รู้จัก “ไซยาไนด์ (Cyanide)” สารพิษรุนแรง และอาการอันตรายหลังเผลอรับประทาน

รู้จัก "ไซยาไนด์" สารเคมีอันตรายถึงชีวิต
ไซยาไนด์ (Cyanide) เป็นสารเคมีชนิดหนึ่งซึ่งมีความเป็นพิษสูง มีการนำมาใช้ในอุตสาหกรรมต่าง ๆ หรือเป็นส่วนประกอบของผลิตภัณฑ์บางประเภท เช่น ยาฆ่าแมลง น้ำยาขัดเงาโลหะ น้ำยาทำความสะอาดเครื่องเพชรพลอย ใช้ในอุตสาหกรรมการถลุงโลหะ ฯลฯ
สามารถพบไซยาไนด์ได้ในหลายรูปแบบ ได้แก่ ภาวะก๊าซ hydrogen cyanide เกิดจากการเผาไหม้สารพลาสติก polyurethane และหนังเทียม รูปแบบของแข็งหรือสารละลาย ได้แก่ potassium cyanide และ potassium cyanide solution
นอกจากนี้ยังสามารถพบไซยาไนด์ได้ในธรรมชาติเช่น ในมันสำปะหลังดิบ โดยเมื่อรับประทานแล้วร่างกายจะทำการย่อยสารบางชนิดในมันสำปะหลังดิบให้เป็นไซยาไนด์เข้าสู่เซลล์ในร่างกาย ในกรณีนี้อาการแสดงของพิษจากไซยาไนด์สามารถเกิดขึ้นในเวลาหลาย ๆ ชั่วโมงหลังจากรับประทาน
ไซยาไนด์ถูกนำเข้าสู่ร่างกายได้ด้วยวิธีใด ?
ไซยาไนด์อาจถูกนำเข้าสู่ร่างกายทางปาก ด้วยการละลายผลึกโพแทสเซียมไซยาไนด์ในน้ำหรือเครื่องดื่ม หรือทำให้เป็นผงแล้วผสมลงในอาหาร หรือผสมไซยาไนด์ในรูปของของเหลวลงในน้ำหรือเครื่องดื่มหรืออาหารได้โดยตรง นอกจากนั้น ยังอาจถูกนำเข้าสู่ร่างกายทางการหายใจด้วยไซยาไนด์ที่อยู่ในรูปของแก๊ส
ผู้ได้รับไซยาไนด์จะรู้ตัวหรือไม่ ?
ไซยาไนด์ เป็นสารที่ไม่มีสีและกลิ่น เฉพาะบางคนเท่านั้นที่อาจรับรู้กลิ่นของไซยาไนด์ได้ ซึ่งจะมีกลิ่นคล้ายกับอัลมอนด์ กลิ่นนี้บางคนบอกว่าคล้ายกับกลิ่นของเมล็ดพืชหรือเมล็ดผลไม้ที่มีความขม เช่น เมล็ดแอปเปิ้ลหรือเมล็ดลูกพีช ส่วนโพแทสเซียมไซยาไนด์มีรสชาติที่ขม หากได้รับในปริมาณมากจะมีความรู้สึกแสบหรือเผาไหม้ในปากคล้ายกับการสัมผัสกับสารด่างซึ่งเป็นสารเคมีที่มีฤทธิ์กัดกร่อนสูง
เมื่อถูกสารพิษจะเป็นอันตรายต่อร่างกายอย่างไรบ้าง?
ผู้ป่วยมักจะเริ่มปรากฏมีอาการหลังจากได้ไซยาไนด์ภายในเวลาไม่กี่วินาที เริ่มจากปวดศีรษะ ใจสั่น หน้าแดง หมดสติ ชัก และอาจจะเสียชีวิตภายในเวลา 10 นาที ในรายที่รุนแรงน้อยกว่าจะกดการทำงานของระบบประสาทและการหายใจ
ถ้าได้รับไซยาไนด์แต่ยังไม่ถึงขั้นเสียชีวิต จะมีอาการอย่างไร ?
บุคคลอาจได้รับไซยาไนด์ในขนาดต่ำโดยไม่ตั้งใจ เช่นจากอาหารบางชนิดซึ่งมีไซยาไนด์เป็นส่วนประกอบ อาจมีอาการดังต่อไปนี้คือ เจ็บหน้าอก แน่นหน้าอก หัวใจอาจเต้นช้าลงหรือเร็วขึ้น หายใจลำบาก การหายใจอาจช้าลงหรือเร็วขึ้น อาจหายใจมีเสียงหวีด สับสน เวียนศีรษะ กระสับกระส่าย ปวดศีรษะ ปวดตา น้ำตาไหล คลื่นไส้ อาเจียน อ่อนแรง
ต้องได้รับไซยาไนด์มากน้อยเพียงใดจึงจะเสียชีวิต ?
ผู้ใหญ่โดยทั่วไปมักเสียชีวิตหากได้รับไซยาไนด์ทางปากในปริมาณ 200-300 มิลลิกรัม ซึ่งเทียบได้กับปริมาณของเกลือประมาณครึ่งถึงหนึ่งในสี่ของช้อนชา
ไซยาไนด์ทำให้เสียชีวิตได้อย่างไร ?
เมื่อเข้าสู่ร่างกายทั้งด้วยการกินหรือการสูดหายใจ ไซยาไนด์เข้าขัดขวางการใช้พลังงานของเซลล์ในร่างกาย ทำให้เซลล์ต่าง ๆ ของร่างกายขาดออกซิเจน โดยเฉพาะที่สมองและหัวใจ ทำให้เกิดอาการชัก หัวใจเต้นผิดจังหวะ และหัวใจหยุดเต้น
ผู้ได้รับไซยาไนด์จะเสียชีวิตอย่างรวดเร็วเสมอไปหรือไม่ ?
หากได้รับไซยาไนด์ทางปากในขนาดสูงมักเสียชีวิตในเวลาเป็นนาที แต่หากได้รับในปริมาณต่ำอาจใช้เวลานานขึ้นเป็นหลายนาทีหรือเป็นชั่วโมง ซึ่งมีโอกาสได้รับยาต้านพิษและช่วยชีวิตได้ทัน
วิธีป้องกันและวิธีปฐมพยาบาลเบื้องต้น
วิธีการป้องกันคือ การหลีกเลี่ยงการสัมผัสสารไซยาไนด์ และวิธีปฐมพยาบาลเบื้องต้น เมื่อสัมผัสกับสารไซยาไนด์ให้รีบลดปริมาณสารไซยาไนด์ให้เร็วที่สุด แล้วรีบมาโรงพยาบาล โดยวิธีปฏิบัติขึ้นอยู่กับวิธีที่สัมผัสกับสารไซยาไนด์
- ทางการสูดดม ควรรีบออกจากพื้นที่ หากไม่สามารถออกจากพื้นที่ได้ควรก้มต่ำลงบนพื้น ในกรณีที่ผู้ป่วยหายใจลำบากหรือหยุดหายใจ อาจจำเป็นต้องได้รับออกซิเจน แต่ไม่ควรผายปอดด้วยวิธีปากต่อปาก
- ทางการสัมผัสผ่านผิวหนัง ถอดเสื้อผ้าของผู้ป่วยออก โดยพยายามไม่ให้ชิ้นส่วนของเสื้อผ้าที่ปนเปื้อนสัมผัสกับผิวหนังของผู้ป่วยและผู้ช่วยเหลือ จากนั้นทำความสะอาดร่างกายด้วยน้ำและสบู่
- ทางการรับประทาน ให้รีบล้างปาก ไม่ควรทำการกระตุ้นให้เกิดการอาเจียน
- ทางดวงตา หากสวมคอนแทคเลนส์ให้รีบถอดออก แล้วใช้น้ำสะอาดล้างตา 10 - 15 นาที
ทั้งนี้ยังไม่มีวิธีการปฐมพยาบาลอย่างเฉพาะเจาะจงกับผู้สัมผัสไซยาไนด์ ควรรีบส่งผู้ป่วยไปโรงพยาบาลที่ใกล้ที่สุดในทันที
Tag
ยอดนิยมในตอนนี้
