รีเซต

TCAP โบรกฯ แนะนำ "ซื้อ" คาดปีนี้ยังปันผลสูงถึง 7.7%

TCAP โบรกฯ แนะนำ "ซื้อ" คาดปีนี้ยังปันผลสูงถึง 7.7%
ทันหุ้น
24 พฤษภาคม 2565 ( 10:20 )
686
TCAP โบรกฯ แนะนำ "ซื้อ" คาดปีนี้ยังปันผลสูงถึง 7.7%

บล.แลนด์ แอนด์ เฮ้าส์ จำกัด (มหาชน) ส่องหุ้น บริษัท ทุนธนชาต จำกัด (มหาชน) หรือ TCAP กำไร Q1/65 บริษัทย่อย+ร่วมหลักๆ ยังทำได้ดีขึ้น แต่กำไรลดลงมากเป็นผลจากรายการ one time ปรับประมาณการกำไรลงเล็กน้อย จากกำไร Q1/65 ทำได้ต่ำคาด ภายใต้คาดปีนี้ไม่มีรายการ one time แต่ยังหวังบริษัทย่อยและร่วมฟื้นตัวจากสถานการณ์โควิดผ่อนคลาย หนุนกำไร TCAP ยังทรงตัวได้ในปีนี้ ยังโดดเด่นเรื่องปันผลสูงสม่ำเสมอ คาดปีนี้ยังมีอัตราเงินปันผลตอบแทนที่สูงถึง 7.7% ราคายังมี upside 11% จากราคาเป้าหมายใหม่ที่ 42.90 บาท แนะนำ“ซื้อ” รับปันผล

 

ประเด็นการลงทุน

กำไร Q1/65 บ.ลูกยังทำได้ดีขึ้น แต่กำไรลดลงเป็นผลจากรายการ one time Q1/65 TCAP มีกำไรสุทธิ 1,036 ลบ. ลดลง 3.9%YoY จากการ mark to market พอร์ตลงทุน เป็นหลัก หากเทียบ QoQ กำไรลดลงถึง 41.44% เพราะ Q4/64 มีรายการที่เป็น one time เข้ามาจากกำไรขายทรัพย์รอการขาย ทั้งนี้หากดูกำไรของบริษัทร่วมและบริษัทย่อยหลักๆ ยังมีกำไรที่ปรับตัวเพิ่มขึ้นตามตาราง

 

ยังเหลือเงินสดราว 2 พันลบ. เพื่อเตรียมลงทุนเพิ่ม ภายหลังการขาย TBANK ได้นำเงินไปลงทุนเพิ่มสัดส่วนในบริษัทย่อยและบริษัทร่วมมาตลอด รวมถึงจัดตั้งบริษัทย่อย T-PLUS เมื่อ 26 เม.ย.64 เพื่อทำธุรกิจสินเชื่อแบบมีหลักประกัน ล่าสุดถือหุ้นใน THANI 60.49%TNS และ TNI แห่งละ 50.96% ถือ MBK LIFE และ T-PLUS แห่งละ 100% และยังถือ บบส.MAX, TS, NFS83.44%, 99.99% และ 100% ตามลำดับ สำหรับบ.ร่วม ได้มีการขอลงทุนเพิ่มใน TTB ซึ่งธปท.อนุมัติถือหุ้นได้ไม่เกิน 25% ล่าสุดเพิ่งซื้อหุ้นเพิ่มใน TTB ทำให้ถือหุ้นอยู่ 23.32% ขณะที่ยังถือใน MBK 23.78% ปัจจุบันมีเงินสดเหลือราว 2 พันลบ. เพื่อเตรียมลงทุนเพิ่ม แต่ยังไม่เห็นดีลที่น่าสนใจพอ จึงยังไม่ได้เข้าลงทุนเพิ่ม ยอมรับ T-PLUS ซึ่งลูกค้าเป็น SME ขนาดเล็ก ยังปล่อยสินเชื่อได้ไม่เป็นไปตามเป้า เพราะหลังเศรษฐกิจฟื้นลูกค้าเริ่มหันกับไปกู้ธนาคารแทน อย่างไรก็ดี ยังเชื่อว่ามีดีมานด์อยู่ จึงพยายามเร่งรุกทำตลาดเพิ่มขึ้น 

 

ปรับประมาณการกำไรลงเล็กน้อยสะท้อนกำไร Q1/65 ทำได้เพียง 17% ของประมาณการกำไรทั้งปีจากกำไร Q1/65 คิดเป็นเพียง 17% ของประมาณการทั้งปีของฝ่ายวิจัย จึงมีการปรับประมาณการกำไรปี 65 ลง บนพื้นฐานไม่มีกำไรจากรายการพิเศษเข้ามาเลยในปีนี้ ปรับลดผลประกอบการของบบส.ที่เป็นบ.ลูก ทั้ง 3 แห่ง หลังจาก Q1/65 มีผลขาดทุน จากที่คาดว่าทั้งปีจะมีกำไร โดยเป็นการปรับประมาณการกำไรสุทธิลง 3.8% โดยยังเชื่อว่าบ.ร่วมและบ.ย่อยอย่าง TTB และ THANI ที่มี contribution หลักราว 46% และ 19% ของกำไรทั้งหมด จะมีผลประกอบการที่ดีขึ้นเป็นลำดับใน 3 ไตรมาสที่เหลือตามการฟื้นตัวของเศรษฐกิจและยอดปล่อยสินเชื่อรถบรรทุกที่ยังเติบโตสูงตามยอดขายรถบรรทุกที่ยังเติบโตได้ดีในปีนี้ ทั้งนี้ประเมินกำไรสุทธิปีนี้อยู่ที่ 5,301 ลบ. ทรงตัวเทียบปีก่อน อย่างไรก็ดียังคาดหวังการจ่ายปันผลในระดับสูงเหมือนปกติ คาดปี 65 จ่าย @3.- เท่าปี 64 หรือคิดเป็นDividend Yield  7.7% 

 

แนะนำ “ซื้อรับปันผล” เพื่อสะท้อนการปรับลดประมาณการกำไรลง ได้ปรับราคาเป้าหมายลงเหลือ 42.90 บาท อิง 0.75XPBV65F ภายใต้วิธี GGM โดยปรับลดสมมติฐาน LT ROE จาก 8.8% เหลือ 8%,ใช้ LT Growth ที่ 5% และ Cost of equity 10%  ยังคาดหวังการฟื้นตัวขึ้นของธุรกิจในบริษัทย่อยและร่วม หลังสถานการณ์โควิดคลี่คลาย ประกอบกับTCAP ถือเป็นหุ้นที่จ่ายปันผลสูงสม่ำเสมอ ทั้งนี้ ราคาหุ้นปัจจุบันยังมี upside ราว 11% จึงแนะนำ “ซื้อ” รับปันผล

 

ปัจจัยเสี่ยง ผลโควิด-19 ระลอกใหม่บวกวิกฤติรัสเซีย-ยูเครนยืดเยื้อกระทบเศรษฐกิจให้ชะลอตัวมากเกินคาดส่งผลต่อคุณภาพสินทรัพย์ 

 

ยอดนิยมในตอนนี้

แท็กยอดนิยม

ข่าวที่เกี่ยวข้อง