รีเซต

CKเตรียมแรงงานพร้อม ลุยโครงการบิ๊กโปรเจ็กต์

CKเตรียมแรงงานพร้อม ลุยโครงการบิ๊กโปรเจ็กต์
ทันหุ้น
20 มิถุนายน 2565 ( 06:02 )
106
CKเตรียมแรงงานพร้อม ลุยโครงการบิ๊กโปรเจ็กต์

 

#CK #ทันหุ้น – CK เตรียมวางแผนจัดหาแรงงานต่างด้าวเข้ามาฝึกหัด เตรียมรองรับงานบิ๊กโปรเจ็กต์ที่จะเพิ่มขึ้นอย่างมากในปี 2566 หลังรัฐไฟเขียวเปิดรับแรงงานต่างด้าวเข้าประเทศตามแนวทาง ศบค. ย้ำเร่งทำ MOU กับทั้งรัฐบาลเมียนมา กัมพูชา และสปป.ลาว ส่งแรงงานเข้ามาทำงาน หนุนผู้ประกอบการขับเคลื่อนเศรษฐกิจในประเทศ

 

นายสุชาติ ชมกลิ่น รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน เปิดเผยภายหลังศูนย์บริหารสถานการณ์โรคโควิด-19 (ศบค.) ผ่อนคลายมาตรการการเดินทางเข้าประเทศของชาวต่างชาติ ว่า กระทรวงแรงงานได้เตรียมแผนรองรับการเดินทางเข้ามาทำงานในประเทศไทยของแรงงานข้ามชาติจำนวนมากไว้แล้ว เพื่อสนับสนุนให้ผู้ประกอบการอุตสาหกรรมต่างๆ สามารถเพิ่มกำลังการผลิตได้ 100%

 

พร้อมกันนี้ยังช่วยเป็นตัวกลางประสานงานระหว่างผู้ประกอบการไทย กับหน่วยงานภาครัฐบาลของทั้งเมียนมา, กัมพูชา, และ สปป.ลาว คัดเลือกแรงงานเข้ามาทำงานอย่างถูกต้องตามกฎหมาย ตามแนวทางที่ได้ลงนามบันทึกข้อตกลงร่วมกัน (MOU) ไว้ตั้งแต่เมื่อปี 2563 เพื่อให้ได้แรงงานตามปริมาณที่ภาคเอกชนต้องการ โดยแรงงานเหล่านี้จะเดินทางผ่านด่านตรวจคนเข้าเมือง 5 จังหวัด คือ ตาก ระนอง สระแก้ว หนองคาย และมุกดาหาร

 

“การนำเข้าแรงงานต่างด้าวตาม MOU ระหว่างหน่วยงานรัฐบาล มีการทำงานร่วมกันทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทั้ง สำนักงานตรวจคนเข้าเมือง กระทรวงสาธารณสุข กระทรวงการต่างประเทศ กระทรวงมหาดไทย และกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร ดังนั้น แรงงานที่เข้ามาตามระบบจะเป็นแรงงานที่ฉีดวัคซีน เรียบร้อยและจะได้รับบัตรแรงงาน ถูกต้องตามกฎหมาย นายจ้างก็จะไม่ต้องกังวลว่าจะเกิดปัญหา สามารถติดตามและตรวจสอบได้”

 

โดยปัจจุบันมีนายจ้างยื่นคำร้องขอนำคนต่างด้าวเข้ามาทำงานในประเทศมากกว่า 2 พันคำร้อง จำนวนแรงงานมากกว่า 2 แสนคน โดยอุตสาหกรรมที่นายจ้างยื่นคำร้องมากสุด 5 อันดับ คือ กิจการก่อสร้าง, จำหน่ายอาหารและเครื่องดื่ม, กิจการต่อเนื่องการเกษตร, ปศุสัตว์โรงฆ่าสัตว์-ชำแหละ, และผลิตหรือจำหน่ายผลิตภัณฑ์อิเล็กทรอนิกส์

 

*CK พร้อมลุยงาน

 

ฝ่ายนักลงทุนสัมพันธ์ บริษัท ช.การช่าง จำกัด (มหาชน) หรือ CK เปิดเผยว่า การที่รัฐบาลผ่อนคลายมาตรการนำเข้าแรงงานต่างด้าวตั้งแต่ช่วงครึ่งหลังของปี 2565 เป็นต้นไป ถือว่าเป็นช่วงเวลาเหมาะสมที่บริษัท และพันธมิตรร่วมธุรกิจจะเตรียมวางแผนจัดหาแรงงานต่างด้าวเข้ามาฝึกหัด เตรียมรองรับปริมาณงานภาคสนามที่จะทยอยเพิ่มขึ้นตั้งแต่ไตรมาส 1/2566 เป็นต้นไป ในส่วนของแรงงานใน สปป.ลาว นั้น ปัจจุบันมีเพียงพอ และมีความพร้อมที่จะเข้าเริ่มงานโครงการโรงไฟฟ้าพลังงานน้ำแห่งใหม่ทันทีที่บริษัทลงนามสัญญาก่อสร้าง เบื้องต้นคาดว่าจะมีความชัดเจนภายในปี 2565 นี้

 

“ในส่วนของบริษัทเองยังมีแรงงานเพียงพอที่จะดำเนินโครงการตามสัญญาจัดซื้อ จัดจ้าง ณ ปัจจุบัน แต่สำหรับซับคอนแทรกต์นั้นยังประสบปัญหาแรงงานในระดับหนึ่ง ทั้งนี้ได้ติดตามแนวทางการดำเนินนโยบายภาครัฐอย่างใกล้ชิด เพื่อพิจารณาวางแผนจัดหาแรงงานเข้ามารองรับปริมาณงานที่จะเพิ่มขึ้นอย่างมากในปี 2566”

 

*ตุนแบ็กล็อก 7 พันล.

 

ทั้งนี้ปัจจุบันบริษัทมีงานในมือ (Backlog) ราว 7 พันล้านบาท มีสัดส่วนทั้งงานาครัฐบาล และภาคเอกชน ดังนั้นจึงยังสามารถบริหาร จัดการแรงงานที่มีให้เหมาะสม และสอดคล้องกับลักษณะงานแต่ละส่วน สำหรับความคืบหน้าโครงการขนาดใหญ่ อาทิ รถไฟทางคู่เด่นชัย – เชียงราย เชียงของ และรถไฟฟ้าสายสีม่วงส่วนใต้ ปัจจุบันอยู่ในขั้นตอนการออกแบบ และการเตรียมงานเบื้องต้นคาดว่าใช้ระยะเวลาประมาณ 6 เดือน

 

ขณะเดียวกันบริษัทอยู่ระหว่างศึกษารายละเอียดเอกสารสำหรับการคัดเลือกเอกชน (Request for Proposal : RFP) โครงการรถไฟฟ้าสายสีส้ม ช่วงบางขุนนนท์ – มีนบุรี ควบคู่กับการเจรจากับพันธมิตรทางธุรกิจทั้งในประเทศ และต่างประเทศ เพื่อจัดทำเอกสารเสนอเข้าร่วมประมูลโครงการดังกล่าวในวันที่ 27 กรกฎาคม 2565 นี้

 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง