รีเซต

ARROW บาทแข็งต้นทุนลด ล็อกเป้าโครงการใหญ่ AOT

ARROW บาทแข็งต้นทุนลด ล็อกเป้าโครงการใหญ่ AOT
ทันหุ้น
9 ธันวาคม 2568 ( 00:50 )
16

               นายธานินทร์  ตันประวัติ กรรมการผู้จัดการ บริษัท แอร์โรว์ ซินดิเคท จำกัด (มหาชน) หรือ ARROW เปิดเผยกับ “ทันหุ้น” ว่า สัญญาณผลงานปี 2568 ยังสดใส กำไรขั้นต้น (มาร์จิ้น) เพิ่มขึ้น หลังเงินบาทแข็งช่วยลดต้นทุนการนำเข้าวัตถุดิบ โดยเฉพาะสินค้าเหล็กและอุปกรณ์ประกอบหลัก ขณะที่ราคาวัตถุดิบยังทรงตัวในระดับต่ำ หนุนอัตรากำไรขั้นต้นขยายตัวต่อเนื่อง คาดยืนยาวถึงปี 2569 พร้อมเดินหน้าตุนสต๊อกวัตถุดิบรองรับดีมานด์จากงานในมือและงานใหม่ที่เตรียมเข้าสู่การประมูล

** แบ็กล็อก 700 ล้าน

               ปัจจุบัน ARROW มียอดงานในมือ (Backlog) ราว 700 ล้านบาท ช่วยสร้างความมั่นใจต่อรายได้ในระยะสั้นถึงกลาง แม้งานโครงสร้างพื้นฐานภาครัฐหลายโครงการในปี 2568 ยังชะลอตัวจากด้านงบประมาณและการเร่งรัดขั้นตอน แต่บริษัทมีมุมมองบวกต่อโครงการขนาดใหญ่ที่จะเข้าสู่การประมูล เช่น รถไฟฟ้า อู่ตะเภา และสนามบินพาณิชย์ในเครือ AOT รวมถึงงานสาธารณูปโภคอื่นๆ ที่เกี่ยวเนื่องกับระบบขนส่งขนาดใหญ่

               ทั้งนี้ หากโครงการระบบรางและสนามบินหลายแห่งเดินหน้าได้ตามกรอบเวลาในปี 2569 จะหนุนความต้องการสินค้าและงานติดตั้งเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ ขณะที่ตลาดอสังหามีโอกาสฟื้นตัวตามโครงการคมนาคมของภาครัฐ ซึ่งจะช่วยให้อุตสาหกรรมก่อสร้างกลับมาคึกคักอีกครั้งในช่วง 1–2 ปีข้างหน้า และส่งผลเชิงบวกต่อเนื่องต่อธุรกิจของบริษัท

               สำหรับแผนขยายตลาดต่างประเทศ ARROW เตรียมเดินหน้าโครงการ “Free Trade Zone” บนพื้นที่กว่า 30 ไร่ คาดเริ่มทยอยดำเนินการปี 2569 ใช้เป็นฐานการผลิตเพื่อการส่งออก โดยได้รับสิทธิยกเว้นภาษีนำเข้า–ส่งออก ช่วยลดต้นทุนและเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันในตลาดต่างประเทศ

** เคาะเป้า 8.10 บ.

               บริษัทหลักทรัพย์ โกลเบล็ก จำกัด ระบุถึง บริษัท แอร์โรว์ ซินดิเคท จำกัด (มหาชน) หรือ ARROW ว่า ARROW  รายงานกำไรสุทธิไตรมาส 3/2568 ดีกว่าคาด 14.6% โดย ARROW มีรายได้จากการขายและบริการงวดไตรมาส 3/2568  อยู่ที่ 311.2 ล้านบาท เติบโต +12.2% เมื่อเทียกับไตรมาสก่อนหน้า จากการรับรู้คำสั่งซื้อที่เลื่อนมาจากไตรมาสก่อนบางส่วน แต่ยังหดตัว -12.0% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันกับปีก่อน สืบเนื่องจากตลาดอสังหาริมทรัพย์หดตัวลงแรงราว 10–15% ตามภาวะเศรษฐกิจไทยที่เติบโตต่ำ ส่งผลต่อรายได้และกำลังซื้อประชาชนลดลง

               ด้านอัตรากำไรขั้นต้นอยู่ที่ 29.9% ดีขึ้นเล็กน้อยจาก 29.8% ในไตรมาสก่อน และเพิ่มขึ้นจาก 27.8% ในไตรมาส 3/2567 จากการที่บริษัทเร่งเก็บสต๊อกเหล็กในช่วงเงินบาทแข็งค่า ทำให้ต้นทุนวัตถุดิบต่ำลง ขณะที่ SG&A ต่อรายได้อยู่ในระดับเฉลี่ย 12.0–12.5% และไม่มีการตั้งสำรองหนี้สงสัยจะสูญเหมือนไตรมาสก่อน ส่งผลให้บริษัทมีกำไรสุทธิไตรมาส 3/2568 ที่ 40.1 ล้านบาท (ดีกว่าประมาณการที่ 35 ล้านบาท) เติบโต +21.3%  เมื่อเทียบกับไตรมาสก่อนหน้า แต่ลดลง -10.1%  เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันกับปีก่อนจากฐานสูงปีก่อน

               ขณะที่กลยุทธ์เก็บสต็อกเหล็กล่วงหน้าหนุนอัตรากำไรขั้นต้นปรับตัวขึ้นมาอยู่ที่ประมาณ 25.5% และช่วยคงภาพการเติบโตปี 2569 จึงคงคำแนะนำ “ซื้อ” ราคาเหมาะสม 8.10 บาท อิง PER 13 เท่า และคาด EPS ราว 0.62 บาท ชี้ราคาหุ้นยังมีอัพไซด์ใกล้ 7–8% พร้อมผลตอบแทนเงินปันผลระดับ 7–8% ต่อปี

ยอดนิยมในตอนนี้

แท็กยอดนิยม

ข่าวที่เกี่ยวข้อง