Elon Musk เผย ! ผู้ทดลอง Neuralink ควบคุมเมาส์ด้วยความคิดได้แล้ว
อีลอน มัสก์ (Elon Musk) เผย ผู้ป่วยมนุษย์รายแรกที่ได้รับการฝังชิปสมองจากบริษัท นิวรัลลิงก์ (Neuralink) ฟื้นตัวเต็มที่ และสามารถควบคุมเมาส์คอมพิวเตอร์โดยใช้ความคิดได้แล้ว โดยตอนนี้บริษัทกำลังพยายามให้ผู้ป่วยที่เข้ารับการฝังชิป ทดลองใช้ความคิดขยับเมาส์และคลิกเมาส์ให้ได้มากที่สุด
ก่อนหน้านี้บริษัท นิวรัลลิงก์ (Neuralink) ซึ่งเป็นสตาร์ทอัพด้านเทคโนโลยีเกี่ยวกับประสาทและสมอง ที่กำลังพัฒนาเรื่องการปลูกถ่ายฝังชิป และก่อตั้งโดย อีลอน มัสก์ (Elon Musk) ประสบความสำเร็จในการปลูกฝังชิปกับผู้ป่วยมนุษย์รายแรกเมื่อเดือนที่ผ่านมา หลังจากได้รับการอนุมัติจากองค์การอาหารและยาของสหรัฐอเมริกา ให้เปิดรับอาสาสมัคร เพื่อทำการทดลองฝังชิปในมนุษย์
แนวทางการทดลองของบริษัท จะใช้หุ่นยนต์เพื่อผ่าตัดวางส่วนต่อประสาน ระหว่างสมองและคอมพิวเตอร์ หรือที่เรียกว่า brain-computer interface ในพื้นที่ของสมองที่ควบคุมการสั่งการเคลื่อนไหว โดยมีเป้าหมายในช่วงแรกคือการทำให้ผู้คนสามารถควบคุมเคอร์เซอร์เมาส์ หรือแป้นพิมพ์ที่เชื่อมต่อกับคอมพิวเตอร์ได้ โดยใช้ความคิด
สำหรับบริษัท นิวรัลลิงก์ (Neuralink) เป็นหนึ่งในบริษัทที่ อีลอน มัสก์ (Elon Musk) ตั้งเป้าหมายไว้อย่างยิ่งใหญ่ โดยเขาหวังว่ามันจะกลายเป็นทางเลือกทางการแพทย์สมัยใหม่ ที่สามารถผ่าตัดฝังชิปได้อย่างรวดเร็ว เพื่อช่วยรักษาโรคหรืออาการต่าง ๆ เช่น โรคอ้วน ออทิสติก โรคซึมเศร้า โรคทางจิตเภทต่าง ๆ
หากบริษัทสามารถพัฒนาเทคโนโลยีการฝังชิปในสมองได้สำเร็จ ก็อาจปูทางไปสู่การช่วยให้มนุษย์ใช้สัญญาณประสาทเพื่อควบคุมเทคโนโลยีภายนอก ซึ่งอาจจะช่วยผู้ป่วยอัมพาต หรือผู้ที่มีภาวะบกพร่องต่าง ๆ สามารถฟื้นฟูความสามารถที่สูญเสียไป เช่น การมองเห็น การเคลื่อนไหว และการสื่อสารด้วยการพูดได้
ทั้งนี้ บริษัท นิวรัลลิงก์ (Neuralink) ซึ่งมีมูลค่าประมาณ 5 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือราว 179,000 ล้านบาทในปีที่แล้ว ต้องเผชิญกับการเรียกร้องให้มีการตรวจสอบข้อเท็จจริง เกี่ยวกับระเบียบปฏิบัติด้านความปลอดภัยอยู่หลายครั้งด้วยกัน โดยสำนักข่าวรอยเตอร์ (Reuters) รายงานว่า เมื่อเดือนที่แล้ว บริษัทถูกปรับเนื่องจากละเมิดกฎของกระทรวงคมนาคมสหรัฐฯ เกี่ยวกับการเคลื่อนย้ายวัตถุอันตราย
อย่างไรก็ตามการทดลองทางคลินิกในมนุษย์ ก็ยังเป็นเพียงแค่ก้าวแรก ๆ ในเส้นทางสู่เป้าหมายของ นิวรัลลิงก์ (Neuralink) โดยบริษัทจะต้องผ่านการรวบรวมข้อมูล และการทดสอบความปลอดภัยอย่างเข้มข้นอีกหลายขั้นตอน ก่อนที่จะได้รับการอนุมัติขั้นสุดท้ายจากองค์การอาหารและยาของสหรัฐอเมริกา
ข้อมูลจาก reuter, tnnthailand, cnbc