"ชัยนาท" เจอภัยแล้ง ชาวนาไร้น้ำปลูกข้าวทิ้งร้างนับพันไร่

สถานการณ์ภัยแล้งทำให้คลองส่งน้ำในพื้นที่ ต.หนองขุ่น อ.วัดสิงห์ จ.ชัยนาท เริ่มแห้งขอด จากสภาวะฝนทิ้งช่วง รวมไปถึงพื้นที่นาข้าวนับพันไร่ของชาวบ้านเองก็ต้องถูกทิ้งร้าง ทุ่งหญ้าสลับดินยาวสุดสายตา โดยชาวบ้านบอกว่า ในพื้นที่ไม่มีฝนตกลงมาหลายเดือน จะมีบ้างก็ไม่พอที่จะได้น้ำให้ทำประโยชน์อะไรได้ ทำให้พื้นที่ต้องประสบภัยแล้งนาข้าวไม่มีน้ำต้นทุนเพียงพอที่จะปลูกข้าวได้ จึงต้องปล่อยให้รกร้างไปก่อน รอวันที่จะมีฝนลงมาให้น้ำหลากคลองจึงจะสามารถเพาะปลูกได้
ขณะที่น้ำในเขื่อนเจ้าพระยา ต.บางหลวง อ.สรรพยา จ.ชัยนาท ล่าสุดน้ำเหนือจากปริมาณฝนที่ตกทางตอนบนของประเทศ ช่วยให้น้ำที่ไหลเข้าเขื่อนเจ้าพระยมามีปริมารเพิ่มขึ้นโดยล่าสุดน้ำเหนือไหลผ่านจุดวัดน้ำC2 หน้าค่ายจิรประวัติ อ.เมืองนครสวรรค์ เข้าเขื่อนเจ้าพระยาเพิ่มขึ้นวัดได้ 359 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที ทำให้ระดับน้ำเหนือเขื่อนเจ้าพระยายกตัวขึ้นเล้กน้อย ล่าสุดวัดได้ 14.88 เมตรจากระดับน้ำทะเลปานกลาง แต่ระดับน้ำเหนือเขื่อนยังคงต่ำกว่าเกณฑ์มาตรฐานกักเก็บเข้าสู่เดือนที่8 ขณะที่เขื่อนเจ้าพระยาได้คงการระบายน้ำไว้ที่อัตรา 80 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที เพื่อรักษาระบบนิเวศลำน้ำและผลักดันน้ำเค็มปากแม่น้ำ ส่วนระดับน้ำท้ายเขื่อนทรงตัวต่อเนื่องล่าสุดวัดได้ 5.49 เมตรจากระดับน้ำทะเลปานกลาง ทำให้ยังคงมองเห็นสันดอนทรายโผล่พ้นน้ำขึ้นมาจนสามารถเดินข้ามไปมา2ฝั่งได้
โดยทางราชการยังคงย้ำเตือนว่าแม้จะมีปริมาณน้ำจากฝนเพิ่มขึ้นในช่วงนี้ แต่ยังต้องขอให้ประชาชนในพื้นที่ลุ่มภาคกลาง เตรียมรับมือกับสถานการณ์ฝนทิ้งช่วงและภัยแล้งที่จะเกิดขึ้นได้ในช่วงกลางเดือนเมษายนไปจนถึงต้นเดือนพฤษภาคม โดยขอใช้น้ำอย่างประหยัด ไม่ควรทำนาต่อเนื่อง เพราะในช่วงหน้าแล้งน้ำต้นทุนยังคงมีจำกัด ไม่เพียงพอที่จะจัดสรรเพื่อการทำนา โดยให้หันไปปลูกพืชใช้น้ำน้อยอย่างพืชตระกูลถั่วหรือข้าวโพดแทน