สกายเวลล์ (ประเทศไทย) จำกัด บริษัท อีวี สมาร์ท เมเนจเม้นท์ จำกัด และบริษัท สกายเวลล์ ลีสซิ่ง จำกัด โดยมีพันธมิตร ได้แก่ บริษัท ดีจริง ออโต้ ที่มีความเข้มแข็งทั้งฐานลูกค้ารถยนต์ให้เช่าและฐานการเงินที่แข็งแกร่งเข้ามาสนับสนุน ซึ่งในส่วนของสกายเวลล์ ลีสซิ่ง ที่ได้รับอนุญาตให้ดำเนินธุรกิจสถาบันการเงินที่ไม่ใช่ธนาคาร (Non-Bank) นั้น นอกจากจะให้บริการสินเชื่อเช่าซื้อแล้ว เรายังมีแผนจะให้บริการสินเชื่อนาโนไฟแนนซ์ โครงการเหล่านี้มีพัฒนาการตามแผนที่เราวางไว้ คาดว่าจะดำเนินการภายในไตรมาส2 /2564 ”
นายพุทธชาติ กล่าวต่อว่า บริษัทยังอยู่ระหว่างการศึกษาการลงทุนอื่นๆ สำหรับการขยายธุรกิจของบริษัทในอนาคต ล่าสุดอยู่ระหว่างการศึกษารายละเอียดและจัดทำบันทึกข้อตกลงร่วมทุนกับโรงงานผลิตถุงมือยางและคู่ค้า(เทรดเดอร์) ซึ่งคณะกรรมการบริษัทได้มีมติให้คณะกรรมการบริหารเข้าศึกษาความไปได้ของโครงการ ตลอดจนศึกษาแนวทางป้องกันความเสี่ยงที่ อาจเกิดขึ้นในอนาคต หากได้ข้อสรุปจากการศึกษา บริษัท จะนำเงินที่ได้รับจากการระดมทุนครั้งนี้ประมาณ 300 ล้านบาท เพื่อวางมัดจำ โดยขณะนี้ยังอยู่ในขั้นตอนของการศึกษาเท่านั้น
“ ผลกระทบจากไวรัสโควิด-19 ทำให้เราต้องสร้างการเปลี่ยนแปลงในลักษณะพลิกโฉม ด้วยการสร้างโมเดลที่มีศักยภาพสูงมากพอที่จะสร้างการเปลี่ยนแปลงให้กับธุรกิจได้ จากเดิมที่ผลประกอบการของบริษัทเป็นผู้จัดจำหน่ายซื้อขายโทรศัพท์เคลื่อนที่และอุปกรณ์เสริมต่างๆ ซึ่งเป็นธุรกิจที่มีการแข่งขันสูงมาก ส่งผลให้อัตรากำไรค่อนข้างต่ำ เมื่อเกิดวิกฤตการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ส่งผลกระทบกับกิจกรรมหลักของธุรกิจ ขณะที่ช่องทางขายแบบเดิมก็ได้รับผลกระทบ บริษัทจึงได้ส่งทีมงานพัฒนาธุรกิจร่วมกันหาแนวทางในการขยายกิจการเข้าสู่ธุรกิจอื่นที่มีการเติบโตสูง ซึ่งการตัดสินใจลงทุนจะเป็นไปอย่างรอบคอบและอยู่บนพื้นฐานของความเหมาะสม ทั้งอัตราผลตอบแทนและความคุ้มค่าของเงินลงทุน เพื่อประโยชน์สูงสุดของบริษัท ผู้ถือหุ้นและผู้มีส่วนเกี่ยวข้องทุกคน ” นายพุทธชาติ กล่าว