ศบค.ย้ำสวม Face Shield ป้องกันโควิด-19 อย่างเดียวไม่เพียงพอ

วันนี้ (11มิ.ย.63) พญ.พรรณประภา ยงค์ตระกูล ผู้ช่วยโฆษกศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด-19 (ศบค.) ประเทศไทยเน้นย้ำมาตลอดเรื่องการสวมหน้ากาก ซึ่งขณะนี้มีงานวิจัยจากมหาวิทยาลัยเคมบริดจ์และมหาวิทยาลัยกรีนิช ระบุว่า การล็อกดาวน์เพียงอย่างเดียวไม่สามารถยับยั้งการระบาดของโควิด-19 แต่หากประชาชนร่วมมือกันสวมหน้ากากในที่สาธารณะ ก็จะสามารถลดการแพร่เชื้อลงได้อย่างมีนัยสำคัญ โดยพบว่าค่า R (Reproduction number) หรือความสามารถในการแพร่กระจายของเชื้อ พบว่าถ้าสวมหน้ากากอนามัย ความสามารถการแพร่กระจายของเชื้อจะลดลงครึ่งหนึ่ง สอดคล้องกับประกาศองค์การอนามัยโลกที่ให้สวมหน้ากากเมื่อออกพื้นที่สาธารณะ
พญ.พรรณประภากล่าวว่า การสวมหน้ากากผ้าหรือหน้ากากอนามัย จะช่วยปิดทั้งจมูกและปาก ป้องกันละอองจากการไอจาม คือน้ำมูกน้ำลายเสมหะ ไม่ให้กระจายออกไป ซึ่งตรงนี้เป็นช่องทางหลักการแพร่กระจายของเชื้อโรค แต่การสวมเฟซชิลด์ (Face Shield) จะบังแค่บริเวณตา แต่จมูกปากยังแพร่กระจายออกไปได้ ถ้าไอหรือจามเชื้อโรคยังแพร่ออกไปได้ การสวมเฟซชิลด์อย่างเดียวไม่เพียงพอ ต้องสวมหน้ากากผ้าหรือหน้ากากอนามัย แต่อาจจะสวมร่วมกันได้โดยมีหน้ากากผ้าหรือหน้ากากอนามัยเป็นหลัก และสวมเฟซชิลด์เพิ่มขึ้นไป ซึ่งแนะนำในคนที่ต้องพบปะผู้คนจำนวนมาก สัมผัสใกล้ชิดผู้คนเป็นเวลานาน เช่น บุคลากรทางการแพทย์ แต่ถ้าจะสวมอย่างเดียวต้องเป็นหน้ากากผ้าหรือหน้ากากอนามัย
ทั้งนี้ ตามหลักการถ้าเราอยู่ห่างกันเกิน 2 เมตร โอกาสที่จะรับเชื้อก็จะลดลงหรือความเสี่ยงต่ำ แต่เพื่อความปลอดภัยสูงสุด ป้องกันไม่ให้แพร่เชื้อผู้อื่นหรือรับเชื้อมาได้ ก็ควรจะสวมหน้ากากอนามัยแม้จะไปที่สาธารณะ
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
WHOเปลี่ยนจุดยืนครั้งใหญ่! หน้ากากผ้า ป้องกันเชื้อโควิด-19 ได้
เปิดประวัติ หน้ากากอนามัย เซฟชีวิตหมอ-ผู้ป่วยมานานนับร้อยปี
แพทย์เตือน! อย่าให้เด็กต่ำกว่า 2 ขวบสวมหน้ากากอนามัย
เกาะติดข่าวที่นี่
website: www.TNNThailand.com
facebook : TNNThailand
facebook live : TNN Live
twitter : @TNNThailand
Line : @TNNONLINE
Youtube Official : TNNThailand
Instagram : @tnn_online
Tag
ยอดนิยมในตอนนี้
