รีเซต

สปสช.แจกชุดตรวจโควิด-19 ATK ให้กลุ่มเสี่ยงทุกสิทธิรอบ 2 เริ่ม 1 มี.ค.นี้

สปสช.แจกชุดตรวจโควิด-19 ATK ให้กลุ่มเสี่ยงทุกสิทธิรอบ 2 เริ่ม 1 มี.ค.นี้
TNN ช่อง16
24 กุมภาพันธ์ 2565 ( 15:06 )
124
สปสช.แจกชุดตรวจโควิด-19 ATK ให้กลุ่มเสี่ยงทุกสิทธิรอบ 2 เริ่ม 1 มี.ค.นี้

วันนี้ (24 ก.พ.65) นพ.จเด็จ ธรรมธัชอารี เลขาธิการสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ หรือ สปสช. ร่วมกับ นายธวัชชัย ชีวานนท์ รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ ธนาคารกรุงไทย รศ.(พิเศษ) และ ภก.กิตติ พิทักษ์นิตินันท์ นายกสภาเภสัชกรรม แถลงข่าวประเด็น “แจก ATK ให้ประชาชนกลุ่มเสี่ยงทุกสิทธิรอบ 2 ดูแลคนไทยเข้าถึงการตรวจโควิด-19 ด้วยตนเอง”

นพ.จเด็จ เปิดเผยว่า สำหรับชุดตรวจ ATK ที่กระจายในครั้งนี้ สปสช. เน้นการเพิ่มโอกาสเข้าถึงชุดตรวจ ATK ของประชาชนกลุ่มเสี่ยง เพื่อลดภาระหรือผลกระทบในการจัดหาของประชาชน โดยเพิ่มจำนวนประชาชนที่จะเข้าถึงบริการให้มากขึ้น 

รวมทั้งชุดตรวจ ATK ที่กระจายในครั้งนี้ สปสช. เน้นเป็นชุดตรวจที่อยู่ในรายการสินค้าบัญชีนวัตกรรม เพื่อเป็นการร่วมสนับสนุนการวิจัยและพัฒนาองค์ความรู้ด้านวิทยาศาสตร์ของประเทศไทยตามนโยบายของรัฐบาล โดย สปสช.จะทำหน้าที่เป็นกลไกกลางในการประสานกับผู้จำหน่าย ATK ในบัญชีนวัตกรรม องค์การเภสัชกรรม เพื่อให้ได้ในราคาที่เหมาะสมและจำนวนตามความต้องการของหน่วยบริการ

ส่วนแนวทางในการรับชุดตรวจ ATK เมื่อประชาชนคัดกรองความเสี่ยงต่อการติดเชื้อโควิด-19 ผ่านแอปพลิเคชันเป๋าตังแล้ว หากผลประเมินว่าเป็นกลุ่มเสี่ยง สามารถขอรับชุดตรวจได้ที่หน่วยบริการที่เข้าร่วมกระจายชุดตรวจ ATK 

ได้แก่ ร้านยา คลินิกพยาบาล คลินิกกายภาพบำบัด คลินิกเทคนิคการแพทย์ฯ หรือหน่วยบริการอื่นกว่า 2,000 แห่ง โดยดำเนินการยืนยันการให้บริการผ่านแอปเป๋าตัง กรณีไม่มีมือถือสมาร์ทโฟนนำบัตรประชาชนไปขอรับโดยตรงได้ที่หน่วยบริการที่เข้าร่วมโครงการตามขั้นตอน

ทั้งนี้ การกระจายชุดตรวจ ATK ในรอบนี้ สปสช. ได้ปรับรูปแบบการบริหารจัดการใหม่ โดยให้หน่วยบริการที่ร่วมกระจาย ATK เบิกจ่ายชดเชยมาที่ สปสช. ในอัตรา 55 บาทต่อชุด รวมค่าชุดตรวจ ค่าบริการในการให้คำแนะนำการใช้ชุดตรวจ การอ่านผล และการปฏิบัติตัวของประชาชน ประชาชนจะได้รับครั้งละ 2 ชุด ห่างกัน 10 วัน 

หมายความว่าหลังจากได้รับแจกไปแล้ว อีก 10 วันสามารถมาขอรับได้อีก ซึ่งจะทำให้ประชาชนกลุ่มเสี่ยงได้รับ ATK อย่างทั่วถึง การแจก ATK รอบที่ 2 ให้ประชาชนกลุ่มเสี่ยงนี้จะเริ่มตั้งแต่วันที่ 1 มีนาคม 2565 เป็นต้นไป

นายธวัชชัย กล่าวเสริมว่า ตามที่ธนาคารได้ร่วมกับ สปสช. กระจายชุดตรวจ ATK ผ่าน “โครงการกระจายอุปกรณ์ตรวจแอนติเจนด้วยตนเอง (ATK) เพื่อคัดกรองการติดเชื้อ COVID-19” ของประชาชนกลุ่มเสี่ยง ผ่านแอปฯ เป๋าตัง ซึ่งเป็นการขยายบริการให้ครอบคลุมการเข้าถึงสิทธิสร้างเสริมสุขภาพและระบบสาธารณสุขอย่างต่อเนื่อง สำหรับประชาชนคนไทยทุกสิทธิ ที่เป็นกลุ่มเสี่ยงติดเชื้อโควิด-19 สามารถทำตามขั้นตอน ดังนี้

กรณีรับบริการผ่านสมาร์ทโฟน

- เข้าแอปฯ เป๋าตัง/กระเป๋าสุขภาพ เลือก “ฟรี ชุดตรวจโควิด”

- ทำแบบประเมินความเสี่ยงก่อนรับชุดตรวจโควิด-19

- หากมีความเสี่ยง ระบบจะให้ค้นหาหน่วยบริการใกล้ฉันและโทรติดต่อสอบถาม

- เดินทางไปรับพร้อมมือถือที่มีแอปเป๋าตัง เพื่อใช้สแกน QR Code แอปถุงเงินของหน่วยบริการ

- ได้รับชุดตรวจ 2 ชุด นำกลับมาตรวจและบันทึกผลผ่านแอปเป๋าตัง/กระเป๋าสุขภาพ

กรณีไม่มีสมาร์ทโฟน

- โทร 1330 หรือผ่านเว็บไซต์ สปสช.เพื่อตรวจสอบข้อมูลหน่วยบริการที่เข้าร่วมโครงการ

- เดินทางไปที่หน่วยบริการ พร้อมบัตรประชาชน/สูติบัตร เพื่อให้ ตัวแทนหน่วยบริการ ทำประเมินความเสี่ยงให้

- หากมีความเสี่ยงจะได้รับชุดตรวจ 2 ชุด และนำกลับมาตรวจและกลับมาแจ้ง ตัวแทนหน่วยบริการที่ให้บันทึกผลตรวจให้

- สิ้นวัน ตัวแทนหน่วยบริการสแกน QR Code แอปถุงเงินของหน่วยตนเองเพื่อบันทึกการแจก (แจกได้ 100 คน/วัน)

ที่ผ่านมา ธนาคารได้ร่วมกับ สปสช. เปิดให้ประชาชนจองสิทธิการเสริมสร้างสุขภาพและป้องกันโรครวม 16 บริการ ผ่านกระเป๋าสุขภาพ หรือ Health Wallet บนแอปพลิเคชันเป๋าตัง เพื่อช่วยอำนวยความสะดวกให้กับประชาชนสามารถเข้าถึงบริการด้านสุขภาพ สิทธิสร้างเสริมสุขภาพและป้องกันโรค ซึ่งเป็นสิทธิการรักษาพยาบาลของภาครัฐ ที่มอบให้กับประชาชน ในการดูแลสุขภาพของตนเองตั้งแต่แรกเกิดจนถึงวัยสูงอายุได้สะดวกรวดเร็วขึ้น 

เริ่มตั้งแต่การจองสิทธิฉีดวัคซีนไข้หวัดใหญ่ตามฤดูกาล 2564 การเปิดให้บริการ ชุดตรวจโควิด-19 “Antigen Test Kit (ATK)” ผ่าน “โครงการกระจายอุปกรณ์ตรวจแอนติเจนด้วยตนเอง (ATK) เพื่อคัดกรองการติดเชื้อ COVID-19” ของประชาชนกลุ่มเสี่ยง ผ่านแอปฯ เป๋าตัง 

และโครงการให้บริการจองสิทธิขอรับยาเม็ดคุมกำเนิดผ่านกระเป๋าสุขภาพ (Health Wallet) บนแอปฯ เป๋าตัง โดยธนาคารกรุงไทยมีความพร้อมในการพัฒนาระบบ Krungthai Digital Health Platform ให้มีประสิทธิภาพและเกิดประโยชน์สูงสุดกับผู้ใช้บริการทุกคน เพื่อร่วมเป็นส่วนหนึ่ง ในการยกระดับระบบสาธารณสุขของประเทศอย่างยั่งยืน

สำหรับผู้ที่ยังไม่เคยดาวน์โหลดแอปฯ เป๋าตัง ซึ่งสามารถดาวน์โหลดและลงทะเบียนได้ที่ https://krungthai.com/link/paotang-ktbwallet โดยธนาคารมีความมุ่งมั่นในการพัฒนาระบบแอปฯ เป๋าตัง เพื่อรองรับการดำเนินนโยบายของภาครัฐ และทำให้คนไทยทุกคนสามารถเข้าถึงบริการและมาตรการต่างๆ ของภาครัฐได้อย่างทั่วถึง เพื่อยกระดับชีวิตความเป็นอยู่ของคนไทยและสร้างความยั่งยืนให้สังคมในระยะยาวต่อไป

ด้าน รศ.(พิเศษ) ภก.กิตติ พิทักษ์นิตินันท์ นายกสภาเภสัชกรรม กล่าวว่า ขณะนี้มีร้านยาที่เข้าร่วมโครงการประมาณ 1,500 ร้านทั่วประเทศและยังรับสมัครเพิ่มเรื่อยๆ โดยการดำเนินการในรอบนี้ได้มีการปรับระบบใหม่ จากที่ร้านยารอรับ ATK จากสำนักงานสาธารณสุขจังหวัดเปลี่ยนเป็นให้ร้านยาสามารถจัดหาได้เอง 

โดย สปสช. จ่ายเงินให้เคสละ 55 บาท ซึ่งวิธีการนี้จะทำให้ร้านยามีความยืดหยุ่น สามารถจัดหา ATK ได้เหมาะสมตามความต้องการของประชาชนมากขึ้น ซึ่งสภาเภสัชกรรมได้เจรจากับองค์การเภสัชกรรม (อภ.) ให้เป็นผู้สนับสนุนหลักในการจัดหา ATK แก่ร้านยาที่เข้าร่วมโครงการ 

เพราะการที่ อภ. ซื้อในล๊อตใหญ่จะช่วยให้จัดหาได้ในราคาต้นทุนที่ต่ำ ขณะเดียวกันยังได้ประสานกับบริษัทผู้จัดจำหน่ายที่มีสินค้าอยู่ในสต๊อกและยินดีขายในราคาพิเศษแก่ร้านยาที่เข้าร่วมโครงการ ทางสภาเภสัชกรรมจะจัดทำรายชื่อบริษัทที่พร้อมขาย ATK ในราคาพิเศษให้ร้านยาที่เข้าร่วมโครงการได้รับทราบและเตรียมสั่งซื้อต่อไป

ส่วนการจ่ายเงินนั้น สปสช.จะจ่ายเงินผ่านระบบของแอปพลิเคชันเป๋าตังซึ่งจะทำให้เกิดความรวดเร็วมากขึ้น ดังนั้น 2 ประเด็นนี้จะเป็นหลักประกันช่วยทำให้โครงการเดินหน้าไปด้วยดี และหลังจากนี้จะมีการประชุมชี้แจงการปรับระบบให้ร้านยารับทราบ เพื่อสร้างความมั่นใจว่าไม่น่าจะมีปัญหาแบบเดิมแล้ว และน่าจะทำให้ร้านยาสนใจเข้าร่วมกระจาย ATK มากขึ้น

สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่สายด่วน สปสช. 1330 ตลอด 24 ชม. หรือ คลิก https://lin.ee/zzn3pU6 เพิ่มเพื่อนไลน์กับ สปสช. @nhso


ข้อมูลจาก สำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ

ภาพจาก แฟ้มภาพ TNN ONLINE



ยอดนิยมในตอนนี้

แท็กยอดนิยม

ข่าวที่เกี่ยวข้อง