MBK กำไร Q1/67 ที่ 667 ลบ. โต 288% ธุรกิจศูนย์การค้า-โรงแรมหนุน
![MBK กำไร Q1/67 ที่ 667 ลบ. โต 288% ธุรกิจศูนย์การค้า-โรงแรมหนุน](https://cms.dmpcdn.com/contentowner/2020/08/18/15980f10-e133-11ea-8e82-0b494f6be91c_original.jpg)
![MBK กำไร Q1/67 ที่ 667 ลบ. โต 288% ธุรกิจศูนย์การค้า-โรงแรมหนุน](https://cms.dmpcdn.com/news/2024/05/15/0a349fe0-12bb-11ef-aec7-6b878602a99f_original.jpeg)
#MBK #ทันหุ้น-บริษัท เอ็ม บี เค จำกัด(มหาชน) หรือ MBK แจ้งตลาดหลักทรัพย์ฯ ไตรมาส 1/67 มีกำไร 666.77 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 288% จากช่วงเดียวกันปีก่อน ที่มีกำไร 172.45 ล้านบาท โดยรายได้จากการดำเนินงานในไตรมาส 1/67 อยู่ที่ 2,887 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 22%
ธุรกิจศูนย์การค้ามีรายได้เพิ่มขึ้น 187 ล้านบาท หรือ 32% โดยภาพรวมทุกศูนย์การค้ามีอัตราการถือครองพื้นที่เช่า (Occupancy rate) และอัตราค่าเช่าพื้นที่โดยเฉลี่ยเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง
ธุรกิจโรงแรมและการท่องเที่ยวมีรายได้เพิ่มขึ้น 79 ล้านบาท หรือ 20% เนื่องจากภาคธุรกิจท่องเที่ยวมีการเติบโตขึ้น ประกอบกับจำนวนนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติเดินทางท่องเที่ยวมากขึ้นอย่างต่อเนื่อง จึงทำให้ทุกโรงแรมมีอัตราการเข้าพักและรายได้เฉลี่ยต่อห้องพักเพิ่มขึ้น
ธุรกิจกอล์ฟมีรายได้เพิ่มขึ้น 11 ล้านบาท หรือ 7% สนามกอล์ฟทุกสนามทั้งในจังหวัดปทุมธานีและจังหวัดภูเก็ตมีรายได้เพิ่มขึ้นจากจำนวนนักกอล์ฟทั้งชาวไทยและต่างประเทศมาใช้บริการมากขึ้น และรายได้เฉลี่ยต่อรอบที่เพิ่มขึ้น
ธุรกิจอสังหาริมทรัพย์มีรายได้เพิ่มขึ้น 39 ล้านบาท หรือ 35% รายได้ส่วนใหญ่มาจากการรับรู้รายได้ของโครงการที่อยู่อาศัยซึ่งมียอดเพิ่มขึ้น 35 ล้านบาท
ปัจจุบัน โครงการที่อยู่อาศัยต่างๆ มียอดขายแล้วแต่รอการโอนกรรมสิทธิ์ (Backlog) และจะรับรู้รายได้ในงวดถัดไปของปีปัจจุบันอีกประมาณ 215 ล้านบาท
ธุรกิจอาหารมีรายได้เพิ่มขึ้น 184 ล้านบาท หรือ 47% จากยอดขายข้าวในประเทศที่เพิ่มขึ้น 160 ล้านบาท ส่วนใหญ่มาจากช่องทางการขายแบบ OEM (Original Equipment Manufacturer) เพิ่มขึ้น 139 ล้านบาทจากปริมาณการสั่งซื้อที่เพิ่มขึ้นทั้งจากลูกค้าเดิมและลูกค้ารายใหม่
ธุรกิจการเงินมีรายได้เพิ่มขึ้น 22 ล้านบาท หรือ 4% ปัจจุบัน ธุรกิจการเงินยังคงมีความเข้มงวดในการปล่อยสินเชื่อ ติดตามสถานะการชำระหนี้ และประเมินความเสี่ยงด้านเครดิตอย่างสม่ำเสมอ เพื่อลดโอกาสในการผิดนัดชำระหนี้
ธุรกิจการประมูลมีรายได้ลดลง 11 ล้านบาท หรือ 6% ตามจำนวนรถเข้าประมูลที่ลดลง เนื่องจากในปัจจุบันสถาบันการเงินมีความเข้มงวดในการให้สินเชื่อรถยนต์มากขึ้นเพื่อลดผลกระทบของหนี้เสียและการยึดรถ