หลุดเข้าป่าไปอีกแล้วกระทิงหนุ่มตาบอด  หน่วยผากระดาษ

นายคณัสชนม์ ศรีเจริญ นายอำเภอปากช่อง จ.นครราชสีมา ได้ร่วมกับนางสุรัสวดี เรืองจาบ กำนันตำบลโป่งตาลอง อ.ปากช่อง นายกิตติชัย รุ่งไพบูลย์วงศ์ ผู้ช่วยหัวหน้าอุทยานฯ หัวหน้าเขตการจัดการที่ 2 นายสุชิน พูนสวัสดิ์ หัวหน้าหน่วยพิทักษ์อุทยานเขาใหญ่ ขญ.3 ตะเคียนงาม ผู้ใหญ่บ้าน หมู่ 1 และหมู่ 2 กลุ่มอนุรักษ์ อาสาดูแลสัตว์ป่า และชาวบ้าน กว่า 20 คน นำรถไถ 2 คัน ขับเข้าใกล้แล้วใช้เชือกเป็นป่วงติดปลายไม้เพื่อคล้องคอกระทิง โดยเจ้าหน้าที่พบกระทิง เพศผู้ อายุประมาณ 16 ปี เป็นกระทิงหนุ่ม ตัวขนาดใหญ่ มีเขายาว น้ำหนักมากกว่า 1,500 กิโลกรัม บริเวณสวนมะม่วง ในพื้นที่ หมุ่ 2 บ้านโป่งตาลอง อ.ปากช่อง ในพื้นที่นอกเขตอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ ประมาณ 1 กม.สามารถจับได้โดยใช้เวลาตลอดทั้งวัน เมื่อวันที่ 17 พฤศจิกายน แล้วนำมาผูกล่ามไว้ในคอก บริเวณหน่วยพิทักษ์อุทยาเขาใหญ่ ขญ.2 ผากระดาษ อยู่ร่วมกับกระทิง เพศเมีย ที่ตาบอด 2 ข้าง ที่นำมาไว้ก่อนหน้านี้ ห่างจากจุดที่จับประมาณ 30 กม.

เมื่อวันที่ 19 พฤศจิกายน ผู้สื่อข่าวได้รับแจ้งจาก นายคำมวน ทองแต้ม หัวหน้าหน่วยพิทักษ์อุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ ขญ.2 ผากระดาษ ว่ากระทิงหนุ่มตาบอด ได้สลัดเชือก ขาด และพังคอกไม้หนีเข้าไปในป่า พื้นที่อุทยานฯหลังหน่วยพิทักษ์ฯ ตั้งแต่ช่วงเช้าที่ผ่านมา น่าจะเกิดจากยังไม่ชินพื้นที่ และเชือกที่ผูกล่ามไว้เส้นเล็กและเก่า เจ้าหน้าที่ออกติดตามพบตัวแล้วแต่ยังไม่สามารถใช้เชือกคล้องคอได้ อันตรายไม่สามารถเข้าใกล้ได้ เนื่องจากเมื่อได้กลิ่นมนุษย์กระทิง ทำท่าจะวิ่งชน หากไม่เร่งช่วยเหลือนำมาดูแลคงจะขาดน้ำขาดอาหารตาย และถูกฝูงหมาในหรือหมาจิ้งจอกล่าเป็นอาหาร เนื่องจากมองไม่เห็น

นายคำมวน   กล่าวว่า ได้รายงานให้ นายชัยยา ห้วยหงษ์ทอง หัวหน้าอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ รับทราบแล้ว และตนได้ไปจัดซื้อเชือกมาใหม่ขาดเส้นใหญ่กว่าเดิม และติดตามหาตัวกระทิงหนุ่มและหลบเข้าไปในป่าที่รกแล้ว เจ้าหน้าที่พยายามติดตามอยู่ ในวันนี้

ด้านนายวัชรากร นามสีฐาน นายกสมาคมอนุรักษ์ธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมเขาใหญ่ และกลุ่มอนุรักษ์กระทิง อยากให้เจ้าหน้า สำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 7 (นครราชสีมา )ร่วมกับอุทยานฯเขาใหญ่ คอยดูแลสัตว์ป่าที่ออกมาหากินในพื้นที่อุทยานฯ และสัตว์ที่ช่วยเหลือตัวเองไม่ได้ เพราะศัตรูที่จ้องจะล่าเป็นเหยื่อเช่นฝูงหมาในในพื้นที่เขาใหญ่มีจำนวนมาก อาศัยอยู่ทั่วพื้นที่ป่า อย่าไปมองว่าเป็นกลไกรวิถีของธรรมชาติสัตว์ป่า