พระผิด วัดผิดด้วยหรือ? กรณีวัดไร่ขิง กับการแยกแยะ “คน” และ “ศรัทธา”

ในยุคที่ข่าวสารแพร่กระจายรวดเร็ว ความผิดพลาดของ “บุคคล” มักถูกโยงไปถึง “สถาบัน” โดยเฉพาะเมื่อเกิดในวงการศาสนา เหมือนกรณี อดีตเจ้าอาวาสวัดไร่ขิง ที่กำลังเป็นข่าวคดีความอยู่ในเวลานี้ แต่คำถามสำคัญคือ เราควร “เหมารวม” วัดทั้งวัดหรือไม่? และ “ใคร” ควรรับผิด? วัดไร่ขิงควรเป็นกรณีศึกษาแห่งการใช้ “ปัญญา” นำ “ศรัทธา”
วัดไร่ขิง รากศรัทธาที่ไม่ได้ขึ้นอยู่กับคนเดียว
วัดไร่ขิงพระอารามหลวง จังหวัดนครปฐม เป็นวัดสำคัญที่มีบทบาทหลากหลาย ทั้งด้านศาสนา การศึกษา และสาธารณสุข มีพระพุทธรูปศักดิ์สิทธิ์ “หลวงพ่อวัดไร่ขิง” เป็นที่ยึดเหนี่ยวจิตใจของชาวบ้านและผู้แสวงบุญทั่วประเทศ แต่เบื้องหลังความเจริญรุ่งเรืองของวัดแห่งนี้ ไม่ได้เกิดจากพระรูปใดรูปหนึ่งเพียงลำพัง หากเป็นผลจากการทำงานสืบทอดของเจ้าอาวาสหลายรุ่นตลอดศตวรรษที่ผ่านมา
พระอุบาลีคุณูปมาจารย์ พระนักพัฒนา ผู้วางรากฐานวัดไร่ขิงสมัยใหม่
ชื่อของ พระอุบาลีคุณูปมาจารย์ (ปัญญา อินทปญฺโญ) คือผู้ที่เปลี่ยนวัดไร่ขิงจากวัดท้องถิ่นให้เป็นสถาบันศาสนาที่มีบทบาทระดับประเทศ ท่านริเริ่มโครงการสำคัญ เช่น
- โรงพยาบาลเมตตาประชารักษ์ (วัดไร่ขิง) เพื่อดูแลสุขภาพประชาชน โดยเฉพาะโรคเกี่ยวกับดวงตา
- ส่งเสริม การศึกษาพระปริยัติธรรม และ โรงเรียนพระบาลี ภายในวัด
- พัฒนาสาธารณูปโภค และการปกครองวัดให้เป็นระบบ ระเบียบ โปร่งใส
ท่านมรณภาพในปี 2551 รวมอายุ 85 ปี 4 เดือน 5 วัน พรรษา 65 พรรษา ได้รับพระราชทานน้ำหลวงอาบศพและโกศแปดเหลี่ยมตามสมณศักดิ์
พระธรรมวชิรานุวัตร (แย้ม กิตฺตินฺธโร) ผู้สืบทอดงานพัฒนาวัด
ภายหลังการมรณภาพของพระอุบาลีคุณูปมาจารย์ พระธรรมวชิรานุวัตร หรือที่ชาวบ้านเรียกกันว่า “เจ้าคุณแย้ม” ได้รับแต่งตั้งเป็นเจ้าอาวาส และเดินหน้าต่อยอดภารกิจพัฒนาวัดไร่ขิงต่อเนื่อง
- ขยายพื้นที่บริการของโรงพยาบาลเมตตาประชารักษ์
- บูรณะศาสนสถานภายในวัด
- ส่งเสริมกิจกรรมหมู่บ้านศีล 5 และงานสาธารณสงเคราะห์
แม้ในปัจจุบันอดีตเจ้าอาวาสองค์นี้จะตกเป็นผู้ต้องหาในคดีฟอกเงินและเว็บพนัน ซึ่งอยู่ระหว่างกระบวนการยุติธรรม แต่ผลงานเชิงรูปธรรมที่ปรากฏก็ยังคงเป็นสิ่งที่จับต้องได้ และต้องประเมินแยกจากคดีความส่วนตัวของท่าน
ศรัทธาควรตั้งอยู่บนความเข้าใจ
วัดคือศูนย์กลางของชุมชน เป็นที่รวมของความหวัง ความดี และการเรียนรู้ตลอดหลายชั่วอายุคน ความผิดของบุคคลไม่ควรถูกใช้เป็นข้ออ้างในการลบล้างสถาบัน หากวัดไร่ขิงเคยเป็นที่พึ่งทางใจของใครหลายคน ก็ยังคงเป็นเช่นนั้นได้ หากสังคมร่วมกันฟื้นฟูด้วยการแยกแยะ
บทสรุป เมื่อพระล้ม วัดไม่ควรพัง
การรักษาศรัทธาในวัดไร่ขิงไม่ใช่การปกป้องผู้กระทำผิด แต่คือการแสดงความรับผิดชอบร่วมกันของสังคมว่า ศรัทธาต้องตั้งอยู่บนเหตุผล ไม่ใช่เพียงความรู้สึกผิดหวังชั่วคราว
เพราะวัดไร่ขิงคือมรดกของแผ่นดิน และศรัทธาคือพลังที่สามารถซ่อมสร้างได้ หากเราเริ่มต้นด้วย “ความเข้าใจ”