GFPTออเดอร์ยุโรปแกร่ง ดันยอดขายใน-นอกพุ่ง
#GFPT #ทันหุ้น – GFPTไม่ได้รับผลกระทบจากเศรษฐกิจยุโรปชะลอตัว ย้ำผลงานครึ่งหลังโตตามเป้า หนุนทั้งยอดขายใน-ต่างประเทศ เดินหน้าลงทุนทั้งโรงเชือด-โรงงานแปรรูปปรุงสุก รองรับการขยายฐานการตลาด ด้านโบรกปรับเป้าการเติบโตของรายได้ในปี 2565 ขึ้นมาที่ 16,494 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 19.69% YoY และกำไรปกติที่ 1,670 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 833.4%YoY เคาะเป้าหมาย 21.50 บาท
นายวีระ ธิตยางกรุวงศ์ ผู้จัดการแผนกนักลงทุนสัมพันธ์ บริษัท จีเอฟพีที จำกัด (มหาชน) หรือ GFPT เปิดเผยว่า ภาพรวมผลการดำเนินงานงวดครึ่งหลังของปี 2565 มีแนวโน้มเติบโตได้ตามเป้าหมายที่ตั้งไว้ เนื่องจากผลิตภัณฑ์อาหารถือเป็นปัจจัยสำคัญ จึงไม่ได้รับผลกระทบจากการชะลอตัวของเศรษฐกิจในทวีปยุโรป และแม้ว่าบริษัทจะพิจารณาให้ส่วนลดกับคู่ค้าสำคัญในญี่ปุ่น เพื่อช่วยลดผลกระทบจากการที่ค่าเงินสกุลสำคัญ อ่อนตัวลงเมื่อเทียบกับค่าเงินดอลลาร์สหรัฐ ก็ไม่ส่งผลอย่างมีนัยต่อศักยภาพการทำกำไรรวมของบริษัท
*ออเดอร์ยุโรปแกร่ง
ขณะเดียวกันยอดขายชิ้นส่วนไก่, ลูกไก่ ฯลฯ ในประเทศก็ยังคงทรงตัวสูงได้อย่างแข็งแกร่ง เบื้องต้นยังคาดการณ์ราคาขายปลีกเฉลี่ยทั้งปีจะยังอยู่ที่ 47 กิโลกรัม แม้ว่ากระทรวงพาณิชย์จะยังคงควบคุมราคาขายปลีกเนื้อสัตว์บกในประเทศทั้งราคาเนื้อไก่ และราคาเนื้อหมู ส่งผลให้บริษัทสามารถจำหน่ายชิ้นส่วนไก่ได้เกือบทุกส่วน ประกอบกับต้นทุนวัตถุดิบอาหารเลี้ยงสัตว์เริ่มทยอยปรับลดลงอย่างมีนัยสำคัญตั้งแต่งวดไตรมาส 4/2565 ถือเป็นปัจจัยหนุนภาพรวมยอดขาย และกำไรขั้นต้นทั้งปี 2565 ของบริษัทมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นอย่างน่าพอใจ
“ปีนี้บริษัทสามารถทำยอดจำหน่ายชิ้นส่วนไก่ได้ดีมากเกือบทุกส่วนรวมถึงโครงไก่ และเครื่องใน ส่งผลให้แทบไม่มีผลิตภัณฑ์ส่วนใดที่ไม่สามารถจำหน่ายได้เลย โดยคำสั่งซื้อจากลูกค้าทางทวีปยุโรปยังแข็งแกร่ง ซึ่งบริษัทสามารถส่งสินค้าได้อย่างต่อเนื่องตั้งแต่ช่วงเดือนสิงหาคม-ตุลาคม แต่มีแนวโน้มชะลอตัวเล็กน้อยในเดือนพฤศจิกายน เนื่องจากเริ่มเข้าสู่ช่วงการหยุดยาวทางยุโรป ส่วนกรณีที่ค่าเงินสกุลสำคัญในระบบเศรษฐกิจโลกเคลื่อนไหวอ่อนค่าลง เนื่องจากค่าเงินสกุลดอลลาร์สหรัฐ แข็งค่า บริษัทจึงพิจารณาให้ส่วนลดกับคู่ค้าสำคัญในญี่ปุ่นเพื่อรักษาตลาดไว้ ก็ไม่ส่งผลต่อศักยภาพการทำกำไรเพราะราคาจำหน่ายที่ผ่านมาค่อนข้างสูง”
*ขยายตลาดหนุนโต
สำหรับซาอุดีอาระเบีย ถือเป็นตลาดสำหรับผลิตภัณฑ์ประเภทเนื้อไก่สดแช่แข็งที่สำคัญอีกตลาด ซึ่งบริษัทอยู่ระหว่างประสานงาน เตรียมความพร้อมด้านเอกสาร และขั้นตอนการทำธุรกิจ เนื่องจากต้องดำเนินการให้ถูกต้องตามหลักศาสนาประจำประเทศ
ขณะเดียวกันบริษัทอยู่ระหว่างลงทุนขยายโรงเชือดไก่แห่งใหม่ในจัวหวัดชลบุรี กำลังการผลิต 2.9 แสนตัวต่อวัน เบื้องต้นคาดว่าจะแล้วเสร็จช่วงกลางปี 2566 ซึ่งคาดว่าจะสอดคล้องกับการรองรับความต้องการที่จะเพิ่มขึ้นทั้งในจีน และซาอุดีอาระเบีย พร้อมกันนี้ บริษัทได้ใช้งบประมาณ 1-1.2 พันล้านบาท เพื่อปรับปรุงโรงงานแปรรูปไก่ปรุงสุกแปรรูป เพื่อรองรับความต้องการที่เพิ่มขึ้นในทวีปยุโรป ขณะเดียวกันยังมุ่งขยายฐานการตลาดเข้าไปในอังกฤษ หลังจากแยกตัวออกมาจากสหภาพยุโรปอีกด้วย
*แนะซื้อ เป้า 21.50 บ.
บริษัทหลักทรัพย์ หยวนต้า (ประเทศไทย) จำกัด ระบุถึง GFPT มีแนวโน้มรายงานกำไรสุทธิงวดไตรมาส 3/2565 ที่ระดับสูงสุดของปี จากราคาไก่หน้าฟาร์มในประเทศที่ยืนระดับสูงที่ 49-52 บาทต่อกิโลกรัม เทียบกับราคาขายเฉลี่ยในงวดไตรมาส 2/2565 ที่เฉลี่ย 44.4 บาทต่อกิโลกรัม (อิงสำนักงานเศรษฐกิจ การเกษตร) และราคาโครงไก่ที่ทรงตัวอยู่ระดับสูงเช่นกันที่ 26 – 27 บาทต่อกิโลกรัม ประกอบกับเป็นช่วง High Season ของการส่งออก และมีคำสั่งซื้อบางส่วนจากยุโรปที่ถูกเลื่อนมาใน 3/2565
เบื้องต้นจึงคาดว่าปริมาณการส่งออกของ GFPT งวดไตรมาส 3/2565 จะเพิ่มขึ้นเป็น 8,100 – 8,400 ตัน ส่วนด้านต้นทุนแม้จะชะลอตัวเล็กน้อย QoQ แต่ยังถือว่าอยู่ในระดับสูงเทียบกับสถานการณ์ปกติ แต่คาดจะเห็นการเติบโตของอัตรากำไรขั้นต้น (GPM) ได้ต่อ ขณะที่ส่วนแบ่งกำไรจากบริษัทร่วมคาดทรงตัว QoQจึงพิจารณาปรับเป้าหมายการเติบโตของรายได้ในปี 2565 ขึ้นมาที่ 16,494 เพิ่มขึ้น 19.69% YoY และกำไรปกติที่ 1,670 ล้านบาทเพิ่มขึ้น 833.4%YoY จึงคงคำแนะนำ “ซื้อ” ราคาเหมาะสมปี 2565 ที่ 21.50 บาท และยังเลือกให้เป็น Top Pick ของกลุ่มฟาร์มสัตว์บก