“ซิดนีย์” ร้อนระอุ อุณหภูมิแตะ 40 องศาฯ คลื่นความร้อนสูงทุบสถิติ เสี่ยงเกิดไฟป่า

ออสเตรเลียกำลังเผชิญกับสภาพอากาศสุดขั้ว คลื่นความร้อนปกคลุมฝั่งตะวันออกและตอนใต้ของประเทศ ส่งผลให้รัฐนิวเซาท์เวลส์ และควีนส์แลนด์ มีอุณหภูมิสูงทำลายสถิติ โดยกรุงซิดนีย์อุณหภูมิสูงสุด 37 องศาเซลเซียสขณะที่บางพื้นที่รอบเมืองอุณหภูมิสูงแตะ 40 องศาเซลเซียส ซึ่งเป็นสถิติอุณหภูมิสูงที่สุดในเดือนตุลาคม สภาพอากาศที่ร้อนจัดทำให้สำนักงานอุตุนิยมวิทยาของออสเตรเลีย ออกคำเตือนให้ประชาชนระวังอาการป่วยจากคลื่นความร้อน โดยเฉพาะฮีทสโตรก ซึ่งอาจทำให้เวียนหัว คลื่นไส้ อาเจียน หายใจลำบาก และเกิดตะคริวขึ้นได้ นอกจากนี้ในพื้นที่ยังเกิดลมแรง ซึ่งเพิ่มความเสี่ยงไฟป่าระดับสูง ทางการของออสเตรเลียประกาศห้ามเผาในพื้นที่ภาคตะวันตกตอนบน เนื่องจากมีไฟป่ากว่า 37 จุด ยังคงลุกไหม้ และมี 13 จุดที่ยังไม่ได้สามารถควบคุมไฟได้

ขณะที่รัฐวิกตอเรีย ทางตะวันออกเฉียงใต้ของประเทศ เกิดพายุลมแรง 120 กิโลเมตรต่อชั่วโมง สร้างความเสียหายในหลายพื้นที่ หน่วยกู้ภัยของรัฐวิกตอเรียได้รับแจ้งเหตุต้นไม้ล้มกว่า 550 ครั้ง เมื่อช่วงเย็นวันพุธที่ผ่านมา (22 ต.ค.) 

สำนักอุตุนิยมวิทยาของออสเตรเลีย ระบุว่า คลื่นความร้อนที่เกิดขึ้นมีสาเหตุจากมวลอากาศร้อนที่สะสมในรัฐเวสเทิร์นออสเตรเลียและนอร์ทเทิร์นเทร์ริทอรีตลอดหลายสัปดาห์ ถูกผลักไปพื้นที่ทางตะวันออกจากระบบความกดอากาศต่ำที่เคลื่อนผ่านทางตอนใต้ของประเทศ โดยอุณหภูมิเฉลี่ยของออสเตรเลียเพิ่มสูงขึ้น 1.5 องศาเซลเซียส ตั้งแต่ปี 1910 ซึ่งเป็นผลจากการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ ทำให้เกิดคลื่นความร้อนและพายุลมแรงบ่อยขึ้นและรุนแรงมากขึ้น