ผู้ผลิต AT-6 Wolverine เคลมใช้เป็นระบบต่อต้านโดรนกามิกาเซ่ระยะไกลได้

เท็กซ์ทรอน เอวิเอชัน (Textron Aviation) ผู้ผลิตเครื่องบินจากสหรัฐอเมริกา ประกาศว่า เครื่องบินโจมตีเบารุ่น เอที-6 วูฟเวอรีน (AT-6 Wolverine) ที่บริษัทวางจำหน่าย สามารถใช้งานเป็นระบบต่อต้านโดรนสังหารแบบเที่ยวเดียว หรือโดรนกามิกาเซ่ระยะไกล  (long-range one-way attack drone, kamikaze drone) ได้ เพื่อเสริมความอเนกประสงค์ในการใช้งาน AT-6 Wolverine ในอนาคต

ปัญหาการใช้เครื่องบิน - ฮ. ทั่วไปสกัดโดรน

ทาง Textron Aviation มองสถานการณ์ระหว่างรัสเซีย - ยูเครนในปัจจุบันว่าได้เริ่มใช้เฮลิคอปเตอร์และเครื่องบินเบา รวมถึงเครื่องบินพลเรือนที่นำมาดัดแปลงเพื่อใช้สกัดกั้นโดรนระหว่างการโจมตีขนาดใหญ่ แม้ว่าจะใช้ได้ผลในบางสถานการณ์ แต่เครื่องบินเหล่านี้มักขาดคุณสมบัติสำคัญ เช่น ความอยู่รอดในสมรภูมิ (Survivability) การบูรณาการเซนเซอร์ รวมไปถึงระบบอาวุธที่เหมาะสม สำหรับบทบาทการสกัดกั้นโดรน 

นอกจากนี้ นักวิเคราะห์ของบริษัทเชื่อว่าภัยคุกคามจากโดรนจะยกระดับมากขึ้นในอนาคต โดยมีศักยภาพในการเพิ่มความเร็ว ความคล่องตัว หรือแม้กระทั่งความสามารถในการยกระดับเป้าโจมตีทางอากาศที่สูงขึ้น เช่น เฮลิคอปเตอร์ การเปลี่ยนแปลงดังกล่าวจะทำให้ยุทธวิธีสกัดกั้นในปัจจุบันมีความเสี่ยงเพิ่มมากขึ้นเรื่อย ๆ

ทำไมต้องใช้ AT-6 Wolverine เป็นเครื่องบินสกัดโดรน ?

ด้วยเหตุนี้ Textron Aviation จึงเสนอแพลตฟอร์มแบบแยกส่วน (modular) ที่สร้างขึ้นมาโดยเฉพาะสำหรับเครื่องบินโจมตีเบาของบริษัทอย่างรุ่น AT-6 Wolverine โดยชูจุดเด่นในการบูรณาการระบบเซนเซอร์และระบบควบคุมอาวุธที่ทันสมัยกว่า และเนื่องจากเป็นเครื่องบินทางการทหารแต่แรก ทำให้ AT-6 Wolverine มีความอยู่รอดในสนามรบมากกว่าการใช้เครื่องบินพาณิชย์ที่นำมาดัดแปลงซึ่งมีความเสี่ยงถูกโจมตี 

โดย AT-6 Wolverine ที่รองรับรูปแบบการบรรทุกสัมภาระ (loadout configurations) ได้มากกว่า 66 รูปแบบ ทำให้เหมาะสำหรับภารกิจที่หลากหลาย ตั้งแต่การลาดตระเวนต่อต้านโดรน (counter-UAV patrols) ไปจนถึงการโจมตีเบาและการสนับสนุนทางอากาศ (close air support: CAS)

Textron Aviation เชื่อว่า AT-6 Wolverine ของตน จะเป็นเครื่องบินที่สามารถต่อต้านโดรนโจมตีทางเดียวพิสัยไกล (long-range one-way attack drones) เช่น โดรนชาเฮด-136 (Shahed-136) จากอิหร่านที่เป็นภัยคุกคามในมุมมองของอิสราเอล

ภาพรวมเครื่องบินโจมตีเบา AT-6 Wolverine

จุดเด่น

เครื่องบิน AT-6 Wolverine ถูกออกแบบมาเพื่อความคุ้มค่าในการฝึกและปฏิบัติการ มีจุดเด่นระบบควบคุมและสื่อสาร (เช่น HOTAS, หมวก HCMS, และระบบ Link-16) ที่ใช้พื้นฐานเดียวกับเครื่องบินขับไล่หลักอย่าง F-16 และ Gripen ทำให้นักบินสามารถปรับตัวได้ง่ายและรวดเร็ว

AT-6 Wolverine สามารถติดตั้งอาวุธได้ทั้งหมด 6 จุด รองรับน้ำหนักอาวุธตามมาตรฐาน NATO ได้ 1,800 กิโลกรัม และมีระยะเวลาปฏิบัติการต่อเนื่องสูงสุด 7.5 ชั่วโมง มีค่าใช้จ่ายในการบินชั่วโมงละประมาณ 2,000 ดอลลาร์สหรัฐ หรือคิดเป็นประมาณ 72,000 บาท ต่ำกว่าเครื่องบินรบโดยทั่วไปซึ่งจะมีค่าใช้จ่ายเริ่มตั้งแต่ 5,000 - 10,000 ดอลลาร์สหรัฐ หรือสูงสุดเกือบ 360,000 บาทต่อชั่วโมง 

ผู้ใช้งานในปัจจุบัน

Textron Aviation คาดการณ์ว่าจะมีผู้ใช้งานจากทั่วสหรัฐอเมริกา และประเทศพันธมิตรกว่า 200 ลำ  ที่สามารถนำ AT-6 Wolverine มาใช้งานต่อต้านโดรนตามที่บริษัทประกาศได้ โดยชี้ว่าการออกแบบที่ทนทาน ความสามารถในการขึ้น-ลงในระยะสั้น และความคุ้มค่าด้านต้นทุนของ Wolverine ทำให้เป็นทางเลือกที่ใช้งานได้จริงสำหรับกลยุทธ์การป้องกันโดรนที่กำลังมีบทบาทสำคัญในสถานการณ์ความมั่นคงทั่วโลก

ทั้งนี้ AT-6 และ T-6 ซึ่งเป็นเครื่องฝึกบิน (A-Attack) ในปัจจุบันถูกผลิตมากกว่า 900 ลำ ในปี 2015 โดยมีผู้ใช้งานกว่า x ประเทศ ได้แก่ สหรัฐอเมริกา แคนาดา กรีซ อิสราเอล อิรัก โมรอคโค เม็กซิโก นิวซีแลนด์ สหราชอาณาจักร อาร์เจนตินา ตูนิเซีย ญี่ปุ่น และไทยในรหัส AT-6 TH