รีเซต

Amazon เปิดร้านทำผมสุดไฮเทค ประยุกต์ใช้เทคโนโลยี AR

Amazon เปิดร้านทำผมสุดไฮเทค ประยุกต์ใช้เทคโนโลยี AR
TNN ช่อง16
23 เมษายน 2564 ( 11:48 )
132
Amazon เปิดร้านทำผมสุดไฮเทค ประยุกต์ใช้เทคโนโลยี AR

ปัจจุบันนี้บริษัทยักษ์ใหญ่หลายแห่งได้ประยุกต์ใช้เทคโนโลยี AI และการแสดงภาพเสมือนจริง (AR - Augmented Reality) กันมากขึ้น เพื่อเพิ่มความน่าสนใจให้ธุรกิจและขยายขอบเขตการทำธุรกิจให้หลายหลายขึ้น


เช่นเดียวกับ Amazon เจ้าแห่งเว็บไซต์อีคอมเมิร์ซอันโด่งดัง ล่าสุดได้เปิดตัวร้านทำผม Amazon Salon สุดไฮเทค ที่นำเอาเทคโนโลยีมาปรับใช้กับการทำผม นอกจากจะเป็นการฉีกกรอบการทำผมแบบเดิม ๆ แล้ว ยังทำให้ลูกค้าได้รับสิทธิประโยชน์มากมายอีกด้วย


ร้านทำผมนี้ที่ในเมือง Spitalfield กรุงลอนดอน ประเทศสหราชอาณาจักร โดยมีจุดเด่นคือการนำเทคโนโลยี AR มาใช้ร่วมกับการเสริมความงามให้กับลูกค้า ช่วยให้ลูกค้าสามารถเห็นรูปโฉมของตนเองหลังเสริมสวยตั้งแต่เดินเข้าไปในร้านเลยทีเดียว


ลักษณะการทำงานของเทคโนโลยีนี้ คือเมื่อลูกค้าต้องการเลือกทรงผมสักอย่างหนึ่ง หรือต้องการเปลี่ยนสีผม พวกเขาสามารถกดเลือกทรงผมหรือสีผมจากรายการตัวอย่างบนแท็บเล็ตของทางร้าน จากนั้นก็จะมีจอภาพแสดงให้เห็นภาพของลูกค้าหากตัดแต่งทรงผมหรือทำสีผมตามที่เลือก หากดูแล้วน่าพึงพอใจก็สามารถสั่งให้ช่างตัดทรงนี้ได้เลย


แต่ถ้าไม่มีการขายของเลยก็คงไม่ใช่ Amazon นอกจากเทคโนโลยี AR แล้ว ยังมีระบบที่เรียกว่า Point and learn ลูกค้าที่เข้ามานั่งรอสามารถช้อปปิ้งสินค้าภายในร้านได้ สิ่งที่แตกต่างไปจากร้านค้าทั่วไปคือใน Amazon Slaon คือจอแสดงข้อมูลน่าสนจเกี่ยวกับสินค้านั้น ๆ ตั้งแต่การแสดงโฆษณาไปจนถึงข้อมูลเชิงลึกของสินค้า ช่วยให้ลูกค้าตัดสินใจเลือกสินค้าที่ดีที่สุดเพื่อตนเองได้


ต้องบอกว่าเทคโนโลยีที่นำมาใช้นั้น ถูกออกแบบมาเพื่อเพิ่มประสบการณ์ที่ดีแก่ลูกค้า บางครั้งช่างตัดผมก็อาจมีความเห็นไม่ตรงกับคุณ เช่น คุณชอบผมสีม่วงแต่ช่างแนะนำผมสีน้ำตาล เทคโนโลยีเหล่านี้ก็จะเป็นเครื่องมือที่ช่วยในการตัดสินใจ ให้คุณเดินออกจากร้านทำผมนี้ได้อย่างมั่นใจ


ในตอนนี้ Amazon Salon ยังเปิดให้บริการเฉพาะพนักงานของ Amazon เท่านั้น แต่คาดว่าในเร็ว ๆ นี้จะสามารถเปิดให้บุคคลทั่วไปเข้ารับบริการได้ คุณจะเห็นได้ว่าเทคโนโลยีได้เข้าไปอยู่ในทุกวงการ ไม่แน่ในบ้านเราอาจมีร้านทำผมหรือร้านเสริมสวยรายใหญ่นำเทคโนโลยีที่คล้าย ๆ กันมาใช้ก็เป็นไปได้


ขอขอบคุณข้อมูลจาก Seattletimes

ข่าวที่เกี่ยวข้อง